วันนี้! การบินไทย กลับมาซื้อขายหุ้น THAI ในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรก
วันนี้(วันที่ 4 สิงหาคม 2568) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) กลับมาซื้อขายหุ้น THAI ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอีกครั้ง โดยในวันแรกของการเทรด จะไม่มีการกำหนดราคาสูงสุด-ต่ำสุด (Ceiling & Floor) รวมถึงไม่มีการใช้ Dynamic Price Band และ Auto Pause ราคาหุ้นจะเคลื่อนไหวตามกลไกตลาดเต็มรูปแบบ ขึ้นอยู่กับอุปสงค์และอุปทาน
สำหรับการประเมินมูลค่าหุ้น (Valuation) มีการประเมินเบื้องต้นโดยใช้กำไรต่อหุ้น (EPS) ย้อนหลัง 12 เดือน ณ ไตรมาส 1/2568 ที่อยู่ที่ 1.08 บาท เมื่อเทียบกับราคาเพิ่มทุนที่ 4.48 บาท จะได้ค่า P/E (Price to Earnings Ratio) ประมาณ 4.1–4.2 เท่า ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของอุตสาหกรรมการบินทั่วโลกที่อยู่ที่ 6–7 เท่า สะท้อนว่า THAI ยังมีโอกาสในการเติบโตของราคาในอนาคต
การกลับมาเทรดหุ้นอีกครั้งของการบินไทย เกิดจากการประสบความสำเร็จในการออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ โดยการบินไทยสามารถเปลี่ยนหนี้ที่ค้างอยู่เป็นทุน และระดมเงินจากผู้ถือหุ้นและพนักงานได้รวมกว่า 76,000 ล้านบาท ทำให้ส่วนของบริษัทที่เคยติดลบ ตอนนี้กลับมาเป็นบวก และมีอัตราหนี้ต่อทุนลดลงเหลือแค่ 2.2 เท่า จากเดิมที่เคยสูงถึง 12.5 เท่า
นอกจากนี้การบินไทยสามารถปรับโครงสร้างหนี้ได้โดย ไม่ต้องลดมูลค่าหนี้ (No Haircut) สำหรับเจ้าหนี้รายใหญ่ทั้งเจ้าหนี้ทางการเงินและการค้า โดยบริษัทฯ ได้กำหนดแผนชำระหนี้ไว้อย่างชัดเจนจนถึงปี 2579
อีกทั้งปัจจุบันการบินไทยมีกระแสเงินสด (Cash Flow) ในมือประมาณ 125,000 ล้านบาท ซึ่งเพียงพอสำหรับการลงทุนในระยะ 5 ปี (2568 – 2570) โดยไม่แผนกู้เงินใหม่แต่จะมีการหารือกับธนาคารเพื่อบริหารความเสี่ยง
โดยการบินไทยมีแผนลงทุนระยะ 5 ปีข้างหน้า คาดว่าใช้เงินลงทุนราว 170,000 ล้านบาท ดังนี้
- จัดหาเครื่องบินใหม่ ประมาณ 120,000 ล้านบาท โดยจะทยอยชำระค่าเครื่องบิน และทยอยส่งมอบ
- ปรับปรุงที่นั่งและภายในห้องโดยสารเครื่องบิน ประมาณ 20,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน
- ลงทุนในระบบดิจิทัลต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานให้ดีและมีมาตรฐานมากขึ้น
- ศูนย์ซ่อมบำรุง (MRO) ใช้ลงทุน 400 ล้านบาทสำหรับศูนย์ซ่อมบำรุงที่สุวรรณภูมิและดอนเมือง และหากได้รับอนุมัติโครงการ MRO ที่อู่ตะเภา จะมีการลงทุนเพิ่มอีกประมาณ 10,000 ล้านบาท ซึ่งยังไม่นับรวมงบลงทุน 5 ปีนี้
นอกจากนี้ ยังมีการวางแผนและตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนในเพิ่มส่วนแบ่งตลาดจาก 26% เป็น 35% ภายในปี 2572 และปูทางให้การบินไทยกลายเป็นหนึ่งในผู้นำสายการบินระดับภูมิภาคในอนาคตอย่างยั่งยืน