World ยืนยันชัด! สแกนม่านตา ยืนยันความเป็นมนุษย์ ไม่เก็บข้อมูลส่วนตัว
World ประเทศไทย ออกประกาศชี้แจง เทคโนโลยีของ World ได้รับการออกแบบโดยยึดหลักความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย World ไม่มีการจัดซื้อ จัดเก็บ หรือจำหน่ายข้อมูลชีวมิติ ปฏิบัติตามกฎหมายและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถป้องกันตนเองจากการฉ้อโกงทางดิจิทัล และสามารถแยกแยะระหว่าง "มนุษย์จริง" กับบอทหรือปัญญาประดิษฐ์ในโลกออนไลน์
เราเชื่อว่าการพิสูจน์ความเป็นมนุษย์โดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล คือแนวทางที่จำเป็นในยุคที่เทคโนโลยีสามารถเลียนแบบตัวตนได้อย่างแนบเนียน เพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับระบบของ World เราขอชี้แจงข้อเท็จจริงในประเด็นสำคัญ ดังต่อไปนี้
1. World เป็นระบบยืนยันความเป็นมนุษย์ ไม่ใช่ระบบยืนยันตัวตน
World ไม่รวบรวมหรือจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล ของผู้ใช้งาน อาทิ ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ อายุ ส่วนสูง หรือข้อมูลจำแนกบุคคลอื่น ๆ จุดมุ่งหมายของเราคือการยืนยันว่า "คุณคือมนุษย์จริง" โดยไม่ระบุว่า "คุณคือใคร"
2. World ไม่ได้จัดเก็บข้อมูลชีวมิติ (Biometric data)
การยืนยันความเป็นมนุษย์ดำเนินการผ่านอุปกรณ์ Orb ซึ่งจะทำการถ่ายภาพม่านตาและใบหน้าของผู้ใช้งาน
โดยมีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อป้องกันการลงทะเบียนซ้ำซ้อน ไม่มีการเปิดเผยหรือเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล เพื่อสร้างรหัสที่เรียกว่า Iris Code ซึ่งเป็นรหัสตัวเลขที่ไม่สามารถย้อนกลับไปเป็นภาพต้นฉบับได้ และรหัสนี้จะไม่เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของคุณ ภาพถ่ายและข้อมูลที่เกี่ยวข้องจะถูกจัดเก็บไว้ในอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน
3. World ออกแบบระบบให้เปิดเผย โปร่งใส และตรวจสอบได้
World ได้มีการสร้างเครือข่ายแบบเปิด (Open source) และกระจายศูนย์ (Decentralized) โดยส่วนประกอบหลักของทั้งฮาร์ดแวร์ เช่น อุปกรณ์ Orb และซอฟต์แวร์ เช่น โปรโตคอลของ World ID ได้รับการเปิดเผยซอร์สโค้ดต่อสาธารณะ และสามารถเข้าตรวจสอบได้ ทั้งนี้ เทคโนโลยีทั้งหมดได้รับการตรวจสอบอย่างโดยบุคคลที่สามซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับโลก เพื่อรักษามาตรฐานความปลอดภัยและความโปร่งใส
World ยึดมั่นในภารกิจของการวางรากฐานที่น่าเชื่อถือให้แก่โลกดิจิทัล โดยมีมนุษย์เป็นศูนย์กลางของระบบที่ตรวจสอบได้ โปร่งใส และไม่รุกล้ำข้อมูลส่วนบุคคล
ทำไม สแกนม่านตา เสี่ยงข้อมูลส่วนตัวรั่วไหล?
พล.ต.ท. ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) ได้ออกมาเตือนประชาชนที่กำลังตัดสินใจเข้าร่วมโครงการ World ID ซึ่งเกี่ยวข้องกับการสแกนม่านตาเพื่อแลกเงินดิจิทัล โดยชี้ให้เห็นถึงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นกับข้อมูลส่วนบุคคล
พล.ต.ท. ไตรรงค์ อธิบายว่า การสแกนม่านตาคือการเก็บ "ข้อมูลชีวภาพ" หรือ "ข้อมูลอัตลักษณ์ส่วนบุคคล" ซึ่งมีความเสี่ยงสูงที่จะถูกนำไปใช้ในทางที่ผิด หากข้อมูลดังกล่าวรั่วไหลออกไป แม้ว่าผู้ให้บริการจะอ้างว่ามีการแปลงข้อมูลภาพม่านตาเป็นรหัสที่ไม่สามารถย้อนกลับได้ แต่ก็ยังคงมีความเสี่ยงที่ข้อมูลอาจถูกตรวจสอบหรือนำไปใช้ประโยชน์ในรูปแบบอื่นได้ในอนาคต
หลายประเทศกังวล สั่งระงับชั่วคราวแล้ว
ตำรวจไซเบอร์ยังระบุว่าความกังวลในเรื่องนี้ไม่ได้เกิดขึ้นแค่ในประเทศไทย แต่เป็นประเด็นระดับโลก โดยได้ตรวจสอบและพบว่าหลายประเทศได้ออกมาตรการสั่งระงับการดำเนินการของ World ID ชั่วคราวแล้ว เช่น
- สเปน: มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ให้หยุดเก็บและประมวลผลข้อมูล
- โปรตุเกส: สั่งให้หยุดเก็บข้อมูลชั่วคราวเป็นเวลา 90 วัน เนื่องจากมีการร้องเรียนเกี่ยวกับการสแกนเด็กและจำนวนข้อมูลที่ยังไม่เพียงพอต่อการคุ้มครอง
- เยอรมนี, อินโดนีเซีย, ฮ่องกง, บราซิล: มีการสั่งระงับชั่วคราวเช่นกัน
ปัจจุบัน ตำรวจไซเบอร์อยู่ระหว่างการหารือกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) เพื่อหามาตรการที่เหมาะสมในการคุ้มครองข้อมูลของประชาชน เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอาชญากรรมที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต