เตือน! รับมืออิทธิพลพายุ "คาจิกิ" จ่อถล่ม "ไทย"
กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศ เรื่อง พายุ "คาจิกิ" และฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทย ฉบับที่ 11 โดยระบุว่า เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (25 ส.ค.) พายุไต้ฝุ่น "คาจิกิ" บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างประมาณ 200 กิโลเมตร ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองวิญ ประเทศเวียดนาม หรือที่ละติจูด 18.3 องศาเหนือ ลองจิจูด 107.6 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 150 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งบริเวณเมืองวิญ ประเทศเวียดนามตอนบน และจะอ่อนกำลังลงเป็นพายุโซนร้อนในวันที่ 25 ส.ค. 68
หลังจากนั้น จะอ่อนกำลังลงเป็นพายุดีเปรสชัน เคลื่อนเข้าสู่ประเทศลาวในช่วงเช้าวันที่ 26 ส.ค. 68 พายุนี้มีแนวโน้มที่จะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง และเคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย บริเวณจังหวัดน่านในช่วงเย็นของวันที่ 26 ส.ค. 68
จากอิทธิพลดังกล่าว ทำให้ในช่วงวันที่ 25 - 26 ส.ค. 68 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน จะมีฝนตกหนักถึงหนักมากหลายพื้นที่ กับมีลมแรง ส่วนภาคเหนือ จะได้รับผลกระทบในช่วงวันที่ 25 - 27 ส.ค. 68 โดยเฉพาะบริเวณที่ใกล้กับเส้นทางเดินพายุ ได้แก่จังหวัดบึงกาฬ หนองคาย นครพนม สกลนคร อุดรธานี หนองบัวลำภู เลย อุตรดิตถ์ น่าน พะเยา แพร่ เชียงราย เชียงใหม่ ลำปาง ลำพูน และแม่ฮ่องสอน สำหรับภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก จะได้รับผลกระทบทางอ้อมจากพายุ
ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน และพื้นที่ลุ่ม
โดยจังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบจากฝนตกหนักถึงหนักมาก มีดังนี้
- วันที่ 25 สิงหาคม 2568
ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงราย ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม มุกดาหาร นครราชสีมา และอุบลราชธานี
ภาคกลาง: จังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นครปฐม รวมทั้งกรุงเทพมหานคร และปริมณฑล
ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่
- วันที่ 26 สิงหาคม 2568
ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย ตาก กำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก และเพชรบูรณ์
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี กาญจนบุรี ราชบุรี รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา และภูเก็ต
- วันที่ 27 สิงหาคม 2568
ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง สุโขทัย ตาก และกำแพงเพชร
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดหนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี
ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว ฉะเชิงเทรา จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี ระนอง พังงา และภูเก็ต
สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบน และอ่าวไทยตอนบน มีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง ส่วนเรือเล็กในบริเวณดังกล่าวควรงดออกจากฝั่งไว้ด้วย
น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยกลาง (กอปภ.ก.) ได้กำชับให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกแห่ง จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังและติดตามสภาพอากาศ ปริมาณฝน และสถานการณ์น้ำตลอด 24 ชั่วโมง ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยล่วงหน้า หากมีแนวโน้มเกิดสถานการณ์รุนแรง รวมทั้งเตรียมทีมปฏิบัติการพร้อมกำลังพล เครื่องจักรกลสาธารณภัย และชุดเคลื่อนที่เร็วเพื่อเข้าให้การช่วยเหลือได้ทันที พร้อมทั้งประสานการทำงานกับศูนย์ ปภ. เขต และหน่วยงานในพื้นที่เพื่อสนับสนุนการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย