บลจ.ไทยพาณิชย์ อัพเกรดหุ้นสหรัฐฯ เป็น “ทยอยสะสม” แนะธีม “AI Revolution”
บลจ.ไทยพาณิชย์ ประเมินหุ้นโลกสัปดาห์นี้ มีโมเมนตัมบวก คาดหวังเฟดลดดอกเบี้ย เพิ่มคำแนะนำหุ้นสหรัฐฯ เป็น“ทยอยสะสม” เกาะติดมาตรการภาษีนําเข้า รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมยื่นฎีกา แนะตลาดย่อ โอกาสลงทุนหุ้นธีม “AI Revolution”
บลจ.ไทยพาณิชย์ (SCBAM) มีมุมมองต่อการลงทุนสัปดาห์นี้ (1-5 ก.ย.2568) โดยประเมินว่าตลาดหุ้นโลกยังมีโมเมนตัมเชิงบวกจากความคาดหวังการลดดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด) ในเดือน ก.ย. ส่งผลให้ตลาดหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อได้ โดยปรับเพิ่มคําแนะนําในตลาดหุ้นสหรัฐฯ ขึ้นเป็น “ทยอยสะสม” หนุนจากผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 2/68 ที่ยังเติบโตแข็งแกร่ง และคาดการณ์กําไรตลาดหุ้นมีแนวโนมปรับเพิ่มขึ้น
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นอาจมีความผันผวนระยะสั้น หลังจากศาลอุทธรณ์สหรัฐฯ ตัดสินว่ามาตรการภาษีนําเข้าของสหรัฐฯ ส่วนใหญ่ผิดกฎหมาย ขณะที่รัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมยื่นเรื่องเข้าสู่ศาลฎีกา ทั้งนี้ มาตรการภาษีนําเข้าจะยังมีผลบังคับใช้ในช่วงพิจารณาคดี โดยหากตลาดเกิดการย่อตัว มองเป็นจังหวะสะสมเพิ่มเติม โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นในธีม “AI Revolution” ซึ่งคาดว่าจะปรับตัวขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยของตลาดโดยรวมจากความต้องการ AI ที่แข็งแกรง
ตลาดหุ้นยุโรป
การเจรจาการค้ามีพัฒนาการเชิงบวกมากขึ้น โดยยุโรปเสนอร่างขอบังคับยกเลิกภาษีนําเข้าสําหรับสินคาอุตสาหกรรมจากสหรัฐฯ เพื่อให้ภาษีนําเข้ารถยนต์จากยุโรปลดลงมาที่ 15% มีผลบังคับใช ทั้งนี้ คาดวาระยะสั้นตลาดหุนยุโรปมีความเสี่ยงผันผวนสูงขึ้น จากความไม่แนนอนของการเมืองในประเทศฝรั่งเศส ที่จะมีการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาลในวันที่ 8 ก.ย.
ตลาดหุ้นญี่ปุน
คงมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นญี่ปุน โดยคาดว่าหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีสัดส่วนค่อนข้างมากในดัชนี Nikkei225 มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นได้ดี จากความต้องการ AI ที่ยังคงแข็งแกรง และคาดการณ์กําไรตลาดหุ้นยังมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้น รวมทั้งการปฏิรูปตลาดทุนที่บริษัทจดทะเบียนทําการซื้อหุ้นคืนมากขึ้น น่าจะช่วยจํากัดความเสี่ยงขาลงของตลาดหุน
ตลาดหุ้นไทย
ระยะสั้น คาดว่าความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศจะส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยผันผวนสูงขึ้น แต่หากสามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ได้อย่างรวดเร็ว มีโอกาสที่ตลาดหุ้นจะกลับมาฟื้นตัวจากปัจจัยทางการเมืองที่ชัดเจนขึ้น รวมทั้ง หากดัชนีเงินเฟ้อ CPI ยังคงติดลบ คาดจะเป็นปัจจัยหนุนเพิ่มเติมต่อตลาดหุ้นจากความคาดหวังคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีโอกาสลดดอกเบี้ยต่อเนื่อง
ตลาดหุ้นจีน
คงมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุนจีนจากโมเมนตัมราคาที่ยังแข็งแกร่ง คาดว่ามีแรงหนุนจากสภาพคล่องที่เพิ่มขึ้นทั้งจากนักลงทุนต่างชาติ และนักลงทุนในประเทศที่เพิ่มการลงทุนในตลาดหุ้น แทนการออมเงินและลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ที่ให้ผลตอบแทนตํ่ากว่า รวมทั้ง ยังได้แรงหนุนจากนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในด้านเทคโนโลยี AI และมาตรการ Anti-Involution
ตลาดหุ้นอินเดีย
ปรับเพิ่มคําแนะนําขึ้นเป็น “คงนํ้าหนัก” โดยมองว่าความกังวลเรื่อง Tariff ที่อินเดียถูกเรียกเก็บในอัตรา 50% ได้สะท้อนในดัชนีราคาหุ้นพอสมควรแล้ว และคาดวาผลกระทบจากภาษีตต่อกําไรบริษัทจดทะเบียนมีไม่มาก เนื่องจากรายได้ส่วนใหญ่พึ่งพาการบริโภคในประเทศ และรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจแล้ว จึงคาดว่าตลาดหุนมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น
ตลาดหุ้นเกาหลีใต้
คงมุมมองเป็นกลาง โดยระยะสั้นมองวาตลาดหุ้นมีโอกาสพักตัว หรือ แกว่งตัวออกข้าง (ไซด์เวย์) จากความกังวลในเรื่องการผลิตชิปในจีนของบริษัท Samsung และ SK Hynix จะได้รับผลกระทบ หลังจากสหรัฐฯ เตรียมเพิกถอนสิทธิยกเวนการใช้เทคโนโลยีของสหรัฐฯ ในโรงงานที่จีน ส่งผลให้ตลาดหุนเกาหลีใตที่ปรับตัวขึ้นมาค่อนข้างมาก มีโอกาสถูกแรงขายทํากําไร
ตลาดหุ้นเวียดนาม
ตลาดหุนเวียดนามปรับตัวเพิ่มขึ้น จากความคาดหวังเชิงบวกของการยกระดับสถานะตลาดหุ้นในดัชนี FTSE Russell ที่จะมีการทบทวนรายชื่อในเดือน ก.ย. ทั้งนี้ บลจ.ไทยพาณิชย์ ยังมีมุมมองเป็นกลาง จากระดับราคาที่ปรับตัวขึ้นมาเร็วและแรง ประกอบกับวงเงินสินเชื่อเพื่อซื้อหลักทรัพย์ (มาร์จิ้นโลน)ในระบบทําระดับสูงสุดใหม่(นิวไฮ) สะท้อนการเก็งกําไรระดับสูงและเพิ่มความเสี่ยงต่อภาพการลงทุนระยะสั้น