กพท. เผย 5 เดือนแรก 2568 ยอดผู้โดยสารทะลุ 72 ล้านคน เร่งแผนดันไทยสู่ศูนย์กลางการบิน
กพท. เผย 5 เดือนแรก 2568 ยอดผู้โดยสารทะลุ 72 ล้านคน เร่งแผนดันไทยสู่ศูนย์กลางการบิน
พลอากาศเอก มนัท ชวนะประยูร ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) เปิดเผยว่า ในช่วง 5 เดือน ที่ผ่านมา ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ถึงมิถุนายน 2568 ประเทศไทยมีผู้โดยสารทางอากาศราว 72.68 ล้านคน เป็นผู้โดยสารเส้นทางภายในประเทศ 33.37 ล้านคน เส้นทางระหว่างประเทศ 39.31 ล้านคน และมีเที่ยวบินรวม ราว 467,000 เที่ยวบิน แม้จำนวนผู้โดยสารและเที่ยวบินยังคงต่ำกว่าช่วงก่อนสถานการณ์โควิต-19 อยู่ 13.11% แต่มีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะจากตลาดหลัก ได้แก่ ยุโรป เอเชียใต้ และอินเดีย
พลอากาศเอก มนัท กล่าวว่า ในช่วง 5 เดือนที่ผ่านมา กพท. ได้ดำเนินการอนุญาตและกำกับดูแลกิจการการบินในหลายด้านสำคัญ เช่น การออกใบรับรองสนามบินสาธารณะให้กับท่าอากาศยานพิษณุโลก สมุย และกระบี่ รวมทั้งออกใบอนุญาต ประกอบกิจการการบินพลเรือนประเภทการขนส่งทางอากาศเพื่อการพาณิชย์แบบประจำมีกำหนด (AOL) ให้สาย การบินใหม่ 2 ราย คือ บริษัท อินทิรา (2009) แอร์ และบริษัท สยามวิ่งส์ แอร์ไลน์ จํากัด และออกใบรับรอง ผู้ดำเนินการเดินอากาศ (AOC) ให้แก่ EZY Airlines ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการเดินอากาศรายใหม่
พลอากาศเอก มนัท กล่าวว่า ด้านการส่งเสริมอุตสาหกรรมการบิน กพท. ได้จัดทำแผนปฏิบัติการเร่งด่วน (Quick Win Action Plan) ขับเคลื่อนใน 2 ช่วงหลัก ได้แก่ ช่วงครึ่งปีแรก (มกราคม – มิถุนายน) มุ่งส่งเสริมธุรกิจเครื่องบินส่วนบุคคล (Private Jet) ทบทวนเกณฑ์อายุและ มาตรฐานการใช้งานอากาศยาน ส่งเสริมให้เกิด การจัดการจราจรในเมือง (UTM) รวมทั้งส่งเสริมการเจรจา เพื่อเปิดเส้นทางบินตรงสู่สหรัฐอเมริกา ภายหลังไทยได้รับคืนสถานะ FAA CAT1 เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ช่วงครึ่งปีหลัง (กรกฎาคม – ธันวาคม) มุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานการบิน เพื่อส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการบิน ภูมิภาค ส่งเสริมและสนับสนุนศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน (MRO) ที่สุวรรณภูมิ ดอนเมือง และภูเก็ต พร้อมยกระดับ กระบวนการอนุญาตด้วยเทคโนโลยี เช่น ระบบ Fast Track และส่งเสริมการให้บริการเครื่องบินน้ำ หรือ Sea Plane รวมถึงการจัดตั้งสนามบินน้ำ (Water Aerodromes)
พลอากาศเอก มนัท กล่าวว่า กพท. ยังเตรียมความพร้อมเพื่อรับการตรวจประเมินจากองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (CAC) ในโครงการ Universal Safety Oversight Audit Programme Continuous Monitoring Approach (USOAP CMAJ ช่วงปลายเดือนสิงหาคมถึงต้นเดือนกันยายน 2568 นี้ โดยจะมีการตรวจประเมินในด้านต่างๆ เช่น มาตรฐาน สนามบิน ความสมควรเดินอากาศ การปฏิบัติการบิน การบริการการเดินอากาศ ฯลฯ ทั้งในสำนักงานและการลง พื้นที่หน่วยงานต่างๆ ในการกำกับดูแลของ กพท. เพื่อประเมินประสิทธิภาพของระบบกำกับดูแลความปลอดภัย ด้านการบินของประเทศ ทั้งนี้ หากประเทศไทยได้รับคะแนนสูงจากการตรวจของ ICAO จะช่วยเสริมความเชื่อมัน จากสายการบิน นักลงทุน และผู้โดยสารทั่วโลก อีกทั้งยังเพิ่มโอกาสในการเปิดเส้นทางบินใหม่ และยกระดับ ภาพลักษณ์ความปลอดภัยด้านการบินของไทยในเวทีนานาชาติ
พลอากาศเอก มนัท กล่าวว่า กพท. ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม เช่น การผลักดันระบบบริหาร จราจรอากาศยานไร้คนขับ (UTM) การจัดตั้งเขตห้วงอากาศเฉพาะสำหรับอากาศยานไร้คนขับ ส่งเสริมการใช้ ห้วงอากาศระดับต่ำ ส่งเสริมการใช้งานโตรนในภาคส่วนต่างๆ เช่น โลจิสติกส์ เกษตรกรรม และการตรวจตรา รองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมโดรนในอนาคต และ กพท. ได้จัดทำเอกสารแนวทางการกำกับดูแลการ ให้บริการอากาศยานขึ้นลงทางดิ่งไฟฟ้า (eVTOL) และอากาศยานซึ่งไม่มีนักบิน (UAS) ฉบับแรกของภูมิภาคเอเซีย แปซิฟิก เพื่อเป็นกรอบความร่วมมือในการพัฒนาและควบคุมเทคโนโลยี AAM อย่างเป็นระบบและปลอดภัย นอกจากนี้ ประเทศไทยยังเตรียมเป็นเจ้าภาพจัดงาน ICAO AAM Symposium ในปี พ.ศ. 2569 ซึ่งนับเป็นครั้ง แรกที่งานสำคัญระดับโลกนี้จะจัดขึ้นในเอเซีย สะท้อนถึงบทบาทเชิงรุกของประเทศไทยในการขับเคลื่อนอนาคต ของการบินและการขนส่งทางอากาศในภูมิภาค
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : กพท. เผย 5 เดือนแรก 2568 ยอดผู้โดยสารทะลุ 72 ล้านคน เร่งแผนดันไทยสู่ศูนย์กลางการบิน
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.matichon.co.th