เอ้ไขก๊อกปชป. ผุด‘พรรคใหม่’ เน้นการศึกษา
“เอ้ สุชัชวีร์” ไขก๊อก ปชป. จ่อตั้งพรรคไทยก้าวใหม่ หวังโฟกัสด้านการศึกษา ขอเป็นพลเมืองชั้นหนึ่งของโลก “คุณหญิงกัลยา” ยังแบ่งรับแบ่งสู้ ส่วน “นิพนธ์” ประกาศชัดอยู่กับพระแม่ธรณีบีบมวยผม
เมื่อวันศุกร์ที่ 4 ก.ค.2568 ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ หรือ ดร.เอ้ อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. ได้มอบหมายให้เลขานุการส่วนตัวยื่นหนังสือลาออกจากสมาชิกพรรค และทุกตำแหน่งภายในพรรคในช่วงเช้า จากนั้นเวลา 10.00 น. นายสุชัชวีร์ได้เดินทางเข้าพรรค และกราบสักการะองค์พระแม่ธรณีบีบมวยผมสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำพรรค ก่อนแถลงถึงการลาออกว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรค ต่อทั้งนายทะเบียนพรรคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) และนายทะเบียนพรรค ปชป. มีผลตั้งแต่วันที่ 4 ก.ค.เป็นต้นไป
“ขอขอบพระคุณพรรคประชาธิปัตย์ หัวหน้าพรรค คณะกรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรคทุกท่าน การตัดสินใจก้าวออกจากพรรคในครั้งนี้ ไม่ได้เกิดจากความขัดแย้ง แต่เกิดจากอุดมการณ์ที่ยึดมั่นมาตลอดที่ต้องการทำการเมือง โดยต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นในประเทศอย่างแท้จริง ซึ่งได้โทรศัพท์ไปหานายเฉลิมชัย ศรีอ่อน หัวหน้าพรรคเมื่อเช้าที่ผ่านมา เพื่อแจ้งเรื่องขอลาออกแล้ว”
ผู้สื่อข่าวถามว่า ส่วนหนึ่งเป็นเพราะพรรคตัดสินใจร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ จึงทำให้การเมืองจมอยู่ที่เดิม นายสุชัชวีร์กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวเป็นการตัดสินใจของพรรค ซึ่งให้เกียรติกับหัวหน้าพรรคและผู้ใหญ่ในพรรค และขอย้ำเหตุผลว่ามีความฝันอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงของประเทศ โดยสถานการณ์ขณะนี้รอไม่ได้จริงๆ เชื่อว่าอีกหลายคนคิดแบบนี้เช่นกัน หากต้องการเปลี่ยนแปลงก็มีจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด คือการพัฒนาคนและสร้างการศึกษา จึงตั้งใจมุ่งหน้าทำงานในเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามว่า การที่พรรคร่วมรัฐบาลต่อไปก็ผลักดันเรื่องการศึกษาได้ นายสุชัชวีร์กล่าวว่า อย่างที่ทุกคนเห็นว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง คงรอไม่ได้ และถึงเวลาแล้ว
ถามต่อว่า การเปลี่ยนแปลงคือจะไปตั้งพรรคการเมืองใหม่ใช่หรือไม่ เพราะมีข่าวว่าจะไปตั้งพรรคไทยก้าวใหม่ และเป็นหัวหน้าพรรคด้วยตนเอง นายสุชัชวีร์รับว่า “ครับ แต่ขณะนี้ยังคุยกับผู้ร่วมอุดมการณ์เดียวกัน เชื่อว่ายังมีคนอุดมการณ์เดียวกันเยอะที่อยากเห็นประเทศไทยดีขึ้นกว่านี้จริงๆ ตอนนี้จะต้องเดินทางไปพูดคุยกับทุกคนที่มีอุดมการณ์เดียวกัน รักชาติ แล้วอยากเปลี่ยนแปลงประเทศไทย โดยเริ่มต้นที่การศึกษา
เมื่อถามว่า ผู้ร่วมอุดมการณ์ที่จะไปพูดคุยด้วยคือคุณหญิงกัลยา โสภณพนิช อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป.ด้วยหรือไม่ นายสุชัชวีร์กล่าวว่า คุณหญิงกัลยาถือเป็นปูชนียบุคคลด้านการศึกษาและด้านวิทยาศาสตร์เทคโนโลยี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างพูดคุยกับคุณหญิง ก็ขอให้ติดตาม นอกจากนี้ยังจะมีอีกหลายคน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่มีพลังความรู้ความสามารถ ส่วนจะเปิดตัวพรรคเมื่อใดนั้น ยังพูดคุยกันอยู่ คงต้องรออีกสักพัก
เมื่อถามว่า ดูจากหน้าตารัฐมนตรีของกระทรวงศึกษาธิการทั้ง 3 คน ยังสามารถฝากความหวังเรื่องการศึกษาไทยไว้ได้หรือไม่ นายสุชัชวีร์กล่าวว่า ต้องให้โอกาส เพราะทั้ง 3 คนเพิ่งเริ่มต้นทำงาน
ถามถึงกระแสข่าวเสียงสนับสนุนให้ลงสมัครรับเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ในสมัยหน้า นายสุชัชวีร์กล่าวว่า ขอขอบคุณที่ยังสนับสนุน ซึ่งงาน กทม.เป็นเรื่องสำคัญและเป็นงานที่รัก แต่สถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้เป็นเรื่องที่พวกเราทุกคนต้องช่วยกัน โดยสนใจเกี่ยวกับภาพรวม ถ้าการศึกษาไทยยังเปลี่ยนไม่ได้ ประเทศไทยเปลี่ยนไม่ได้ ก็อย่าหวังว่าประเทศไทยจะมีอนาคต การเมืองไทยในขณะนี้ไม่ได้พูดถึงเรื่องการศึกษา ทั้งที่เรื่องการศึกษาถือเป็นจุดเป็นจุดตาย และเป็นทางรอดของประเทศ
ถามย้ำว่า มุ่งไปที่การเมืองระดับประเทศแล้วใช่หรือไม่ นายสุชัชวีร์กล่าวว่า วันนี้เรื่องของประเทศสำคัญที่สุด โฟกัสไปที่เรื่องการเปลี่ยนแปลงในระดับประเทศ ก่อนตายตั้งใจไว้แล้วว่าอยากเป็นพลเรือนชั้น 1 ของโลก ขอให้ประเทศไทยได้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว เหมือนญี่ปุ่น เกาหลีใต้
ด้านคุณหญิงกัลยายอมรับว่า มีการพูดคุยกับนายสุชัชวีร์ และเห็นพ้องต้องกันว่าการจะพาประเทศก้าวข้ามปัญหาไปได้คือต้องให้การศึกษาแก่คนรุ่นใหม่ เน้นการวิจัยและพัฒนาคน ส่วนการตั้งพรรคการเมืองยังไปไม่ถึงจุดนั้น เพียงแค่คุยกัน และปัจจุบันยังเป็นสมาชิกพรรค ปชป. ไม่ได้ลาออกไปไหน หลังจากนี้ต้องคุยกับนายสุชัชวีร์อีก
นายเดชอิศม์ ขาวทอง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะเลขาธิการพรรค ปชป. กล่าวในเรื่องนี้ว่า เพิ่งทราบข่าว ตอนนี้อยู่ในช่วงรีเซตพรรค เหมือนที่บอกพรรค ปชป.ต่อจากนี้จะต้องมีเอกภาพเท่านั้น ถ้าไม่มีเอกภาพแปลว่าสมัยหน้าจะไม่มีชื่อเดชอิศม์อยู่ในพรรค ปชป.
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่เพราะเหมือนพรรค ปชป.เลือดจะไหลออกอย่างต่อเนื่อง นายเดชอิศม์ กล่าวว่า เป็นธรรมชาติของพรรค ปชป. เพราะเป็นพรรคที่ไม่มีเจ้าของ จะสั่งด้วยคนเดียวไม่ได้ ทุกอย่างอยู่ด้วยมติของพรรค หลายคนรับมติพรรคไม่ได้ก็ต้องไป
ถามว่าเสียดายนายสุชัชวีร์หรือไม่ เพราะเคยวางตัวเป็นหัวหน้าพรรค นายเดชอิศม์กล่าวว่า ก็เสียดายเหมือนกัน เขาเป็นคนดี มีคุณภาพ
ด้านนายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรองหัวหน้าพรรค ปชป. กล่าวถึงกรณีมีชื่อพร้อมด้วยนายสรรเพชญ บุญญามณี สส.สงขลา บุตรชาย เตรียมเข้าร่วมพรรคการเมืองใหม่ที่กำลังจัดตั้งขึ้นนั้นว่า ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด ยังคงยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปัตย์ดั้งเดิมที่เป็นเสรีประชาธิปไตย ยึดมั่นการกระจายอำนาจและไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับการตั้งพรรคใหม่ตามที่เป็นข่าว
“ข่าวดังกล่าวอาจเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อน หรือเป็นการปล่อยข่าวโดยไม่มีแหล่งข้อมูลที่ถูกต้อง ผมยังคงปฏิบัติภารกิจทางการเมืองในฐานะสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานร่วมกับเครือข่ายในพื้นที่ภาคใต้ โดยเฉพาะในจังหวัดสงขลาอย่างต่อเนื่อง” นายนิพนธ์กล่าว.