Dow เปิดตัว 'โพลิสไตรีน' ลดก๊าซเรือนกระจก ปั้นไทยฮับส่งออกพลาสติกยั่งยืน
โพลิสไตรีน (Polystyrene: PS) เป็นหนึ่งในวัสดุพลาสติกที่ใช้อย่างกว้างขวาง ตั้งแต่บรรจุภัณฑ์อาหาร เครื่องใช้ไฟฟ้า ของเล่นเด็ก วัสดุตกแต่งภายใน ไปจนถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ แต่ความท้าทายสำคัญของพลาสติกในปัจจุบันคือ ปัญหาขยะและการปล่อยก๊าซเรือนกระจก (GHG) การพัฒนาพลาสติกที่สามารถรีไซเคิลได้ในเชิงอุตสาหกรรมจึงเป็นก้าวสำคัญ โดยเฉพาะในช่วงที่ประเทศไทยและโลกกำลังเดินหน้าสู่เป้าหมาย Net Zero
ล่าสุด กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย (Dow) เปิดเผยการพัฒนานวัตกรรมวัสดุ โพลิสไตรีน ที่มุ่งเน้นความยั่งยืน โดยโรงงานของ เอสซีจีซี-ดาว ผู้ผลิตเม็ดพลาสติกโพลิสไตรีนรายใหญ่ของไทย ได้ยกระดับการผลิตให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ทั้งการได้รับ การรับรองฉลากคาร์บอนฟุตพริ้นท์ผลิตภัณฑ์ (CFP) ระดับทอง จากองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การ TGO) และการพัฒนาเม็ดพลาสติกที่สามารถผสมวัสดุรีไซเคิลได้สูงถึง 50% โดยไม่ลดทอนคุณภาพ
ฐานการผลิตวัสดุยั่งยืนระดับโลก
"เอกสิทธิ์ ลัคนานิธิพันธุ์" รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายธุรกิจร่วมทุน กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย กล่าวว่า โพลิสไตรีนของดาวไม่ใช่แค่วัสดุ แต่คือโซลูชันแห่งอนาคตที่ยั่งยืน
“เราภาคภูมิใจที่สามารถลดการใช้วัตถุดิบใหม่ ลดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และยังคงประสิทธิภาพการใช้งานครบถ้วน ซึ่งจะช่วยผู้ผลิตตอบโจทย์ทั้งด้านธุรกิจและสิ่งแวดล้อมในเวลาเดียวกัน”
ด้วยกำลังการผลิตระดับโลกกว่า 150,000 ตันต่อปี จากฝีมือของพนักงานชาวไทยที่โรงงานของกลุ่มบริษัทร่วมทุน เอสซีจีซี-ดาว ในจังหวัดระยอง ทำให้กลุ่มบริษัท ดาว ประเทศไทย ไม่เพียงเป็นกำลังหลักในการจัดหาวัสดุให้แก่ผู้ผลิตในประเทศ แต่ยังเป็นศูนย์กลางการส่งออกนวัตกรรมวัสดุไปทั่วโลก ตอกย้ำบทบาทของประเทศไทยในห่วงโซ่อุปทานวัสดุยั่งยืนระดับโลก
รองรับการรีไซเคิลสูงสุด 50%
หนึ่งในความโดดเด่นคือความสามารถในการผสมเม็ดพลาสติกรีไซเคิล (PCR) ได้มากถึง 30–50% โดยไม่ลดทอนคุณภาพ ขณะที่พลาสติกเอบีเอส (Acrylonitrile-Butadiene-Styrene: ABS) รองรับได้เพียง 10–20% เท่านั้น ช่วยลดการใช้วัตถุดิบใหม่และสนับสนุนการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า
จุดแข็งของวัสดุชนิดนี้คือ เบา แข็งแรง มีผิวมันเงา ดูดซึมความชื้นต่ำ และขึ้นรูปได้ง่าย ทั้งยังสอดรับกับระบบ การรีไซเคิลเชิงกล (Mechanical Recycling) ที่ใช้เพียงการบด ล้าง และหลอมใหม่ โดยไม่เปลี่ยนโครงสร้างทางเคมี ส่งผลให้ลดการใช้พลังงาน ลดต้นทุน และนำวัสดุกลับมาใช้ในระดับอุตสาหกรรมได้จริง
นวัตกรรมช่วยลดก๊าซเรือน
งานวิจัยระดับสากลชี้ว่า การรีไซเคิลโพลิสไตรีนชนิด HIPS (High Impact Polystyrene) สามารถลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่าการรีไซเคิล ABS ถึง 61.6–84.3% ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมาย Net Zero ของอุตสาหกรรมต่างๆ
โดยผลิตภัณฑ์โพลิสไตรีนที่ได้รับการออกแบบให้มีคุณสมบัติพิเศษ เช่น การไหลตัวสูง ผิวเงางามสูง การดูดความชื้นต่ำ แข็งแรง น้ำหนักเบา พร้อมรองรับกับระบบการรีไซเคิลเชิงกล (Mechanical Recycling) ซึ่งไม่เปลี่ยนโครงสร้างทางเคมีของวัสดุ เพียงบด ล้าง และหลอมขึ้นรูปใหม่ ช่วยลดต้นทุน ใช้พลังงานน้อย และนำกลับมาใช้ได้ในระดับ
อนาคตอุตสาหกรรมพลาสติก
การผลักดันโพลิสไตรีนรุ่นใหม่สะท้อนภาพที่ชัดเจนว่า อุตสาหกรรมพลาสติกไม่ได้เดินหน้าเพียงเพื่อประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจ แต่ต้องตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อมควบคู่ไปด้วย
- ผู้ผลิต ได้วัสดุที่ลดการพึ่งพาวัตถุดิบใหม่ ลดต้นทุนด้านพลังงาน และผ่านการรับรองมาตรฐานความยั่งยืน
- ผู้บริโภค ได้สินค้าที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
- ประเทศไทย มีบทบาทมากขึ้นในฐานะผู้ผลิตและผู้ส่งออกวัสดุที่สอดคล้องกับการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy)