โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

โอกาสไทยในตลาดโปรตีนพืช ลงทุนน้อยผลตอบแทนมาก

Amarin TV

เผยแพร่ 17 ชั่วโมงที่ผ่านมา
เอกชน-ประชาสังคม สำรวจโอกาสตลาดไทยผลิตโปรตีนทางเลือกจากพืช ได้ผลดีทั้งต่อสิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสุขภาพของชาติ

ไม่ใช่แค่กองทัพที่เดินด้วยท้อง แต่ปริมาณก๊าซเรือนกระจกที่อยู่ในชั้นบรรยากาศด้วย เพราะกว่า 1 ใน 3 ของก๊าซเรือนกระจกที่ถูกปล่อยออกมาในแต่ละปีมาจากระบบการผลิตและบริโภคอาหารทั่วโลก! และส่วนที่ใหญ่ที่สุดไม่ใช่ใครที่ไหน คือภาคปศุสัตว์นี่เอง

ทำไมจึงเป็นปศุสัตว์ที่สร้างก๊าซเรือนกระจกมาก?

ลองนึกถึงการกินผักผลไม้และการกินเนื้อดูสิ กว่าจะได้ผักและผลไม้มากิน เราต้องใช้ดิน ใช้น้ำ ใช้ปุ๋ย ใช้เมล็ดพืช ใช้แรงงาน ใช้เวลาในการปลูก บางชนิดปลูกไม่กี่เดือนแล้วกินได้ บางชนิดใช้เวลาหลายปีจึงจะออกผล แต่ก็สามารถผลิตผลผลิตได้หลายครั้ง

แต่การกินเนื้อสัตว์คือการเอาทรัพยากรที่เราใช้ในการปลูกผัก คูณกับจำนวนครั้งที่สัตว์ตัวหนึ่งต้องกินตลอดอายุขัยจนกว่าผู้ผลิตจะคิดว่ามันพร้อมเข้าโรงเชือดแล้วหรือยัง นี่แค่อาหารสัตว์ ยังไม่นับรวมที่ดิน น้ำ และเวลาในการเลี้ยงสัตว์ ที่สัตว์เนื้อแดงอาจใช้เวลาหลายเดือนถึงหลายปี

เนื้อสัตว์ที่ผลิตก๊าซเรือนกระจกมากที่สุดคือ เนื้อวัว มีปริมาณการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 24 กิโลเทียบเท่าคาร์บอนไดออกไซด์ต่อเนื้อวัว 200 แคลอรี่ และด้วยพลังงานที่เท่ากัน เนื้อสังเคราะห์ปล่อยก๊าซเรือนกระจก 19 กิโลกรัมเทียบเท่าคาร์บอนไดออกไซด์ และโปรตีนจากการหมักบ่มเชื้อราราว 10 และไก่ราว 5.5 ตามมาด้วยหมูที่ 4

ส่วนเต้าหู้มีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่อเต้าหู้ 200 แคลอรี่ที่ 3 กิโลกรัมเทียบเท่าคาร์บอน ผักผลไม้ไม่แปรรูปมีจำนวนการปล่อยก๊าซคาร์บอนน้อยลงไปอีก โปรตีนจากพืชผักจึงเป็นทางเลือกที่หลายคนเริ่มสนใจ

ไทยได้อะไรถ้าลงทุนกับโปรตีนทางเลือก?

โอกาสประเทศไทยในตลาดโปรตีนจากพืชเป็นหัวข้อที่ถูกพูดถึงในงาน Plant-Rich Food Forum & Culinary Experience ที่จัดโดยองค์กรระหว่างประเทศ Tilt Collective ร่วมกับ สำนักงานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (สอวช.) และ The Cloud เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม 2568
ภายในงานย้ำว่า การบริโภคพืชผักมากขึ้นสามารถช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้ สร้างเม็ดเงินใหม่ถึง 1.3 ล้านล้านบาท สร้างงานใหม่มากกว่า 1 ล้านตำแหน่ง ลดอัตราการป่วยโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs) และเพิ่ม Health Span ของประชากรทั่วโลก

ที่ผ่านมา มีการสร้างความตื่นตัวในอุตสาหกรรมอาหารไทยอย่างต่อเนื่อง ถึงการผลิตโปรตีนทางเลือก อย่างโปรตีนจากแมลง ที่สร้างก๊าซเรือนกระจกน้อยกว่าพืชผักบางชนิดเสียอีก และในงาน Plant-Rich Food Forum & Culinary Experience ภาคเอกชนโดยเฉพาะ โรงแรม ภัตตาคาร คาเฟ่ รวมไปถึงองค์กรระหว่างประเทศ ภาคประชาสังคม และผู้ออกนโยบายมาคุยเรื่องนี้กันอีกครั้งเพื่อทบทวนโอกาสโปรตีนทางเลือกในประเทศไทย

นายวีระพงษ์ ประภา ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีฝ่ายผู้แทนการค้าไทย กล่าวว่า ระบบอาหารไม่ใช่แค่เรื่องปากท้องหรือสิ่งแวดล้อมเท่านั้น หากแต่เป็นส่วนสำคัญของโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ ที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพในการเจรจาต่อรองของไทยในเวทีโลก โดยมียุทธศาสตร์หลัก 3 ด้านที่สอดคล้องกับระเบียบการค้าใหม่ ได้แก่

  • การผลักดันความตกลงการค้าเสรีไทย-สหภาพยุโรปให้คืบหน้า ภายใต้นโยบายเศรษฐกิจสีเขียว
  • การเร่งผลักดันการเข้าเป็นสมาชิกองค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ (OECD) ภายในปี 2030
  • การเพิ่มขีดความสามารถของธุรกิจ SME และนวัตกรรมไทยให้มีบทบาทในห่วงโซ่มูลค่าโลกมากยิ่งขึ้น

ลงทุนน้อย ผลตอบแทนมาก

รายงาน Tilt Collective ปี 2024 Transforming the Global Food System ชี้ว่าการลงทุนกับโปรตีนทางเลือกจะให้ “ผลตอบแทนด้านสภาพอากาศ” มาก คือลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ 28 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อเงินลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งคุ้มค่ากว่าการลงทุนกับรถยนต์ไฟฟ้ากว่า 4 เท่า และยังช่วยลดงบประมาณค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพได้อีกด้วย

เช่นเดียวกันกับรายงานของ Medra Brava ที่ชี้ว่า การเปลี่ยนอาหารในจาน จากโปรตีนจากเนื้อสัตว์ มาเป็นโปรตีนจากพืชเพียงครึ่งหนึ่ง จะช่วยสร้าง GDP ให้ประเทศได้มากขึ้น 1.3 ล้านล้านบาท และสร้างงานกว่า 1 ล้านตำแหน่ง ทั้งยังลดพื้นที่เพาะปลูกจากปศุสัตว์ได้ด้วย

ไม่ใช่แค่เศรษฐกิจ แต่สิ่งแวดล้อม-สุขภาพด้วย

ปัจจุบันคนไทยมีนิสัยนิยมการกินเนื้อสัตว์มาก คือโปรตีนจากเนื้อสัตว์นับเป็นโปรตีน 70% ในแต่ละวัน ซึ่งเกินโปรตีนค่ากำหนดที่องค์การอนามัยโลกแนะนำ คือควรกินโปรตีนจากพืช:เนื้อสัตว์ในสัดส่วน 1:2 ดังนั้นพฤติกรรมการบริโภคเนื้อสัตว์มากของคนไทยไม่เพียงจะส่งผลร้ายต่อสิ่งแวดล้อม แต่ต่อสุขภาพเองด้วย
ดร.ชนิดา ปโชติการ ที่ปรึกษาสถาบันโภชนาการ มหาวิทยาลัยมหิดล เปิดเผยผลการศึกษาจากงานวิจัยหลายชิ้นที่แสดงให้เห็นว่า การรับประทานอาหารที่เน้นพืชเป็นหลักสามารถช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง เบาหวาน และมะเร็งได้อย่างมีนัยสำคัญ

สำหรับบริบทของประเทศไทย แนวทางการจัดสัดส่วนอาหารที่เหมาะสมคือ 2:1:1 ได้แก่ ผัก 2 ส่วน ข้าวหรือแป้ง 1 ส่วน และเนื้อสัตว์ 1 ส่วน ซึ่งถือเป็นจานอาหารสุขภาพที่ช่วยลดความเสี่ยงของโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง (NCDs)
“เราคงเคยเห็นคำแนะนำด้านโภชนาการจากทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็น Mediterranean Diet, DASH Diet หรือ Flexitarian Diet ซึ่งต่างก็ให้ความสำคัญกับการบริโภคพืชมากกว่าเนื้อสัตว์ นี่จึงเป็นโอกาสที่ดีในการสร้างสรรค์ ‘Siam Diet’ หรือแนวทางการกินอาหารไทยเพื่อสุขภาพในแบบฉบับของเราเอง”

ในด้านสิ่งแวดล้อม
นางสาวสิรินยา ลิม ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายนโยบายเศรษฐกิจชีวภาพ สอวช. ระบุว่า ประเทศไทยมีเป้าหมายบรรลุความเป็นกลางทางคาร์บอนภายในปี ค.ศ. 2050 โดยจะขับเคลื่อนผ่านระบบอาหารจากพืชใน 3 แนวทางหลัก ได้แก่

  • สนับสนุนการแปรรูปขั้นต้น เพื่อให้เกษตรกรมีบทบาทในการพัฒนาและดึงดูดการลงทุนด้านโปรตีนทางเลือกจากทั้งในและต่างประเทศ
  • ส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาวัตถุดิบพื้นถิ่นของไทยให้มีทั้งรสชาติและคุณค่าทางโภชนาการ พร้อมบ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพให้เติบโตในอุตสาหกรรมนี้
  • พัฒนาตลาดและสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับการบริโภคอาหารจากพืชในวงกว้าง

“หลายประเทศมีนโยบายที่ชัดเจนในการผลักดัน เช่น ฝรั่งเศสมีกฎหมาย Climate and Resilience Bill ที่กำหนดให้หน่วยงานรัฐที่ให้บริการอาหารต้องมีเมนูอาหารจากพืชทุกวัน ขณะที่ไต้หวันมีกฎหมาย Climate Change Response Act ที่สนับสนุนองค์กรภาคประชาสังคมในการส่งเสริมอาหารคาร์บอนต่ำ”

สิรินยากล่าวถึงนวัตกรรมท้องถิ่นของไทยที่อาจนำวัตถุดิบท้องถิ่นมาทดแทนโปรตีนจากเนื้อสัตว์ได้ เช่น ไข่ผำ ที่เป็นพืชโปรตีนสูง เช่นเดียวกันกับนางสุภา ใยเมือง ผู้อำนวยการมูลนิธิเกษตรกรรมยั่งยืน ที่ยกตัวอย่างพืชอย่าง ผักเหลียง ขี้เหล็ก ถั่วพู ยอดมะม่วงหิมพานต์ ที่คนไทยน่าจะบริโภคให้หลากหลายขึ้น เพราะเมื่อบริโภคหลากหลาย เกษตรกรจะสามารถเพาะปลูกพืชพันธุ์ที่หลากหลาย อย่างการปลูกพืชหลังเก็บเกี่ยวข้าว ปลูกเคลร่วมกับหัวไชเท้า ผักโขมคู่กับข้าวโพด ส่งผลดีต่อจุลินทรีย์ในผืนดิน ช่วยในการกักเก็บคาร์บอน มีความหลากหลายทางพันธุกรรม และสร้างความมั่นคงทางอาหารให้กับพื้นที่

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก Amarin TV

นักโบราณคดี แย้งไม่มีคำสาปแช่งกัมพูชา ในจารึกที่ปราสาทตาควาย

6 ชั่วโมงที่ผ่านมา

กัมพูชา ยืนยันส่งนักกีฬา 1,500 คน เข้าร่วมแข่งซีเกมส์ ที่ไทยเจ้าภาพ

7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ลาออกแล้ว! เจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน เพื่อความสงบของวัด-ชาวบ้าน

7 ชั่วโมงที่ผ่านมา

มาแล้ว ปู่มีทันใจ ปู่เดือนชัย ทำพิธีสวดส่งฮุนเซน ฮุนมาเนต และเจ๊มาลี

9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความธุรกิจ-เศรษฐกิจอื่น ๆ

ยูนิลีเวอร์-เครือซีพี ผนึกกำลังบนเวที GCNT EXPO 2025 โชว์วิสัยทัศน์พลิกเกมธุรกิจ

ฐานเศรษฐกิจ

แบรนด์เนมมือสอง โตแรง! ศก.ทรุด คนรุ่นใหม่แห่ใช้บริการ บิ๊กเนมไทย-ต่างชาติสปีดสาขาเพิ่ม

ฐานเศรษฐกิจ

อัปเดต วันหยุดธนาคารเดือนสิงหาคม 2568 ธนาคารหยุดวันไหนบ้าง

sanook.com

เงินเดือนข้าราชการ เดือนสิงหาคม 2568 เงินเข้าวันไหน

sanook.com

เช็กสิทธิบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เดือนสิงหาคม 2568 เงินเข้าวันไหน รายใหม่ทำอย่างไร

sanook.com

เที่ยวไทยคนละครึ่ง ทะลุ 3 แสนสิทธิแล้ว ททท.คาดกลางเดือน ส.ค.นี้ใช้สิทธิเต็ม

ฐานเศรษฐกิจ

“เซ็น กรุ๊ป” ปักหมุดเดือนแห่งการให้ ผุดแคมเปญ “วันแม่”

ฐานเศรษฐกิจ

เงินประกันสังคม "ม.33-ม.39-ม.40" เดือนสิงหาคม 2568 ส่งเงินสมทบเท่าไหร่

sanook.com

ข่าวและบทความยอดนิยม

กันไว้ดีกว่าแก้! เช็ก 8 จุดเสี่ยงในร่างกาย กดผิด อันตรายถึงชีวิต

Amarin TV

อากาศเปลี่ยน อาหารแพง คนจนเดือดร้อนก่อนใคร เศรษฐกิจ-การเมืองอาจผันผวน

Amarin TV

BLACKPINK WATER และ 5 วิธีจัดคอนฯ แบบใส่ใจสิ่งแวดล้อม

Amarin TV
ดูเพิ่ม
Loading...