‘ธ.ก.ส.’ เล็งตั้ง AMC แฮร์คัตหนี้เกษตรสูงวัย ปักธงสางกลุ่ม 70 ปีขึ้นไป มูลหนี้ 1 หมื่นล้าน
‘ธ.ก.ส.’ เล็งตั้ง AMC เดินเครื่องแก้หนี้สินภาคเกษตร ปักธงสางกลุ่มสูงอายุ 70 ปีขึ้นไป หนี้ไม่เกิน 3 แสนบาท มูลหนี้รวม 1 หมื่นล้านบาท หลังอัดมาตรการช่วยเหลือเต็มสูบแต่ยังไม่ฟื้น พร้อมกางแผน 5-10 ปี ลุยปรับโครงสร้างพอร์ตสินเชื่อ-พอร์ตอายุลูกหนี้ เสริมแกร่ง ปูพรมช่วยเกษตรกรต่อ
25 ส.ค. 2568 - นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ธนาคารอยู่ระหว่างการเร่งพิจารณาแนวทางเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินในกลุ่มเกษตรกร โดยเฉพาะเกษตรกรที่สูงอายุ ตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป หลังจากที่ก่อนหน้านี้ นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.การคลัง ในฐานะประธานกรรมการ ธ.ก.ส. ได้มอบนโยบายให้เร่งพิจารณาเรื่องนี้อย่างเข้มข้น โดยยอมรับว่ามีการพิจารณาในหลายมิติ หลายแนวทาง ซึ่งแนวทางการจัดตั้งบริษัทจัดการสินทรัพย์ (Asset Management Company : AMC) ก็เป็นแนวทางหนึ่งที่มีการพิจารณาอยู่
ทั้งนี้ แนวทางในการจัดตั้ง AMC นั้น ต้องมาพิจารณาถึงความเหมาะสมด้วยว่า หากเป็นการไปร่วมดำเนินการกับ AMC ของนิติบุคคลอื่น ก็ต้องมาดูวัตถุประสงค์ AMC ของหน่วยงานดังกล่าวด้วยว่าสอดคล้องกับ ธ.ก.ส. หรือไม่ หรือจะดำเนินการจัดตั้ง AMC เอง ซึ่งมองว่าเหมือนการบริหารจัดการหนี้ปกติ เพียงแต่แยกออกมาเป็นกลุ่มเฉพาะ เช่น เกษตรกรที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป มีมูลหนี้ไม่เกิน 3 แสนบาท มีหลักประกันเป็นที่ดิน หรือสิทธิการเช่า หรือไม่มีหลักประกันแต่เป็นการค้ำประกันแบบกลุ่ม โดยตรงนี้อาจจะต้องมาดูว่าเงื่อนไขใดบ้างที่จะสามารถดำเนินการได้เลยภายใต้กรอบกฎหมาย ซึ่งขณะนี้ ธ.ก.ส. กำลังเร่งพิจารณาเพื่อเสนอกลับไปยังบอร์ด ธ.ก.ส. โดยยืนยันว่าจะได้ข้อสรุปทั้งหมดภายในปี 2568 แน่นอน
“ที่ดูไว้ตอนนี้คือ กลุ่มเกษตรกรที่มีอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไป ซึ่งส่วนใหญ่มีมูลหนี้ไม่มาก แต่ระยะเวลาในการเป็นหนี้ค่อนข้างหน้า ตรงนี้มีมูลหนี้รวมราว 1 หมื่นล้านบาท ที่มองกลุ่มนี้ก่อน เพราะเราดูแล้วว่า ภายใต้เงื่อนไขเรื่องอายุตั้งแต่ 70 ปีขึ้นไปนั้น ลูกหนี้กลุ่มนี้ได้ผ่านมาตรการช่วยเหลือของ ธ.ก.ส. มาจำนวนมากแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถฟื้นได้ ตรงนี้ต้องพูดกันตรง ๆ เพราะกลุ่มนี้จะมองแค่ว่าเป็นหนี้ระยะยาว 5-10 อย่างเดียวคงไม่ได้ ต้องไปมองว่าที่ผ่านมาลูกหนี้กลุ่มนี้ผ่านการช่วยเหลือมามากแล้ว แต่ก็ยังไม่ฟื้น จนเรียกว่าน่าจะเข้าข่ายหนี้เรื้อรัง” นายฉัตรชัย กล่าว
นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า หากพิจารณาตามกรอบกฎหมายของ ธ.ก.ส. แล้ว มองว่าการตั้ง AMC ขึ้นมาเองนั้น ก็เข้าข่ายกรณีการตัดหนี้สูญ (แฮร์คัต) แต่ภายใต้การตัดหนี้สูญนั้นจะต้องมีกระบวนการ ที่หลักใหญ่เลยจะต้องไม่ทำให้รัฐเสียหาย ดังนั้นภายใต้เงื่อนไขของกลุ่มลูกหนี้ที่กำลังจะเร่งดำเนินการช่วยเหลือนั้น เหล่านี้ธนาคารได้มีการสำรองเต็มเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นกลุ่มนี้ก็สามารถทำแฮร์คัตหนี้ได้ แต่กระบวนการที่ทำจะต้องถูกต้องตามกฎหมาย ต้องมีการเสนอและได้รับความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง หรือคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก่อน และมองว่า แนวทางในการให้ ธ.ก.ส. จัดตั้ง AMC ขึ้นมาเองจะรวดเร็วกว่า สามารถดำเนินการได้ทันที โดยไม่ต้องไปแก้กฎหมาย เมื่อเทียบกับการไปร่วมกับหน่วยงานอื่น ซึ่งอาจจะมีกระบวนการที่ยาวกว่า
อย่างไรก็ดี เกี่ยวกับสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรที่ตกต่ำนั้น ผู้จัดการ ธ.ก.ส. ยืนยันว่า ปัจจัยเสี่ยงดังกล่าวไม่ได้ส่งผลกระทบ หรือเพิ่มความเสี่ยงให้กับสัดส่วนหนี้เสียของธนาคารให้ปรับตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมา ธ.ก.ส. ได้มีการออกมาตรการในการให้ความช่วยเหลือลูกค้าเพื่อรองรับผลกระทบจากปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำเยอะมาก ทั้งการยืดหรือขยายระยะเวลา ซึ่งในทางกลับกัน มองว่ามาตรการที่ได้ออกไปนั้นทำให้ภาระในการปิดจบหนี้ หรือภาระหนี้ของลูกค้ายาวนาน และมากขึ้น
“ธ.ก.ส. ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรลูกค้าทุกวิถีทาง ซึ่งการยืดหนี้ก็เป็นแนวทางหนึ่ง แต่ตามหลักการปกติแล้วระยะเวลาหนี้ที่ยาวขึ้น ก็จะทำให้ภาระหนี้มากขึ้นตามไปด้วย และธนาคารไม่ได้มีเจตนาที่จะไปฟ้องยึดที่ของเกษตรมาขายทอดตลอดเหมือนกระบวนการปกติทั่วไป สถานการณ์เหล่านี้ก็สอดคล้องกับสถานการณ์ลูกหนี้ในภาคเกษตรที่กลายเป็นกลุ่มสูงวัยมากขึ้นด้วย ตรงนี้เป็นประเด็นสำคัญที่ต้องเร่งแก้ปัญหา ซึ่ง ธ.ก.ส. วางแผนในระยะ 5-10 ปี ในการปรับโครงสร้างอายุลูกหนี้ โครงสร้างพอร์ตสินเชื่อของธนาคาร เพราะว่าธนาคารเองก็ต้องแข็งแรงด้วย จึงจะมีแรงช่วยเกษตรกรในหลากหลายมิติได้” ผู้จัดการ ธ.ก.ส. ระบุ