โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

3 ขุนศึกจากเมืองตาก นายทหารคู่พระทัย “พระเจ้าตาก” คราวกอบกู้เอกราชสยาม

ศิลปวัฒนธรรม

อัพเดต 15 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 15 ชั่วโมงที่ผ่านมา
ภาพประกอบเนื้อหา - จิตรกรรมพระราชประวัติ “ทรงปราบดาภิเษกขึ้นเป็นพระมหากษัตริย์” ในศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินฯ วัดสมณโกฎฐาราม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เป็นพระมหากษัตริย์ที่คนไทยยกย่องและเทิดทูนอย่างสูง จากพระวีรกรรมที่ทรงกอบกู้เอกราชของสยามจากพม่า สถาปนากรุงธนบุรี ซึ่งนายทหารคู่พระทัยพระเจ้าตากที่ติดตามพระองค์มาจากเมืองตากก็มีส่วนสำคัญในการสนับสนุนพระราชกรณียกิจข้างต้นด้วยเช่นกัน

พ.ศ. 2301 ในสมัยพระเจ้าเอกทัศน์ พระเจ้าตากหรือขณะนั้นคือ “นายสิน” มหาดเล็ก ได้รับพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เลื่อนจากหลวงยกกระบัตรเป็น “พระยาตาก” เมืองตากจึงเป็นฐานกำลังสำคัญแห่งแรกของพระองค์ในการสั่งสมกำลังพลและบารมี รวบรวมนายทหารผู้ติดตาม อันจะมีส่วนช่วยในสงครามฟื้นฟูราชอาณาจักรสยามในกาลข้างหน้า

นายทหารคู่พระทัยพระเจ้าตาก จาก “เมืองตาก”

ในสงครามเสียกรุงศรีอยุธยา พ.ศ. 2310 พระยาตากได้เข้าประจำการในกองทัพอยุธยาตั้งแต่ พ.ศ. 2307 โดยอยู่ในสังกัดกองทัพ “พระยาพิพัฒโกษา” ซึ่งเป็นทัพที่ปะทะกับกองทัพอังวะภายใต้การนำของแม่ทัพพม่า “มังมหานรธา”

การได้ต่อรบกับพม่าทำให้พระยาตากเล็งเห็นว่า กรุงศรีอยุธยาคงถึงกาลล่มสลายแล้ว เมื่อสถานการณ์เข้าขั้นวิกฤตจึงนำทัพไพร่พลในสังกัดฝ่าวงล้อมพม่าออกจากพระนคร แล้วซ่องสุมกำลังพลในหัวเมืองตะวันออก ก่อนจะกลับมากอบกู้กรุงศรีอยุธยา สถาปนาราชธานีใหม่ที่กรุงธนบุรี

ในบรรดาไพร่พลที่เป็นกำลังให้พระเจ้าตาก ส่วนหนึ่งคือผู้ที่ติดตามพระองค์มาจากเมืองตาก มีนายทหารระดับขุนศึกที่รู้จักกันดีจากหลักฐานต่าง ๆ จำนวน 3 นาย ได้แก่ พระเชียงเงิน หลวงพรหมเสนา และพระยาพิชัย

พระเชียงเงิน

พระเชียงเงินเป็นเจ้าเมืองเชียงเงินซึ่งอยู่ติดกับเมืองตาก ปัจจุบันเป็นตำบลหนึ่งในเขตเทศบาลเมืองตาก มีชื่อในกองทัพพระยาตากตอนเดินทางออกจากวัดพิชัยเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2310 ให้การสนับสนุนพระยาตากอย่างเต็มที่ในช่วงรวบรวมกองทัพกลับมาทำสงครามกับพม่าและกลุ่มต่าง ๆ โดยมีบทบาทโดดเด่นในสงครามกับเมืองระยอง ถูกบันทึกในพงศาวดารในชื่อ “พระเชียงเงินท้ายน้ำ”

บทบาทของพระเชียงเงินยังเป็นผู้คุมการลำเลียงเสบียง เครื่องครัว และสมัครไพร่พล จึงได้รับความไว้วางพระราชหฤทัยจากสมเด็จพระเจ้าตากฯ หลังการสถาปนากรุงธนบุรี โดยโปรดฯ ให้รั้งเมืองสุโขทัยในตำแหน่ง “พระยาสุโขทัย”

พระเชียงเงินหรือพระยาสุโขทัย เป็นข้าราชการที่พระเจ้าตากมักโปรดให้เข้าเฝ้าเพื่อสั่งสอนวิชาในการรบ ดังปรากฏในสำเนาท้องตราปีมะเมีย พ.ศ. 2317 ความว่า

“…ทรง ฯ สั่งว่า เจ้าพระยาสุรศรี เจ้าพระยาสวรรคโลก พระยาพิชัย พระยาสุโขทัยลงมาเฝ้าทูลละออง ฯ แจ้งราชการครั้งก่อนนั้น ทรง ฯ ได้ตรัสเนื้อความด้วยจำเพาะพระที่นั่งว่า เดือน ๑๐ หาราชการไม่ ให้พร้อมกันลงมาเฝ้าทูลละออง ฯ จะพระราชทานความรู้วิชาการให้ต้านต่ออริข้าศึก…”

เมื่อท่านเสียชีวิต พระเจ้าตากยังโปรดพระราชทานเพลิงศพและให้จัดทำพระเมรุเช่นเดียวกับพระเจ้านราสุริยวงศ์ พระราชนัดดา

หลวงพรหมเสนา

ศ. ดร. นิธิ เอียวศรีวงศ์ วิเคราะห์ว่า หลวงพรหมเสนาเป็นบรรดาศักดิ์ของกรมการเมืองเหนือ เป็นตำแหน่งชั้นประทวนที่เจ้าเมืองตั้งจากบรรดาบ่าวไพร่คนสนิท ท่านจึงน่าจะเป็นผู้ที่รับราชการกับพระยาตากตั้งแต่ยังอยู่ที่เมืองตาก และติดตามเจ้านายมายังกรุงศรีอยุธยาราว พ.ศ. 2307

หลวงพรหมเสนาปรากฏชื่อในพงศาวดารว่าเป็นขุนศึกร่วมรบกับพระยาตากตั้งแต่นำทัพ 1,000 นาย ตีฝ่าวงล้อมพม่าออกจากกรุงศรีอยุธยา เชี่ยวชาญการยิงธนู วิชาอาคม และเป็นหมอสักยันต์ให้เหล่าทหาร ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่สำคัญหลายอย่างตลอดสงครามกอบกู้เอกราช

พระราชพงศาวดารกรุงธนบุรี ฉบับพันจันทนุมาศ (เจิม) เล่าถึงเหตุการณ์ครั้งกองทัพพระยาตากต่อสู้กับข้าศึกเมืองระยอง และล่าวถึงหลวงพรหมเสนาไว้ ดังนี้

“ครั้นเพลาค่ำประมาณทุ่มเศษอ้ายเหล่าร้ายยกทหารลอบเข้ามาตั้งค่ายล้อมได้ ๒ ด้านแล้วโห่ร้องยิงปืนใหญ่น้อยระดมบุกเข้ามาจึงตรัสให้ดับแสงเพลิงเสียจัดทหารประจำที่สงบไว้แล้วเสด็จด้วยทหารไทยจีนถือปืนคาบศิลา พระเชียงเงินท้ายน้ำ หลวงชำนาญไพรสณฑ์ หลวงพรหมเสนา…แล้วให้ทหารปืนเข้าตะลุมบอนฟันแทงข้าศึกหักเอาค่ายได้ อ้ายเหล่าร้ายล้มตายแตกยับเยิน”

หลังจบศึกนั้นหลวงพรหมเสนายังเป็นผู้จับกุมเมืองระยองเอาไว้ด้วย แต่ชื่อของท่านไม่ปรากฏอีกเลยตั้งแต่สงครามตีเมืองจันทบูรเป็นต้นมา จึงอาจเสียชีวิตไปแล้ว หรือได้เลื่อนตำแหน่งและรับบรรดาศักดิ์อื่น เรื่องราวของท่านจึงหายไปจากหน้าประวัติศาสตร์สมัยกรุงธนบุรี (บางแหล่งระบุว่าต่อมาท่านได้เป็น เจ้าพระยานครสวรรค์)

พระยาพิชัย

พระยาพิชัย (ดาบหัก) หรือนายทองดีฟันขาว ได้เข้าเรียนหนังสือและฝึกฝนวิชาการต่อสู้โดยเฉพาะมวยไทยที่วัดมหาธาตุ ในงานฉลองพระราชพิธีถือน้ำพิพัฒน์สัตยาพระยาตากที่เมืองตาก นายทองดีชกมวยชัยชนะครูมวยดังแห่งเมืองตาก 2 คน ท่านจึงได้เข้ารับราชการโดยรับยศเป็นหลวงพิชัยอาสา (ทองดี)

หลังจากสมเด็จพระเจ้าตากฯ ทรงสถาปนากรุงธนบุรีและปราบเมืองเหนือสำเร็จ หลวงพิชัยอาสาได้รับแต่งตั้งเป็นพระยาสีหราชเดโช ตามด้วยพระยาพิชัย ปกครองเมืองพิชัย ส่วนสมญานาม “พระยาพิชัยดาบหัก” เกิดขึ้นเมื่อกองทัพพม่ายกมาตีเมืองพิชัยและท่านต่อสู้กับข้าศึกอย่างดุเดือดจนดาบหัก แต่ยังใช้ดาบหักนั้นรบจนชนะศึกได้ จึงเป็นที่ยกย่องนับถืออย่างสูงจากผู้คนที่ได้รับรู้วีรกรรมนี้

ประวัติของท่านตามที่พระยาศรีสัชนาลัยบดีเรียบเรียง เมื่อมีการเปลี่ยนแผ่นดินใน พ.ศ. 2325 พระยาพิชัยได้ขอตายตามพระเจ้าตาก จึงถูกสำเร็จโทษ ดังความว่า

“ครั้นสิ้นแผ่นดินพระเจ้าตาก พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีที่ ๑ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกเสด็จขึ้นเถลิงถวัลยราชสมบัติ ณ กรุงเทพมหานคร โปรดเกล้าฯ ให้เสนาบดีเรียกตัวพระยาพิชัยดาบหักลงไปถามว่า จะยอมอยู่ทำราชการต่อไปหรือถ้ายอมอยู่จะเลี้ยงเพราะหาความผิดมิได้

พระยาพิชัยดาบหักไม่ตรองเห็นว่า ขืนอยู่ไปคงได้รับภัยมิวันใดก็วันหนึ่ง เพราะตัวท่านเป็นข้าหลวงเดิมอันสนิทของพระเจ้าตาก ย่อมเป็นที่ระแวงแก่ท่านผู้จะเป็นประมุขแผ่นดินต่อไป ทั้งประกอบด้วยความเศร้าโศกอาลัยในพระเจ้าตากเข้ากลัดกลุ้มในหทัยสิ้นความอาลัยในชีวิตของตน จึงตอบไม่ยอมอยู่จะขอตายตามเสด็จพระเจ้าตาก…”

แต่ทายาทของท่านก็ได้รับราชการสืบต่อมาในกรุงรัตนโกสินทร์และได้รับพระราชทานนามสกุล “วิชัยขัทคะ” โดยรัชกาลที่ 6

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่

อ้างอิง :

ปเรตร์ อรรถวิภัชน์. วัดเสี่ยงทายพระบารมี สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช และทหารคู่พระทัยจากเมืองตาก.ศิลปวัฒนธรรม ฉบับเดือนพฤศจิกายน 2567.

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 19 ธันวาคม 2567

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : 3 ขุนศึกจากเมืองตาก นายทหารคู่พระทัย “พระเจ้าตาก” คราวกอบกู้เอกราชสยาม

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ศิลปวัฒนธรรม

พระพุทธรูปทรงเครื่องฉลองพระองค์ 12 องค์ ในพระอุโบสถ วัดพระแก้ว แทนกษัตริย์และเจ้านายองค์ใดบ้าง?

9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

26 กรกฎาคม 1956 อียิปต์ยึด “คลองสุเอซ” คืนจาก “อังกฤษ-ฝรั่งเศส”

15 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“เฉลว” เครื่องรางขับไล่ภูตผี มรดกความเชื่อโบราณกลุ่มชนคนไท

15 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“ดับบาวาลา” อาชีพส่งปิ่นโตในเมืองมุมไบ เก่าแก่กว่า 130 ปี ส่งแม่น ส่งไว ติดอันดับโลก

15 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

ภูวินทร์ และแฟนคลับ ร่วมบริจาคเงินช่วยโรงพยาบาลจากเหตุการณ์ ไทย-กัมพูชา และน้ำท่วม จ.น่าน

THE STANDARD

ดู The Fantastic Four ฟินกับ Street Market พร้อมเมนูสุดพิเศษจากหนัง

กรุงเทพธุรกิจ

ศูนย์พักพิงสัตว์เจอน้องแมวถูกทิ้งในรถเข็นเด็ก มีจดหมายฝากฝังจากเจ้าของเก่าทิ้งเอาไว้ น้องเป็นแมวน่ารัก แต่เลี้ยงต่อไม่ได้เพราะตอนนี้ฉันกลายเป็นคนไร้บ้าน

CatDumb

เอส เอฟ จัดฉาย “นากรักมากม๊ากมาก” มอบรายได้ช่วยสถานการณ์ชายแดน

กรุงเทพธุรกิจ

ทำยังไงให้เรียนภาษาได้ไวกว่าเดิมในวัยทำงาน? เคล็ดลับสำหรับคนเวลาน้อย

sanook.com

รู้จัก “ภูมะเขือ” ยุทธศาสตร์สำคัญใกล้ปราสาทเขาพระวิหาร ที่ทหารไทยขึ้นไปปักธงไตรรงค์

Manager Online

ถ่ายทอดสด ลิเวอร์พูล พบ เอซี มิลาน ฟุตบอลอุ่นเครื่อง วันนี้

PostToday

UNIQLO : C เปิดตัวพาร์ตแรกของคอลเล็กชัน Fall/Winter 2025

THE STANDARD

ข่าวและบทความยอดนิยม

26 กรกฎาคม 1956 อียิปต์ยึด “คลองสุเอซ” คืนจาก “อังกฤษ-ฝรั่งเศส”

ศิลปวัฒนธรรม

“เฉลว” เครื่องรางขับไล่ภูตผี มรดกความเชื่อโบราณกลุ่มชนคนไท

ศิลปวัฒนธรรม

“ดับบาวาลา” อาชีพส่งปิ่นโตในเมืองมุมไบ เก่าแก่กว่า 130 ปี ส่งแม่น ส่งไว ติดอันดับโลก

ศิลปวัฒนธรรม
ดูเพิ่ม
Loading...