“มหาหมี” ชี้วัดพระบาทน้ำพุต้องเอาผิด “หมอบี” เท่านั้น ไม่เช่นนั้นอาจเข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่

เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ในรายการโหนกระแสวันนี้ ยังพูดคุยกันต่อในประเด็น “ทูตสื่อวิญญาณ” ที่ตอนนี้ถูกกล่าวหาว่า มีความไม่โปร่งใสในเรื่องการทำโครงการบริจาคต่างๆ ให้ “วัดพระบาทน้ำพุ” โดยยังมีประเด็นมากมายที่ต้องหาความจริงกันต่อ โดยในวันนี้ ได้ ดร.ตฤณห์ โพธิ์รักษา ผู้ที่ออกมาโพสต์เปิดประเด็น มาร่วมในรายการ

ดร.ตฤณห์ เล่าเรื่องที่ได้ไปพูดคุยกับพยานกลุ่มหนึ่งมา พยานหลายคนเล่าเรื่องเดียวกัน ว่าได้คุยกับคนคนหนึ่ง นามสมมุติว่า “นาย B” เขาเคยไปอ้างตัวกับพยานกลุ่มนี้ว่า เขาเป็น 1 ใน 5 ผู้วิเศษ ที่ถูกเลี้ยงมาโดยสายลับรัสเซีย ถูกสายลับรัสเซียลักพาตัวไป แล้วถูกเลี้ยงในฐานะลูกบุญธรรมของอัศวินวาติกัน แต่ ณ เวลาที่คนๆ นี้ อ้างว่าถูกอัศวินวาติกันเลี้ยง เขายังมีสมุดพก เรียนหนังสืออยู่ในไทย มันจะไปถูกลักพาตัวตอนไหนกัน

แล้วยังมีเรื่องที่ นาย B ชอบไปพูด ไปหลอกลวงคนอื่น ก็ใช้มุกเดิมๆ คือเรื่อง “อดีตชาติ” เช่น ไปบอกว่า ในอดีตชาติเคยเป็นนักรบ รบเคียงบ่าเคียงไหล่กันมา ชาตินี้จึงมอบหมายตำแหน่งสำคัญให้ในมูลนิธิ หรือไปหลอกผู้หญิงคนหนึ่งว่า เป็นพ่อลูกกันในอดีตชาติ ชาติที่แล้วเขาเป็นราชามองโกล ไม่มีเวลาให้ลูกสาว ชาตินี้อยากจะขอดูแลทดแทน แต่จะมาอ้างว่าเป็นพ่อลูก มันก็ไม่ควรไปมีสัมพันธ์ทางกายกับผู้หญิงเขาหรือเปล่า

เรื่องที่ ดร.ตฤณห์ เล่ามาทั้งหมด เป็นข้อมูลที่ได้มาจากพยาน จากการสอบถามพูดคุย แต่ยังมีเอฟซี มีแฟนคลับที่ยังหลงเชื่อ แล้วมากล่าวหาว่าตนไปมีปัญหาบาดหมางกับเขา จึงออกมาดิสเครดิต คำถามคือ ตนไม่เคยรู้จัก ไม่เคยเจอ จะไปบาดหมางตอนไหน

ขณะที่ มหาหมี ดร.ประยุทธ ประเทศเสนา รองประธานมูลนิธิกองทัพธรรม ชี้ให้เห็นถึงเรื่องการออกใบอนุโมทนาบัตร ที่ออกให้ผู้บริจาค มีกรณีของคนที่ทำบุญไถ่ชีวิตโคกระบือ แต่ใบอนุโมทนาบัตรได้มาเป็นการทำบุญช่วยผู้ป่วย HIV ซึ่งตัวหมอบี ตอบกลับไปหาคนถาม บอกว่ามันก็ใช้ลดหย่อนภาษีได้เหมือนกัน แต่ในทางกฎหมายมันไม่ได้ มันคือการใช้เงินบริจาคผิดวัตถุประสงค์ และต้องติดคุก เป็นความผิดอาญา มันเคยมีเคสแบบนี้ที่กองปราบฯ เคยดำเนินคดี และมีคนติดคุกจริงไปแล้ว เขาบริจาคเงินให้ไปทำอะไร ก็ต้องใช้แบบนั้น

ขณะที่ ดร.ตฤณห์ มีข้อสงสัย ที่มีคนฝากมาถามทางวัดถึงความโปร่งใสในการดูแลผู้ป่วย และเรื่องการทำบุญไถ่ชีวิตโคกระบือ ต่อมามีการโฟนอิน นายสมพร ไวยาวัจกรของวัดพระบาทน้ำพุ เริ่มต้นตอบคำถาม เรื่องทนายเกิดผล ที่ถอนตัวจากการเป็นทนายความที่ดูแลเรื่องคดีที่เกี่ยวข้องกับหมอบี เพราะมีสภาทนายความเข้ามาดูแลคดี แต่สุดท้ายทางสภาทนายความบอกว่าไม่มีการตั้งคณะแต่อย่างใด

นายสมพรบอกว่า ทนายเกิดผลยังเป็นทนายให้กับทางวัด แต่ทางหลวงพ่อมอบหมายให้ไปดูแลงานอื่นที่สำคัญกว่า ส่วนเรื่องสภาทนายความ ทางผู้ใหญ่เขายังพูดคุยกันอยู่ ยังไม่มีข้อสรุป

ส่วนเรื่องที่ดิน ที่มีกรณีพิพาทกับครอบครัวของอดีตไวยาวัจกรคนเก่า ที่ทางวัดเอาไปฝากไว้ แล้วจะมีการขอคืน ยืนยันว่าไม่มีปัญหาอะไรเลย เดี๋ยวไปเจรจาพูดคุยกันก็ได้

มีการขออนุญาตตั้งเป็นสถานพยาบาลหรือไม่ ทางไวยาวัจกรบอกว่า สถานชีวาภิบาล วัดพระบาทน้ำพุ มีการรับรองโดย สปสช. จากข้อมูลเดิม ที่บอกว่ามี 150 เตียง คนไข้จริงมีกี่เตียง ทางนายสมพรบอกว่า มีคนไข้ครองเตียงอยู่ 140 เตียง และมีเคสในสถานชีวาภิบาล 9 เคสบวกลบ ส่วนทางยาได้รับจากคลินิกโรคเอดส์ ส่วนทางยานอกบัญชี ทางวัดไปซื้อหาเอง มีนายแพทย์เข้ามาตรวจ ทั้ง 2 วอร์ด ทั้งวอร์ดสถานชีวาภิบาล และ วอร์ดผู้ป่วยเอดส์

คำถามเรื่อง โครงการไถ่ชีวิตโคกระบือ เป็นโครงการของคนภายนอก ทางไวยาวัจกรดูแลเฉพาะโครงการในวัด ไม่สามารถตอบได้ เป็นเรื่องของโครงการภายนอก

มหาหมียืนยันว่า วัดต้องไปแจ้งความดำเนินคดีกับหมอบีเท่านั้น เพราะทั้งวัดจะเสียหาย หลวงพ่อจะเสียหาย ท่านจะอ้างว่าท่านไม่รู้มาก่อน แต่วันนี้รู้แล้ว ท่านต้องไปแจ้งความเท่านั้น เพราะถ้าท่านไม่แจ้ง ท่านจะมีความผิดละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ รวมทั้งกฎหมายอาจสงสัยได้ว่า ท่านมีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดด้วย