คิกออฟ! “JUMP+” ปลุกพลัง บจ.ไทย จั๊มพ์กำไรโต 3 ปี ปูทางสู่ "Corporate Value Up"
ตลาดทุนไทยกำลังจะเปลี่ยนโฉม!
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยเปิดเกมรุกครั้งใหญ่ ด้วยการเปิดตัวโครงการ "จั๊มพ์พลัส (JUMP+)" ที่เปรียบเสมือนเวทีเร่งสปีดการเติบโตของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ให้ "ก้าวกระโดด" สู่ความยั่งยืนอย่างแท้จริง ภายใต้การสนับสนุนด้านทุน แผนยุทธศาสตร์ และเวทีประชาสัมพันธ์แบบครบเครื่อง
"จั๊มพ์พลัส (JUMP+)" ไม่ใช่แค่โครงการธรรมดา แต่นี่คือ "Launchpad" ที่จะพลิกชีวิต บริษัทขนาดกลางและเล็ก ให้กลายเป็น "ดาวรุ่ง" ในสายตานักลงทุนทั่วโลก พร้อมทุนสนับสนุนสูงสุดรายละ 5.5 ล้านบาท และโอกาสทองในการสื่อสารแผนธุรกิจแบบโปร่งใส ผ่านทุกช่องทางของตลาดหลักทรัพย์ฯทั้งในประเทศและระดับอินเตอร์
"อัสสเดช คงสิริ" กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เล่าว่า โครงการ “JUMP+” ถือเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการยกระดับบริษัทจดทะเบียน (บจ.) โดยเฉพาะกลุ่มขนาดกลางและขนาดเล็ก ซึ่งมักถูกมองข้ามจากนักลงทุน ให้สามารถแสดงศักยภาพทางธุรกิจอย่างเป็นระบบ พร้อมสร้างความน่าเชื่อถือในสายตาตลาดทุนทั้งในและต่างประเทศ
โครงการนี้มีหัวใจสำคัญอยู่ที่ "บริษัทจดทะเบียน" ต้องวางแผนการเติบโต 3 ปี พ.ศ. 2569 - 2571 อย่างชัดเจน ครอบคลุม 3 แกนหลัก ได้แก่
- แผนธุรกิจ (Business Plan)
- แผนธรรมาภิบาลและความโปร่งใส (Governance Plan)
- แผนลดก๊าซเรือนกระจกและดูแลสิ่งแวดล้อม (Carbon Plan)
ไม่เพียงแค่การเขียนแผนเพื่อ "ส่งงาน" แต่บริษัทจะต้องสื่อสารความคืบหน้าและผลลัพธ์ต่อผู้ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ ทั้ง Opportunity Day, บทวิเคราะห์ และกิจกรรมโรดโชว์ต่างๆ
สิ่งที่น่าสนใจคือ โครงการนี้มี "ทุนจูงใจ" ที่ไม่ใช่แค่รูปธรรม แต่มีพลังในการขับเคลื่อนจริง!
- CMDF สนับสนุนสูงสุด 5 ล้านบาทต่อบริษัท สำหรับการดำเนินงานตามแผน
- หากทำได้ตามเป้าหมาย จะได้รับโบนัสเพิ่มอีก 5 แสนบาท
- และหากบริษัทมีศักยภาพและผลลัพธ์โดดเด่น อาจได้รับการพิจารณาเข้าสู่โครงการ "Corporate Value Up" ของ ก.ล.ต. ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเส้นทางการเติบโตสู่มาตรฐานสากล
"คุณสมบัติบริษัทที่เข้าร่วมโครงการได้ ข้อแรกคือ ต้องจดทะเบียนใน SET และ mai , ไม่ถูกขึ้นเครื่องหมายใดๆ , ไม่เข้าข่ายถูกเพิกถอน และไม่ถูกสำนักงาน ก.ล.ต.กล่าวโทษภายใน 5 ปี จากนั้นสามารถสมัครเข้าร่วมโครงการได้ตั้งแต่ 26 มิ.ย.-30 ธ.ค.68 คาดว่าจะเริ่มเห็นแผนงาน Jump+ ของบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 4/2568 เป็นต้นไป และจะสามารถติดตามการดำเนินงานตามแผนงานของบริษัทได้ตั้งแต่ไตรมาส 1/2569"
นอกจากนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังวางเป้าให้ JUMP+ เป็น "เวทีแจ้งเกิด" ของบริษัทขนาดกลางและเล็ก ที่มีศักยภาพแต่ยังไม่เป็นที่รู้จัก ให้กลายเป็น "หุ้นดาวรุ่ง" ที่มีข้อมูลแผนการเติบโตชัดเจน มีความรับผิดชอบต่อสังคม และสามารถแข่งขันในเวทีการลงทุนได้อย่างโปร่งใส
ในเชิงโครงสร้างตลาดทุน โครงการนี้จะช่วย…
- เพิ่มคุณภาพและความน่าเชื่อถือของบริษัทจดทะเบียน
- สร้างฐานข้อมูลแผนธุรกิจระยะกลางที่ตรวจสอบได้จริง
- ส่งเสริมการลงทุนระยะยาวจากทั้งนักลงทุนรายย่อยและสถาบัน
- สร้างแรงจูงใจให้บริษัทจดทะเบียนไทยไม่หยุดแค่กำไร แต่คิดถึง "คุณค่าองค์กร" ในระยะยาว
"ในปีแรกคาดว่าจะมีบริษัทจดทะเบียนไทยเข้าร่วม 100 บริษัท เป็นโอกาสของบริษัทขนาดกลางและเล็กที่ไม่ค่อยมีโอกาสได้รับความสนใจจากผู้ลงทุนเข้ามาเสนอแผนธุรกิจและมีโอกาสไปโรดโชว์แก่นักลงทุนทั้งในประเทศและต่างประเทศ กิจกรรม Opportunity Day การจัดทำบทวิเคราะห์ และโปรโมทผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์ฯและพันธมิตร"
แต่ความสำเร็จของ JUMP+ จะไม่เกิดขึ้นเลย หากปราศจากแผนงานที่เปี่ยมคุณภาพและการติดตามผลอย่างมีวินัย เพราะหากบริษัทเพียงแค่เขียนแผนเพื่อผ่านเกณฑ์ โดยไร้ความจริงจังในการขับเคลื่อน โครงการนี้ก็เสี่ยงที่จะกลายเป็นเพียง "คำโฆษณา" มากกว่าจะเป็น "กลไกเปลี่ยนเกม" ที่แท้จริงของตลาดทุนไทย.