บิ๊กเต่า เตือนคนถือทรัพย์สินวัดพระบาทน้ำพุ เร่งนำมาคืน ย้ำไม่คืนเจอหมายเรียก
บิ๊กเต่า เตือน คนถือทรัพย์สินวัดพระบาทน้ำพุ เร่งนำของคืน เผยตอนนี้ยังไม่มีใครมา ย้ำไม่คืนเจอหมายเรียก ชี้ทรัพย์สินยังตรวจสอบไม่หมด มีเงินสด-นอกบัญชีอีกเพียบ มูลค่าอาจเพิ่ม 2-3 เท่าตัว
เมื่อเวลา 13.35 น. วันที่ 28 ส.ค. 2568ที่รัฐสภาพล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (รอง ผบช.ก.) กล่าวถึงความคืบหน้าคดีวัดพระบาทน้ำพุว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน หลังตรวจยึดมาจำนวนมาก เพื่อขยายผลถึงคนที่เกี่ยวข้อง โดยผลประโยชน์ไม่ได้อยู่ที่วัดพระบาทน้ำพุอย่างเดียว แต่ไหลไปกับบุคคลจำนวนมาก ทั้งที่ดินหลายพันไร่ เงินสด อสังหาริมทรัพย์
ขอย้ำว่า ใครที่ถือครองทรัพย์สินของวัดอยู่ มีพยานหลักฐานหมดแล้ว ไม่อยากขยายวงดำเนินคดีเพิ่ม อยากดูเรื่องเจตนาในการถือครองทรัพย์สิน จึงขอให้มาแสดงตนกับเจ้าหน้าที่ หากใครยังคงถือครองอยู่ จะดำเนินคดีตามกฎหมาย เพราะต้องการนำทรัพย์สินเหล่านั้นกลับมาคืนวัด ที่เป็นเงินและแรงศรัทธาของประชาชน ต้องเป็นประโยชน์ส่วนรวม ไม่ใช่ประโยชน์ส่วนตน จึงต้องขอความร่วมมือประชาชนอีกครั้ง
ไม่ว่า จะทางตรงหรือทางอ้อม หรือเจ้าหน้าที่มูลนิธิและเจ้าหน้าที่วัด ที่กระทำไปโดยเจตนาหรือไม่เจตนา หรือรู้อยู่แล้วว่า เป็นการกระทำความผิดแต่เจ้านายใช้ให้กระทำ ขอให้มาให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ ก่อนถูกดำเนินการตามกฎหมาย เพราะยังมีคดีฟอกเงินและยักยอกทรัพย์เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย ไม่เช่นนั้นท่านจะตกเป็นผู้สนับสนุน
“ขณะนี้ ปปง.ได้สอบเส้นทางการเงินแล้วพบผู้ที่เกี่ยวข้องประมาณ 30 คน พบเงินหมุนเวียน 2-3 พันล้าน ยังไม่รวมเงินสดและทรัพยสินนอกบัญชี ที่ ปปง.ยังไม่สามารถตรวจสอบได้เป็นจำนวนมาก อาจจะเพิ่มขึ้นมา 2-3 เท่าตัวก็ได้” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุ
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า วันนี้ยังไม่มีผู้ที่ถือครองทรัพย์สินของวัดมาให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพราะเพิ่งแจงไปวานนี้ ต้องให้เวลาตั้งหลัก เนื่องจากเรื่องนี้ยืดเยื้อยาวนานมาก กว่า 20 ปี อาจมีการดื้อแพ่ง
ย้ำว่า หากให้ความร่วมมือ ก็จะกันไว้เป็นพยาน แต่ถ้าไม่มา ก็จะออกหมายจับ จึงอยากให้ทุกคนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ โดยตอนนี้ ยังไม่มีการขีดเส้นว่าจะต้องเข้ามาให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจภายในกี่วัน อยากดูเรื่องเจตนาเป็นหลัก แต่ถ้าไม่มาก็จะออกหมายเรียกตามลำดับ เนื่องจากอยากจะทำเรื่องนี้ให้เป็นตัวอย่างกับวัดอื่นด้วย ทำในลักษณะของวัดไร่ขิง
และมีเรื่องที่จะต้องทำการบ้านอีกหลายเรื่อง เพื่อตอบคำถามในเรื่องที่ยังไม่ชัดเจน และยังเป็นข้อสงสัย เช่น พระมีภรรยาหรือไม่ หมอบีเกี่ยวข้องอย่างไร มีเส้นเงินไปถึงใครบ้าง และมูลนิธินำเงินไปใช้จ่ายส่วนใดบ้าง มีความพัวพันกันหลายเรื่อง
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า การแก้ไขปัญหาสงฆ์ เจ้าหน้าที่อย่างเดียวอาจทำได้ไม่ละเอียดเพียงพอ ต้องอาศัยประชาชนและองค์กรต่างๆ ให้ช่วยกันขับเคลื่อน เพราะเราต้องการแยกพระดีกับพระไม่ดีออกจากกัน รวมถึงสร้างระบบป้องกันตรวจสอบการทุจริตให้เกิดขึ้น เครื่องสกรีนคนที่จะหนีคดีไปบวช และปาราชิกแล้วกลับมาบวชใหม่
ตอนนี้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับคำสั่งจากรัฐบาล ให้ช่วยกันแก้ไขปัญหาเรื่องนี้อย่างจริงจัง ก่อนจะย้ำว่าการแก้ไขปัญหาครั้งนี้ไม่ใช่การทำลายพระพุทธศาสนา แต่เป็นเรื่องของปัจเจกบุคคล เป็นพระที่อาศัยจีวรมากระทำความผิด
ส่วนเคสของหมอบี พบบุคคลใกล้ชิดกระทำความผิดด้วยหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า พบมีความเชื่อมโยง แต่รายละเอียดอยู่ในสำนวนขอไม่เปิดเผย
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : บิ๊กเต่า เตือนคนถือทรัพย์สินวัดพระบาทน้ำพุ เร่งนำมาคืน ย้ำไม่คืนเจอหมายเรียก
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th