ETDA ดันบางเสร่คว้าแชมป์ Craft Idea ปี 5 ปั้นชุมชนสู่ตลาดดิจิทัล
สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (ETDA) เดินหน้าสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากผ่านการประกวด Craft Idea ปีที่ 5 ภายใต้แนวคิด Unleash Creativity, Lead the Change เปิดเวทีให้ชุมชนทั่วประเทศใช้ดิจิทัลสร้างแผนธุรกิจจริง โดยปีนี้“BangSare Digital” จากวิสาหกิจชุมชนเรือท่องเที่ยวและกีฬาบางเสร่ จ.ชลบุรี คว้ารางวัลชนะเลิศ พร้อมเงินรางวัลรวม 200,000 บาท
จุดพลุเวทีสร้างสรรค์ไอเดียธุรกิจ
นายมีธรรม ณ ระนอง รองผู้อำนวยการ ETDA กล่าวถึงที่มาว่า การประกวดปีนี้เริ่มเปิดรับสมัครตั้งแต่กุมภาพันธ์ 2568 มีโค้ชดิจิทัล 384 คน จาก 97 ชุมชนเข้าร่วม ผ่านการอบรมเข้มในโครงการ ETDA Local Digital Coach (ELDC) ก่อนลงพื้นที่ช่วยชุมชนวิเคราะห์จุดแข็ง–จุดอ่อน และวางแผนธุรกิจจริง จากนั้นเข้าสู่รอบ Audition ระดับภูมิภาค จนคัดเหลือ 12 ทีมสุดท้าย แข่งขันรอบ Final Pitching เมื่อ 22 สิงหาคมที่ผ่านมา
โดยทีมบางเสร่คว้าถ้วยประทานฯ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าโสมสวลี กรมหมื่นสุทธนารีนาถ ขณะที่ทีมสาวน้อยหน้านวล จากนนทบุรี และทีมโกโก้จากเชียงใหม่ คว้ารางวัลรองชนะเลิศ
สร้างโค้ชดิจิทัลขับเคลื่อน 6 พันคน
โครงการ ELDC ถือเป็นหัวใจสำคัญของ Craft Idea เริ่มมาตั้งแต่ปี 2563 ปั้นโค้ชดิจิทัลแล้วกว่า 5,770 คน สนับสนุนชุมชน 854 แห่ง เน้นพัฒนาทักษะด้าน e-Commerce การตลาดดิจิทัล และการใช้เทคโนโลยีอย่างปลอดภัย
โดย 5 ปีที่ผ่านมา มีผู้ประกอบการ Craft Idea เข้าร่วมแล้วกว่า 750 ราย แต่ละปีมีชุมชนเข้าร่วมเฉลี่ย 100 แห่ง กลุ่มเป้าหมายส่วนใหญ่คือไมโครเอสเอ็มอีที่มีสมาชิกเพียง 5–20 คน รายได้ไม่สูงแต่มีศักยภาพเติบโต
ยกระดับธุรกิจท้องถิ่นสู่ตลาดออนไลน์
ETDA ยังต่อยอดให้ชุมชนเข้าถึงตลาดกว้างขึ้น เช่น “ผ้าตุงตุงแสน” จากสกลนคร ที่ผลิตโดยผู้สูงอายุและผู้พิการ นำไปขายออนไลน์จนยอดสั่งซื้อพุ่ง รายได้เพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด อีกตัวอย่างคือ “ครีมจากเปลือกมังคุด” ในภาคใต้ ที่พัฒนาร่วมกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์จนผลิตภัณฑ์ทันสมัย สามารถขยายตลาดผ่าน Facebook และ TikTok ได้สำเร็จ
วางเป้าพัฒนาคนดิจิทัล 2 แสนราย
ช่วงปี 2566–2568 ETDA อบรมความรู้ด้าน digital literacy และ reskilling ไปแล้วกว่า 200,000 คน มีผู้ผ่านการประเมินและได้รับใบประกาศกว่า 20,000 ราย และตั้งเป้าเพิ่มอีกไม่ต่ำกว่า 100,000 คนในปี 2569 โดยจะเน้นเนื้อหาด้าน AI, Cybersecurity, Digital Identity, Digital Citizenship และ ESG
ขยายเกณฑ์ ESG–AI เสริมความยั่งยืน
นายมีธรรม กล่าวว่า ต่อไปจะเพิ่มเกณฑ์ด้าน ESG, Carbon Credit และการใช้ AI เข้าไปในแผนธุรกิจของชุมชน เพื่อให้สอดรับกับแนวโน้มโลก ขณะเดียวกัน ETDA จะยังไม่สร้างแพลตฟอร์มขายสินค้าเอง แต่เลือกใช้เครือข่ายพันธมิตรอย่าง ไปรษณีย์ไทย มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก รวมถึงแพลตฟอร์ม e-Commerce อย่าง Shopee และ Lazada เป็นช่องทางให้ชุมชนเข้าถึงผู้บริโภค
“ETDA ไม่ได้สร้างธุรกิจใหม่ แต่ทำหน้าที่เสริมแกร่งให้กับชุมชนที่มีศักยภาพอยู่แล้ว ผ่านความรู้ดิจิทัล เครื่องมือออนไลน์ และเครือข่ายสนับสนุน เพื่อให้ชุมชนไทยแข่งขันได้จริง และเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว” นายมีธรรมย้ำ