"สภาพัฒน์" เผย จ้างงานในไทยทรงตัว-หนี้ครัวเรือนหดตัวครั้งแรก ระวังผลกระทบภาษีทรัมป์-ขาดแคลนแรงงาน
"สภาพัฒน์" แถลงภาวะสังคมไตรมาส 2 ปี 2568 จ้างงานทรงตัว หนี้ครัวเรือนหดตัวครั้งแรก เฝ้าระวังผลภาษีทรัมป์-ขาดแคลนแรงงาน
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ รายงานภาวะสังคม ไตรมาส 2/2568 พบว่า สถานการณ์แรงงานในไตรมาส 2/68 ผู้มีงานทำ มีจำนวนทั้งสิ้น 39.5 ล้านคน เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.02% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (ไตรมาส 2/67) และเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 1/68 ซึ่งอยู่ที่ 39.4 ล้านคน โดยแบ่งเป็นแรงงานในภาคเกษตรกรรม 10.9 ล้านคน และแรงงานนอกภาคเกษตรกรรม 28.6 ล้านคน
การจ้างงานในไตรมาส 2/68 ทรงตัว โดยภาคเกษตรกรรมลดลงต่อเนื่อง ขณะที่สาขานอกภาคเกษตรกรรมปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยสาขาที่การจ้างงานขยายตัวมากที่สุด คือ สาขาการขนส่ง/เก็บสินค้า และสาขาโรงแรม/ภัตตาคาร นอกจากนี้ ในภาพรวมของชั่วโมงการทำงานของแรงงาน เฉลี่ยอยู่ที่ 42.7 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ โดยภาคเอกชน อยู่ที่ 46.9 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ สำหรับผู้ทำงานล่วงเวลา อยู่ที่ 6.3 ล้านคน ลดลง 8% ขณะที่ผู้ทำงานต่ำระดับ อยู่ที่ 1.6 แสนคน ลดลง 4%
ไตรมาส 2/68 มีผู้ว่างงานประมาณ 3.7 แสนคน คิดเป็นอัตราการว่างงาน 0.91% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาส 1/68 ซึ่งอัตราการว่างงานอยู่ที่ 0.88% โดยในส่วนของค่าจ้างแรงงาน พบว่า ค่าจ้างแรงงานในภาพรวมเฉลี่ยอยู่ที่ 15,977 บาท/คน/เดือน ลดลง 1.9% แต่ค่าจ้างแรงงานเฉลี่ยของภาคเอกชน อยู่ที่ 14,370 บาท/คน/เดือน เพิ่มขึ้น 2.4%
"สภาพัฒน์" เผย ประเด็นด้านแรงงานที่ต้องเฝ้าระวัง
1. ผลกระทบจากการปรับอัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ ต่อการจ้างงานในประเทศไทย
2. การปรับรูปแบบการจ้างงานของสถานประกอบการ จากสภาวะเศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอน ซึ่งส่วนมากเป็นการลดการจ้างงานพนักงานประจำเต็มเวลา โดยหันไปใช้รูปแบบการจ้างงานแบบบไม่เต็มเวลามากขึ้น
3. การขาดแคลนแรงงานต่างด้าว โดยเฉพาะผลจากมาตรการเชิงบังคับในการดึงแรงงานกลับประเทศกัมพูชา
4. การเกิดอันตรายจากการทำงานที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
หนี้ครัวเรือนไตรมาส 2 ปี 2568 หดตัวครั้งแรก คุณภาพสินเชื่อยังมีปัญหา
สภาพัฒน์ เปิดเผยถึงหนี้สินครัวเรือนไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 87.4% ของ GDP หดตัว 0.1% ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยธนาคารพาณิชย์เป็นเจ้าหนี้รายใหญ่ที่สุด ขณะที่คุณภาพสินเชื่อของครัวเรือนยังคงมีปัญหา ซึ่งประเด็นที่ควรให้ความสำคัญ คือ เงินกู้นอกระบบอาจมีแนวโน้มสูงขึ้น และ การใช้บริการซื้อก่อนจ่ายทีหลัง (BNPL) ซึ่งพบเห็นใน SPayLater หรือ Lazada paylater อาจกระตุ้นให้ผู้บริโภคก่อหนี้เกินตัวได้
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รัฐสภากัมพูชาผ่านร่างกฎหมายถอนสัญชาติบุคคลที่สมคบคิดกับต่างชาติ
- "กัมพูชา" อ่วม เจอพิษปิดด่าน-ภาษีทรัมป์ หั่นเป้าจีดีพีปี 2568 จาก 6.3% เหลือโต 5%
- “พิชัย” รับข้อเสนอ “หอการค้าไทย” ฟื้นฟูเศรษฐกิจ 7 จังหวัดชายแดน จากผลกระทบไทย-กัมพูชา
- "พิชัย" เผยไทยเตรียมหารือภาษี "Local Content" กับทางการสหรัฐฯ สัปดาห์หน้า