3 หลักการช่วยเกษตรกรรับมือภาษีทรัมป์
กรุงเทพฯ 1 ส.ค. – กระทรวงเกษตรฯ ยืนยันหลักการ 3 ด้าน ป้องกันผลกระทบต่อเกษตรกร เน้นปกป้องผลผลิต-มาตรการรองรับ-ยึดกฎไทย พร้อมวาง มาตรการรองรับทันทีและดำเนินการตามกฎหมายไทย เพื่อรักษาขีดความสามารถ วัดความสามารถในการแข่งขันและความปลอดภัยผู้บริโภค
นายฉันทานนท์ วรรณเขจร เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) ในฐานะโฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยถึงผลการเจรจาภาษีต่างตอบแทน (Reciprocal Tariff) ระหว่างไทยและสหรัฐอเมริกา หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ออกคำสั่งฝ่ายบริหารเมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 กำหนดอัตราภาษีนำเข้าสินค้าจากประเทศไทยที่ 19% ว่า เป็นผลจากความพยายามเจรจาอย่างเข้มข้นของฝ่ายไทย
กระทรวงเกษตรฯ ยึด 3 หลักการสำคัญเพื่อปกป้องภาคเกษตรไทย ได้แก่
- ลดผลกระทบต่อเกษตรกรให้มากที่สุด โดยการเปิดตลาดต้องไม่ส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพด้านราคาและการรับซื้อผลผลิตในประเทศ
- มีมาตรการรองรับชัดเจน รัฐบาลต้องมีมาตรการที่สามารถนำมาใช้ได้ทันที หากเกิดผลกระทบในสินค้าแต่ละรายการ
- ดำเนินการตามกฎหมายไทยและมาตรการสุขอนามัยพืชและสัตว์ (SPS) เพื่อความปลอดภัยผู้บริโภคและไม่กระทบต่อการค้ากับประเทศคู่ค้าอื่น
ไทยจะพิจารณาเปิดตลาดให้สหรัฐฯ ใน 4 กรณี คือ
- สินค้าที่ไทยไม่ผลิต หรือผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการใช้
- สินค้าที่สอดคล้องกับกรอบความตกลงการค้าเสรี (FTA) ที่เคยเจรจาไว้แล้ว
- สินค้าที่ผู้ประกอบการไทยต้องการใช้เป็นวัตถุดิบ เช่น ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และถั่วเหลือง
- การทยอยเปิดตลาด ไม่ใช่เปิดทันทีในทุกรายการ ทั้งนี้ รายละเอียดขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของหัวหน้าคณะเจรจาฯ นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์
แม้ต้องเผชิญอัตราภาษีใหม่ 19% ไทยยังคงรักษาความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะสินค้าที่ไทยมีจุดแข็งและส่วนแบ่งการตลาดสูงอยู่แล้ว เช่น ข้าว ปลายข้าว และมะพร้าวอ่อนสด รวมถึงสินค้าที่มีอัตราภาษีใกล้เคียงประเทศคู่แข่ง เช่น ยางธรรมชาติ ยางแผ่นรมควัน และเนื้อปลาทูน่า-สคิปแจ็คแช่แข็ง
อย่างไรก็ตาม กระทรวงเกษตรฯ ตระหนักว่าสินค้าบางรายการ เช่น เนื้อโคและผลิตภัณฑ์ปศุสัตว์ อาจได้รับผลกระทบจากการนำเข้าที่เพิ่มขึ้น จึงจำเป็นต้องจัดเตรียมมาตรการรองรับผลกระทบอย่างรอบคอบ
นายฉันทานนท์ กล่าวว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะทำงานเชิงรุกร่วมกับกระทรวงพาณิชย์และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเตรียมข้อมูลประกอบการเจรจารายละเอียดกับฝ่ายสหรัฐฯ พร้อมจัดทำมาตรการช่วยเหลือและพัฒนาศักยภาพเกษตรกรอย่างรอบด้าน เพื่อให้ภาคเกษตรไทยได้รับประโยชน์สูงสุดและก้าวผ่านความท้าทายครั้งนี้ได้อย่างแข็งแกร่ง. -512-สำนักข่าวไทย