นศ.แพทย์สาวหน้าคล้าย "ต้าเอส" โด่งดังชั่วข้ามคืน! เจอดราม่าจนเดือด-ลบรูปทิ้ง
นักศึกษาแพทย์สาวโด่งดังชั่วข้ามคืน เหตุหน้าคล้าย "ต้าเอส" แต่เจอคนหาว่าสร้างกระแส สุดท้ายลบรูปทิ้ง พร้อมตอกกลับเดือด ๆ 1 ประโยค
หญิงสาววัย 24 ปี นักศึกษาคณะแพทย์จากเมืองฉงชิ่ง ประเทศจีน กลายเป็นที่พูดถึงอย่างรวดเร็วในโลกออนไลน์ หลังเธอแชร์ภาพท่องเที่ยวที่มณฑลชิงไห่บนโซเชียลมีเดีย โดยมีผู้คนจำนวนมากสังเกตว่าเธอมีใบหน้าคล้ายกับอดีตนักแสดงชื่อดังผู้ล่วงลับ “ต้าเอส” หรือสวีซีหยวน วัย 48 ปี จนกลายเป็นกระแสไวรัลและมีแฟน ๆ เข้ามาติดตามจำนวนมาก
มีรายงานว่า นักศึกษาสาวคนดังกล่าวกำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยการแพทย์ฉงชิ่ง โดยเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เธอได้เปิดบัญชีโซเชียลในชื่อ “อี๋กู่ปี้กู่” และภายในเวลาเพียง 11 วัน เธอโพสต์ไปทั้งหมด 8 ครั้ง ทำให้ยอดผู้ติดตามพุ่งจากศูนย์เป็นเกือบ 30,000 คนอย่างรวดเร็ว
“ต้าเอส” หรือ สวีซีหยวน
ชาวเน็ตจำนวนมากแสดงความคิดเห็นว่า เธอมีใบหน้า แววตา และบุคลิกที่ละม้ายคล้าย "ต้าเอส" อย่างน่าทึ่ง ถึงขั้นมีคนคอมเมนต์ว่า “เหมือนต้าเอสจากโลกคู่ขนาน” หรือ “เห็นเธอแล้วรู้สึกเหมือนต้าเอสยังมีชีวิตอยู่” ขณะที่แฟนคลับบางคนก็กล่าวอย่างซาบซึ้งว่า การได้เห็นเธอทำให้ความคิดถึงต้าเอสบรรเทาลงได้บ้าง
ท่ามกลางกระแสความสนใจที่ถาโถมเข้ามา “อี๋กู่ปี้กู่” เคยออกมาชี้แจงผ่านโพสต์ว่า เธอเพียงต้องการแบ่งปันภาพความสุขจากการเดินทางเท่านั้น ไม่ได้ตั้งใจเลียนแบบหรือสร้างกระแสแต่อย่างใด โดยระบุว่า “บางมุมอาจดูคล้ายต้าเอสอยู่บ้าง แต่ฉันไม่เคยคิดจะเลียนแบบเธอ ฉันชื่นชมเธอมาก และไม่เคยคิดจะหากินกับชื่อเสียงของเธอเลย”
นอกจากนี้ เธอยังปฏิเสธข่าวลือเรื่องการทำศัลยกรรม โดยยืนยันว่าใบหน้าของเธอไม่เคยผ่านมีดหมอ และจะไม่ทำในอนาคตด้วย พร้อมย้ำว่าภาพทั้งหมดที่โพสต์ถ่ายจากกล้องมือถือโดยตรง ไม่มีการแต่งภาพหรือใช้ฟิลเตอร์ใด ๆ
อย่างไรก็ตาม เมื่อความคิดเห็นในโลกออนไลน์เริ่มแบ่งเป็นสองฝั่งอย่างชัดเจน ก็มีชาวเน็ตบางส่วนออกมาตั้งข้อสงสัยว่าเธออาจกำลังใช้กระแสการจากไปของต้าเอสเพื่อเรียกความสนใจ ซึ่งทำให้เธอรู้สึกทั้งเหนื่อยล้าและเครียดอย่างมาก
หลังจากโพสต์ชี้แจง เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม เธอได้ลบวิดีโอและภาพถ่ายที่เผยใบหน้าทั้งหมดออกจากบัญชี Douyin (TikTok จีน) ในวันที่ 5 สิงหาคม พร้อมเขียนข้อความในประวัติส่วนตัวอย่างหงุดหงิดว่า
"น่ารำคาญจริง ๆ คนโง่เยอะเกินไปแล้ว!"
เธอระบุว่า ตอนนี้ต้องการมุ่งมั่นเตรียมตัวสอบเข้าระดับบัณฑิตศึกษา และไม่อยากเป็น "เงาของใคร" อีกต่อไป พร้อมวอนให้สังคมหยุดจับจ้องและเลิกรบกวนเธอ เพื่อให้เธอได้กลับไปใช้ชีวิตอย่างเรียบง่ายตามเดิม