โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

13 ปี ค่าข้าวขึ้น 106.5% คนกรุงฯ ค่าครองชีพพุ่ง สวนทางค่าแรงคนไทย

SpringNews

อัพเดต 12 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ชีวิตคนวัยทำงานไม่ได้ง่ายในทุกวันนี้ค่าครองชีพสูงลิ้ว แถมเจอกับแรงกดดันต่างๆมากมาย แต่…ต้องกับมาเจอข้าวของแพงจนทำให้แทบไม่มีเงินเก็บ บางคนภาระหนี้สินท่วมหัว ล่าสุด ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บจก. เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส เผย ผลสำรวจ ราคาข้าวจานเดียวในย่านสีลม-สุรวงศ์-สาทร ระหว่างปี 2555-2568 พบว่า ราคาอาหารต่อจานพุ่งจาก 31 บาทในปี 2555 เป็น 64 บาทในปี 2568 หรือเพิ่มขึ้น 106.5% ขณะที่ค่าแรงขั้นต่ำในช่วงเวลาเดียวกันเพิ่มจาก 300 เป็น 400 บาท หรือเพิ่มขึ้นเพียง 33.3% เท่านั้น

ทั้งนี้สามารถแยกตามช่วงเวลาของรัฐบาลที่บริหารประเทศในยุคนั้นๆ ได้ดังนี้

  • ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร (2555–2557) ราคาอาหารเพิ่มเฉลี่ยปีละ 5.2%
  • ยุครัฐบาลประยุทธ์ จันทร์โอชา (2557–2566) เพิ่มเฉลี่ยปีละ 6.6% รวม 77%
  • ยุครัฐบาลเศรษฐา ทวีสิน (2566–2567) เพิ่ม 3.3%
  • ยุครัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร (2567–2568) เพิ่ม 2.0%

ทั้งนี้ ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ฯ ได้ริเริ่มจัดทำการสำรวจราคาอาหารในทุกรอบครึ่งปี โดยที่ผ่านมาได้ทำการสำรวจดำเนินการใน 21 ครั้ง แต่ในระยะหลังทำการสำรวจในรอบปี โดยการสำรวจนี้ดำเนินการเฉพาะในพื้นที่สีลม-สุรวงศ์ ซึ่งถือเป็นศูนย์กลางธุรกิจหรือ Central Business District (CBD) ของประเทศไทย และมีคนทำงานในสำนักงานเป็นจำนวนมาก

ทั้งนี้โดยมีสมมติฐานว่าราคาอาหารในย่านนี้น่าจะเป็นราคามาตรฐานเพราะเป็นในใจกลางเมือง ในบริเวณอื่นน่าจะถูกกว่านี้ ยกเว้นในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวที่มีผู้ไปท่องเที่ยวเป็นครั้งคราว การสำรวจพื้นที่สีลม จึงถือเป็นตัวแทนสำคัญสำหรับกรุงเทพมหานครและประเทศไทยโดยรวม

อย่างไรก็ตามการสำรวจนี้ได้มีการเดินสำรวจซ้ำตามร้านเดิมที่เคยสำรวจไว้จำนวนมากกว่า 30 ร้าน บางบริเวณเป็นร้านอาหารร้านเดียว บางบริเวณเป็นศูนย์อาหาร พร้อมบันทึกถ่ายภาพนิ่ง และวีดีทัศน์ประกอบ และในบางบริเวณมีร้านค้าเพิ่มขึ้นหรือลดลงตามห้วงเวลาอีกด้วย โดยแต่ละครั้งที่สำรวจใช้เวลาในการเดินไม่เกิน 2 ชั่วโมงในช่วงเวลาพักรับประทานอาหารกลางวัน

โดยการประเมินจากภาพรวมสะสม 13 ปี (พฤษภาคม 2555 – มิถุนายน 2568) ราคาเพิ่มจาก 31.0 บาท เป็น 64.0 บาท หรือเพิ่มขึ้น 106.5% และหากคิดเป็นการเพิ่มขึ้นต่อปี ก็เท่ากับเพิ่มขึ้นประมาณ 5.7% ต่อปี ซึ่งถือว่าสูงพอสมควร เพราะสูงกว่าอัตราภาวะเงินเฟ้อ ราคาอาหาร ณ เดือนพฤษภาคม 2566 หรือเป็นเวลา 9 ปีหลังรัฐประหารเมื่อพฤษภาคม 2557 เพิ่มขึ้น 77% หรือเพิ่มขึ้นปีละ 6.6%

ซึ่งถือว่าสูงขึ้นมาก หากเทียบกับก่อนรัฐประหารในช่วงเดือนพฤษภาคม 2555-2557 ปรากฏว่าราคาอาหารเพิ่มขึ้นเพียง 10.7% หรือเพิ่มขึ้นปีละ 5.2% ต่ำกว่าช่วงหลังรัฐประหาร ดังนั้นในยุคก่อนรัฐประหาร ราคาอาหารเพิ่มขึ้นน้อยกว่าช่วงหลังรัฐประหารอย่างชัดเจน ส่วนในปีของรัฐบาลเศรษฐาเพิ่มขึ้น 3.3%

นอกจากนี้การสำรวจมีข้อสังเกตเพิ่มเติมว่า อาจมีบางบริเวณ เช่น เมืองท่องเที่ยว หรือเมืองอุตสาหกรรมที่มีการปรับเพิ่มของราคาขายมากกว่านี้ หรือสำหรับรายการอาหารแบบฟาสต์ฟูด ก็อาจปรับราคาเพิ่มขึ้นตามอำเภอใจโดยไม่ได้มีการควบคุม แต่สำหรับประชาชนกันเอง ย่อมมีความเห็นใจและถ้อยทีถ้อยอาศัยกันตามสมควร จึงทำให้แทบไม่มีการปรับราคาขาย แต่ระยะหลังจากที่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น ค่าไฟฟ้าแพงขึ้น ทำให้การเพิ่มราคาอาหารเกิดขึ้นอย่างชัดเจน

ส่วนกรณีนี้ที่มีบางท่านอาจตั้งข้อสังเกตว่า แม้ราคาไม่ได้ปรับเพิ่มขึ้น แต่ปริมาณอาจจะลดน้อยลง แต่จากการสังเกตก็พบว่า ปริมาณก็อาจลดลงบ้าง อย่างไรก็ตามก็ยังอาจมีบางท่านให้ข้อสังเกตว่า แม้บางร้านปริมาณจะคงเดิม แต่คุณภาพก็อาจลดลง แต่ข้อนี้ ผู้สำรวจคงไม่สามารถไปตรวจสอบในรายละเอียดในระดับนั้น และคงอยู่ที่วิจารณญาณของทุกท่านที่พิจารณาผลการสำรวจนี้ ผู้ค้าบางรายกล่าวว่า ไม่สามารถขึ้นราคาอาหารได้เพราะคนซื้อไม่มีกำลังซื้อเท่าที่ควร ทั้งที่วัตถุดิบในการทำอาหารเพิ่มขึ้นก็ตาม จะสังเกตได้ว่าร้านที่ยังพยายามยืนราคาอาหารไว้ หรือไม่ขึ้นราคา จะมีผู้เข้าคิวอุดหนุนมากเป็นพิเศษ

ไม่เพียงเท่านี้ได้มีการสัมภาษณ์ผู้ค้า โดยพบว่า สิ่งที่ส่งผลที่เด่นชัดกว่าก็คือ ค่าเช่าพื้นที่ค้าปลีก เพื่อการขายอาหาร หากค่าเช่าแพงขึ้นมาก ก็จะทำให้ราคาอาหารเพิ่มมากขึ้น บางแห่งเช่าพื้นที่ขนาดประมาณ 18 ตารางเมตร เป็นเงินถึง 60,000 บาทต่อเดือน (ตรม.ละ 3,333 บาท) ดังนั้นรัฐบาลหรือกรุงเทพมหานคร อาจช่วยจัดหาพื้นที่ค้าขายในราคาถูก เพื่อให้ผู้ค้าสามารถยืนหยัดขายในราคาที่ไม่แพงจนเกินไป เพื่อเป็นการช่วยเหลือค่าครองชีพแก่ประชาชน

ด้วยเหตุที่ค่าเช่าพื้นที่ขายแพง ก็เลยมีร้านอาหารประเภท “อาหารกล่อง” คือให้ผู้ซื้อๆกลับไปรับประทานที่อื่น จึงประหยัดค่าเช่าได้มาก ถือเป็นการปรับตัวครั้งสำคัญ และตามศูนย์อาหารต่างๆ ก็พบว่า ร้านค้าหลายแห่งหายไป บางแห่งปิดร้านไปตั้งแต่ช่วงโควิดเมื่อ 1-2 ปีก่อน (2563-2564) อย่างไรก็ตามร้านค้าที่ปิดไปส่วนมาก เพิ่งปิดในช่วงปี 2564-2565 นี้เอง ในการสำรวจครั้งล่าสุดเมื่อเดือนพฤษภาคม 2567 ร้านค้าบางแห่งก็ยังซบเซาอยู่

พร้อมกันนี้ยังได้มีการคาดการณ์ราคาอาหารในปี 2568-2569 ว่าน่าจะยังค่อนข้างทรงตัวเพราะเศรษฐกิจฝืดเคืองกันทั่วหน้า หากขึ้นราคาสินค้าอาหารอีก ก็คงยิ่งขายยาก ราคาอาหารจึงน่าจะเพิ่มขึ้นไม่เกิน 2% ดังนั้นใครที่อยากประหยัดก็ลองทำอาหารรับประทานเองภายในครอบครัวอาจสามารถช่วยประหยัดได้ไม่มากก็น้อย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก SpringNews

15 กรกฎาคม Social Media Giving Day - มาส่งต่อพลังบวกในโลกโซเชียล

1 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ดราม่า งบกระทรวงเกษตรฯ ปี 69 กระจุกพื้นที่ฐานเสียง "กล้าธรรม"

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

แจ้ง 2 ข้อหา “อดีตพระเทพพัชราภรณ์” ยักยอกเงินวัด-ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ สารภาพโอนเงินให้ “สีกากอล์ฟ”

สยามรัฐ

เลขาฯ ครม. ยังไม่เห็นชื่อ ‘จักรภพ’ ย้ำต้องตรวจคุณสมบัติตามกฎหมาย เผยชื่อ ‘ผู้ว่าฯแบงก์ชาติ’ ยังมาไม่ถึง เสนอวาระจรได้แต่ต้องรอบคอบ

THE STANDARD

มะเขือเทศเม็กซิโกฝ่าด่านภาษีสหรัฐฯ ด้วยนวัตกรรมโรงเรือน

ฐานเศรษฐกิจ

“บิ๊กเล็ก” โต้ข่าวมะกันขอใช้ฐานทัพเรือพังงา หนึ่งในเงื่อนไขเจรจาภาษีทรัมป์

The Better

"มาริษ" เน้น "สื่อสารทางการ" งดตอบโต้กัมพูชา ผ่านโลกออนไลน์

The Better

ทรัมป์ขู่เก็บภาษีรัสเซีย 100% หากไม่ยุติสงครามยูเครนใน 50 วัน พร้อมเดินหน้าส่งอาวุธสนับสนุนเคียฟผ่าน NATO

THE STANDARD

‘ภูมิธรรม’ ยันไม่มีดีล ‘สหรัฐฯ’ ตั้งฐานทัพเรือแลกปรับ ‘ภาษีทรัมป์’

ข่าวช่องวัน 31

จเรตำรวจเตือนคนไทยเปิดบัญชีม้า โทษหนักคุก 41 ปีล่าสุดจับ 6 คนไทยโยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์

POLICE NEWS

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...