แซมบาอู้ฟู่

ยกให้เป็นประเทศ “ท็อปเทน” หรือ 1 ใน 10 ที่มีอัตราขยายตัวทางเศรษฐกิจมากที่สุดในโลก ตามการประมาณการของธนาคารโลก หรือเวิลด์แบงก์ และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ เกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจในปีนี้ และปีต่อๆ ไปในอนาคตอันใกล้ สำหรับ ประเทศบราซิล ถิ่นแซมบา

โดยในความสำคัญทางเศรษฐกิจของประเทศบราซิล ก็ถูกจัดให้เป็นชาติสมาชิกกลุ่มประเทศเศรษฐกิจเฟื่องฟูใหม่เมื่อครั้งอดีต ที่ต่อมาได้กลายเป็นกลุ่มประเทศที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก 20 ประเทศ หรือจี20 และชาติสมาชิกของกลุ่มบริกส์ (BRICS) อันเป็นกลุ่มประเทศที่มีพัฒนาการทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วของโลก

การขยายตัวทางเศรษฐกิจของบราซิลข้างต้น นอกจากเป็นในส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือจีดีพีแล้ว ในความอู้ฟู่ของผู้ประกอบการทางธุรกิจของชาวบราซิล ก็ดีวันดีคืนต่อเนื่องมาลำดับตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา ส่งผลให้มาถึงปี 2025 (พ.ศ. 2568) นี้ ก็ได้มี “เศรษฐีใหม่” หรือมิลเลียนแนร์ (Millionaire)” เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากแบบแทบจะรายวัน

ถึงขนาดมีการกล่าวขวัญในบราซิลถึงแนวคิดที่เรียกว่า “เศรษฐีรายวัน” หรือ “เอมิลลีส์” (Everyday millionaires or EMILLIs) กันเลยทีเดียว

ทั้งนี้ แนวคิด “เอมิลลีส์” ข้างต้น ก็หมายถึง “บุคคลที่มีทรัพย์สินมูลค่าสูงเป็นพิเศษ” ซึ่งทรัพย์สินที่กำหนดไว้ให้เป็นมูลค่าสูงเป็นพิเศษที่ว่านั้น ก็กำหนดไว้ที่ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ถึง 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ สำหรับ สินทรัพย์สุทธิของบุคคลที่เรียกว่า “เอมิลลีส์”

ส่วนบุคคลที่ถูกจัดให้สูงกว่า “เอมิลลีส์” ทางแนวดังกล่าว ก็ไว้ว่า จะต้องมีสินทรัพย์สุทธิมากกว่า 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

โดยกลุ่มบุคคลที่มีสินทรัพย์สุทธิมากกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จนถึง 5 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในประเทศบราซิลนั้น ตามรายงานของ “ยูบีเอส โกลบอล เวลธ์ รีพอร์ต 2025” ฉบับล่าสุด ระบุว่า บราซิลก็ถือเป็นประเทศที่มีจำนวนเศรษฐี หรือมิลเลียนแนร์ มากที่สุดในทวีปอเมริกาใต้ หรือละตินอเมริกา โดยมีจำนวนมากถึง 380,585 คน หรือเกือบ 400,000 คน เลยทีเดียว

รายงานระบุว่า การทำมาหากินของชาวบราซิลในช่วงขวบปีที่ผ่านมา คือ 2024 (พ.ศ. 2567) ดีเพียงใด เพราะทำให้บรรดาชาวแซมบาถึงเกือบ 400,000 คน มีทรัพย์สินแต่ละคนทะลุเกินกว่า 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ จนกลายเป็นเศรษฐีใหม่ไปในที่สุด

พร้อมกับทุบสถิติ ทำให้บราซิล กลายเป็นประเทศที่มีเศรษฐีใหม่จำนวนมากที่สุดในภูมิภาคละตินอเมริกา และมากเป็นลำดับที่ 19 ของโลก

ทาง “ยูบีเอส โกลบอล เวลธ์ รีพอร์ต 2025” เปิดเผยว่า ตัวเลขของเศรษฐีใหม่ที่เพิ่มขึ้นในบราซิล ที่พลอยทำให้โลกเรามีเศรษฐีใหม่เพิ่มขึ้นไปด้วยนั้น ถือว่า เพิ่มขึ้นจากปี 2000 (พ.ศ. 2543) ถึง 4 เท่าด้วยกัน โดยบราซิล ได้ครองสัดส่วน ส่วนแบ่งความมั่งคั่งจากทั่วโลกไปอีกด้วย

ใช่แต่เท่านั้น ในรายงานของ “ยูบีเอส โกลบอล เวลธ์ รีพอร์ต 2025” ยังได้ประมาณการอีกด้วยว่า คาดว่าในปี 2028 (พ.ศ. 2571) หรืออีก 3 ปีข้างหน้า ประเทศบราซิล ก็จะมีเศรษฐีใหม่ หรือมิลเลียนแนร์ จำนวนมากถึง 470,000 คน ร่วมกับเม็กซิโก และชิลี ที่คาดว่า จะเป็นประเทศที่มีเศรษฐีใหม่เกิดขึ้นเป็นจำนวนมากเช่นกัน

จากประมาณการข้างต้น ก็สะท้อนให้เห็นว่า บราซิล จะยังคงมีความมั่งคั่งอย่างต่อเนื่อง และแสดงให้เห็นถึงสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของบราซิลได้เป็นอย่างดีอีกประการหนึ่งด้วย

ในรายงานของยูบีเอสฯ ยังแสดงทรรศนะด้วยว่า ความมีเศรษฐกิจดีของบราซิล มิใช่จะดีแต่เฉพาะในประเทศบราซิลเท่านั้น แต่ยังจะเป็น “ขุมพลัง” ที่ช่วยขับเคลี่อนพลวัตเศรษฐกิจของทวีปอเมริกาใต้ หรือละตินอเมริกา ให้บังเกิดความมั่งคั่งไปแทบจะถ้วนทั่วไปทั้งทวีป หรือภูมิภาคละตินอเมริกาอีกต่างหาก

เรียกว่า ส่งอานิสงส์ผลดีทางเศรษฐกิจไปทั่วทวีปอเมริกาใต้กันเลยทีเดียว

พร้อมกันนั้น ก็เป็นเครื่องสะท้อนให้เห็นถึงความยืดหยุ่นทางเศรษฐกิจ และตลาดทุนที่ทวีความซับซ้อนมากยิ่งขึ้นในภูมิภาคละตินอเมริกา

รายงานยูบีเอสฯ ยังกล่าวถึงสาเหตุปัจจัย ว่าเพราะอะไรถึงทำให้บราซิลมีเศรษฐีใหม่รายวันมากมายขนาดนี้

สาเหตุปัจจัยที่ว่า ก็มีหลายประการด้วยกัน ได้แก่ การรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมหาภาคให้ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลสำคัญในการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่บรรดานักลงทุนมากยิ่งขึ้น พร้อมๆ กันนั้น บราซิลก็ได้สร้างเงื่อนไข หรือบรรยากาศ ที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุนและการสะสมทุนอีกด้วย

ในส่วนของการบริโภคของผู้คนในประเทศนั้น บราซิลก็ถือโอกาสที่ประเทศมีประชากรจำนวนมาก ได้กระตุ้นให้ประชาชนได้เกิดการบริโภคภายในอย่างแข็งแกร่ง ซึ่งในส่วนนี้ ทำให้บราซิลกลายเป็นตลาดที่มีความคึกคักสำหรับธุรกิจต่างๆ

นอกจากนี้ บราซิลยังสนับสนุนธุรกิจภาคส่วนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาคการเกษตร เทคโนโลยี พลังงานหมุนเวียน ได้ขยายตัวเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ทำให้บรรดานักลงทุนอยากจะเข้ามา อันส่งผลให้ตลาดทุนในบราซิลมีความแข็งแกร่งตามมา

เช่นเดียวกับ ตลาดเงินในบราซิล ซึ่งเงินเปรียบเสมือนโลหิตไหลเวียนที่หล่อเลี้ยงเศรษฐกิจขยายตัวเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบราซิลมีการนำเสนอผลิตภัณฑ์การลงทุนใหม่ๆ ให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น บรรดานักลงทุนต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักลงทุนชาวบราซิล มีฐานะร่ำรวยจากการกระจายพอร์ตการลงทุน ส่งผลให้เพิ่มผลตอบแทนได้เป็นอย่างดี

ว่ากันถึงมหาเศรษฐีชาวบราซิลจากการจัดอันดับ ก็ต้องยกให้กับนายเอดูอาร์โด ซาเวอริน ผู้ร่วมก่อตั้งเฟซบุ๊ ถือครองทรัพย์สินมากกว่า 38,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตามมาด้วย “จอร์เก เปาโล เลมานน์” นักธุรกิจ นักลงทุน และนักการธนาคาร ซึ่งถือครองทรัพย์สินมากกว่า 18,300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ