กสทช. เคาะผลพิจารณาใบอนุญาตคลื่น FM กว่า 3 พันคลื่นทั่วประเทศ
เมื่อวันที่ 16 ก.ค.68 พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการกระจายเสียง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ( กสทช.) ได้เห็นชอบผลการตรวจสอบคำขอใบอนุญาตให้ใช้คลื่นวิทยุกระจายเสียงระบบ FM สำหรับสถานีวิทยุที่มีกำลังส่งไม่เกิน 1 กิโลวัตต์ ครอบคลุมทั้งสามประเภทกิจการ ได้แก่ กิจการบริการชุมชน กิจการบริการสาธารณะ และกิจการทางธุรกิจระดับท้องถิ่น จากกระบวนการที่เปิดให้ยื่นคำขอในช่วงต้นปี 2567 รวมทั้งสิ้น 3,346 คลื่นความถี่ทั่วประเทศ
ในประเภทกิจการบริการชุมชน มีผู้ยื่นคำขอ 116 ราย จากนิติบุคคลจำนวนเท่ากัน ครอบคลุม 113 คลื่น โดย 110 รายยื่นคำขอรายเดียวต่อหนึ่งคลื่น หากผ่านเกณฑ์คุณสมบัติตามกฎหมายจะได้รับใบอนุญาต ส่วนอีก 3 คลื่น มีผู้ยื่นคำขอคลื่นละสองราย ต้องแข่งขันกันด้วยการเปรียบเทียบคุณสมบัติ และผู้ที่ไม่ได้รับการคัดเลือกอีกสามรายจะไม่ได้รับใบอนุญาต
ประเภทกิจการบริการสาธารณะ มีผู้ยื่นคำขอ 609 รายการ จากนิติบุคคล 231 ราย ครอบคลุม 506 คลื่น ในจำนวนนี้ 411 รายเป็นการยื่นขอรายเดียวต่อคลื่น และจะได้รับใบอนุญาตหากผ่านเกณฑ์คุณสมบัติ ส่วนที่เหลืออีก 198 ราย ต้องแข่งขันกันเพื่อขอรับใบอนุญาต 95 คลื่น โดยแบ่งเป็นกรณียื่นคำขอคลื่นละสองรายจำนวน 174 ราย ซึ่งจะมีผู้ได้รับใบอนุญาต 87 ราย และอีก 87 รายไม่ได้รับใบอนุญาต กับกรณียื่นคำขอคลื่นละสามรายจำนวน 24 ราย ซึ่งจะมีผู้ได้รับใบอนุญาต 8 ราย และอีก 16 รายไม่ได้รับใบอนุญาต
ด้านกิจการทางธุรกิจระดับท้องถิ่น มีผู้ยื่นคำขอรวม 2,479 รายการ จากนิติบุคคล 2,286 ราย ครอบคลุม 2,020 คลื่น โดยพบว่ามี 49 ราย หรือ 27 คลื่น ไม่ผ่านคุณสมบัติหรือขอยกเลิกคำขอ ส่วนที่เหลือแบ่งเป็นกลุ่มที่ยื่นคำขอรายเดียวจำนวน 1,675 ราย คิดเป็น 84% ซึ่งสามารถรับใบอนุญาตได้หากเข้าร่วมการประมูล และอีก 318 ราย คิดเป็น 16% ต้องแข่งขันประมูลกับผู้ยื่นคำขอรายอื่น หากแพ้การประมูล จะไม่ได้รับใบอนุญาต โดยคาดว่าจะมีผู้ไม่ได้รับใบอนุญาตในกลุ่มนี้รวม 244 ราย
"ข้อมูลทั้งหมดเป็นผลจากการตรวจสอบของ สำนักงาน กสทช.โดยพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่ประกาศไว้และดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนด และที่ประชุม กสทช. ได้เห็นชอบเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม กสทช. มีแผนจะจัดการประมูลคลื่นในเดือน ต.ค.68 และตั้งเป้าออกใบอนุญาตให้เสร็จสิ้นภายในปีนี้ เพื่อให้การใช้คลื่นวิทยุเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ โปร่งใส และอยู่ภายใต้กรอบกฎหมายอย่างเป็นระบบ" พล.อ.ท.ธนพันธุ์ กล่าว