“พระยาโชฎึกราชเศรษฐี” คนสุดท้าย แห่งกรุงรัตนโกสินทร์คือใคร?
พระยาโชฎึกราชเศรษฐีคนสุดท้ายแห่งกรุงรัตนโกสินทร์คือใคร?
“โชฎึกราชเศรษฐี” เป็นราชทินนามเก่าแก่ มีมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาสืบมาถึงสมัยกรุงรัตนโกสินทร์
สำนักงานราชบัณฑิตยสภา อธิบายคำว่า “โชฎึก” ว่า เป็นคำโบราณที่ยังมีใช้อยู่ แปลว่า ผู้มีความรุ่งเรือง, ผู้มีความสว่างไสว ตรงกับคำที่มาจากภาษาบาลี ว่า “โชติก” (อ่านว่า โช-ติ-กะ)
คำนี้ใช้เป็นส่วนหนึ่งของราชทินนาม “โชฎึกราชเศรษฐี” เช่น พระยาโชฎึกราชเศรษฐี เป็นตำแหน่ง เจ้ากรมท่าซ้าย มีหน้าที่ควบคุมดูแลการค้าขายและการเดินเรือสำเภาของหลวงเพื่อค้าขายกับจีน
เหตุที่เรียกชื่อตำแหน่งว่า เจ้ากรมท่าซ้าย เพราะสมัยโบราณเมื่อมองจากแม่น้ำออกสู่ทะเล จีนเป็นดินแดนฝั่งซ้ายตามการกำหนดซ้าย-ขวา ในสมัยนั้น ส่วน เจ้ากรมท่าขวา ที่ดูแลการค้าและการต่างประเทศอีกฝั่ง มีราชทินนามบรรดาศักดิ์ “พระยาจุฬาราชมนตรี”
พระยาโชฎึกราชเศรษฐี มีหน้าที่เป็นหัวหน้าควบคุมชาวจีนในสยาม ทั้งยังมีหน้าที่ร่างและแปลพระราชสาส์นระหว่างไทยกับจีนอีกด้วย ราชทินนามบรรดาศักดิ์นี้จึงมีความสำคัญอย่างยิ่ง
“ผ่อง โชติกะพุกกณะ” พระยาโชฎึกราชเศรษฐีคนสุดท้ายแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
ผ่อง โชติกะพุกกณะ มีชื่อจีนว่า หลีเต็กจิ่ง เกิดเมื่อ พ.ศ. 2419 สมัยรัชกาลที่ 5 เป็นทายาทตระกูลจีนตระกูลใหญ่ในสยาม ท่านเป็นบุตรของ คุณหญิงเพิ่ม โชฎึกราชเศรษฐี (โชติกะพุกกณะ) กับ พระยาโชฎึกราชเศรษฐี (ฮวด โชติกะพุกกณะ)
คุณหญิงเพิ่ม เป็นบุตรของพระยาพิสณฑ์สมบัติบริบูรณ์ (เจ๊สัวยิ้ม ต้นตระกูล “พิศลยบุตร”) กับคุณหญิงปรางค์ (บุตรพระยาสมบัติวานิช (บุญศรี) ต้นตระกูล “สมบัติศิริ”)
ท่านมีพี่น้องรวมทั้งสิ้น 12 คน ในจำนวนนี้มี 2 คน ที่ถวายตัวรับราชการฝ่ายใน คือ เจ้าจอมมารดาอ่วม ในรัชกาลที่ 5 ซึ่งเป็นมารดาของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระจันทบุรีนฤนาถ ต้นราชสกุล “กิติยากร” และ เจ้าจอมเอม ในรัชกาลที่ 5
เมื่อคุณหญิงเพิ่มอยู่ในวัยแรกรุ่น สมเด็จเจ้าพระยาบรมมหาศรีสุริยวงศ์ (ช่วง บุนนาค) เป็นผู้สู่ขอต่อพระยาพิสณฑ์สมบัติบริบูรณ์ ให้คุณหญิงเพิ่มสมรสกับ จีนฮวด ชื่อจีนคือ หลีฮวดจิว หรือหลีคีเซ็ง บุตรของ พระยาโชฎึกราชเศรษฐี (พุก โชติกะพุกกณะ)
จีนฮวดทำกิจการก้าวหน้ารุ่งเรือง เป็นที่ยอมรับในกลุ่มชาวจีนในสยาม กระทั่งเมื่อพระยาโชฎึกราชเศรษฐี (ฟัก โชติสวัสดิ์) ถึงแก่อนิจกรรม รัชกาลที่ 5 ทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้จีนฮวดขึ้นเป็นพระยาโชฎึกราชเศรษฐี (ฮวด โชติกะพุกกณะ)
หากนับดูสายตระกูลฝั่งบิดาของท่านผ่อง จะเห็นว่า รับราชการเป็นพระยาโชฎึกราชเศรษฐีมาแล้วถึง 2 คนเลยทีเดียว
ประวัติของท่านผ่อง จึงสะท้อนให้เห็นสายสัมพันธ์ของตระกูลจีนในสยาม ที่เชื่อมโยงกับความเป็นไปของบ้านเมืองได้เป็นอย่างดี
เมื่อพระยาโชฎึกราชเศรษฐี (มิ้น เลาหเศรษฐี) ถึงแก่อนิจกรรมใน พ.ศ. 2472 รัชกาลที่ 7 ทรงมีพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งท่านผ่องขึ้นเป็น พระยาโชฎึกราชเศรษฐี (ผ่อง โชติกะพุกกณะ)
เท่ากับว่า สกุล “โชติกะพุกกณะ” เป็นจีนสยามสกุลเดียว ที่สมาชิกสกุลได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นพระยาโชฎึกราชเศรษฐีถึง 3 คนด้วยกัน
อย่างไรก็ตาม ด้วยบริบทสังคม เศรษฐกิจ การเมือง ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ทำให้ในสมัยรัชกาลที่ 7 พระยาโชฎึกราชเศรษฐีไม่ได้มีบทบาทและบารมีเป็นหัวหน้าชุมชนจีนในสยามเหมือนแต่ก่อน หลังจากท่านผ่องถึงแก่อนิจกรรมเมื่อ พ.ศ. 2476 จึงไม่มีใครดำรงตำแหน่งนี้อีก
ท่านผ่อง โชติกะพุกกณะ จึงเป็นพระยาโชฎึกราชเศรษฐีคนสุดท้ายแห่งกรุงรัตนโกสินทร์
อ่านเพิ่มเติม :
- 9 ตระกูลจีนกรุงธนบุรี ทุกวันนี้สืบสายเป็นสกุลใดบ้าง? (ตอนที่ 1)
- 9 ตระกูลจีนกรุงธนบุรี ทุกวันนี้สืบสายเป็นสกุลใดบ้าง? (ตอนที่ 2)
- ทำไม “จีนกวางตุ้ง” ถึงมีน้อยสุด ในจำนวนกลุ่มจีน 5 ภาษาในไทย?
สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่
อ้างอิง :
สำนักงานราชบัณฑิตยสภา. “โชฎึก”.
พิมพ์ประไพ พิศาลบุตร, สมชาย จิว และนิรันดร นาคสุริยันต์ แปลและเรียบเรียง. ประวัติศาสตร์จีนกรุงสยาม เล่มที่ 2 ยุคล่าอาณานิคม. กรุงเทพฯ: มติชน, 2568
สั่งซื้อหนังสือชุดนี้ที่เว็บไซต์สำนักพิมพ์มติชน ได้ที่นี่
เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 27 มิถุนายน 2568
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : “พระยาโชฎึกราชเศรษฐี” คนสุดท้าย แห่งกรุงรัตนโกสินทร์คือใคร?
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com