โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

โรงเลี้ยงเด็กแห่งแรกในสยาม ของพระอรรคชายาเธอใน ร.5 ที่มา “ตรอกโรงเลี้ยงเด็ก”

ศิลปวัฒนธรรม

อัพเดต 15 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 15 ชั่วโมงที่ผ่านมา
พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์

“ตรอกโรงเลี้ยงเด็ก” เป็นตรอกเล็ก ๆ ย่าน “สวนมะลิ” ถนนบำรุงเมือง แขวงคลองมหานาค เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย กรุงเทพมหานคร ชื่อตรอกมาจากบริเวณนี้เคยเป็น “โรงเลี้ยงเด็ก” จริง ๆ และเป็นแห่งแรกของสยาม ในสมัยรัชกาลที่ 5

โรงเลี้ยงเด็กดังกล่าวถือกำเนิดภายใต้การอุปถัมภ์ของ พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์หรือพระนามเดิมคือ “หม่อมเจ้าหญิงสาย” พระอรรคชายาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) เป็นพระธิดาในพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหมื่นภูมินทรภักดี (พระองค์เจ้าลดาวัลย์) ต้นราชสกุลลดาวัลย์ ณ อยุธยา ซึ่งกรมหมื่นภูมินทรภักดีทรงเป็นพระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 3)

พระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ มีพระราชโอรสและพระราชธิดา 4 พระองค์ เมื่อพระราชธิดาองค์ที่ 2 พระนามว่า พระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้านภาจรจำรัสศรีประชวรด้วยโรคไข้รากสาดน้อย จนเป็นเหตุให้สิ้นพระชนม์เมื่อมีพระชันษาเพียง 5 ปี ใน พ.ศ. 2432 พระองค์จึงโศกเศร้าอาลัยรักพระราชธิดายิ่ง

เหตุการณ์ข้างต้นทำให้พระองค์มีพระราชดำริถึงเด็กคนอื่น ๆ ที่ขาดการเลี้ยงดูเอาใจใส่รักษาพยาบาล อันเนื่องมาจากความยากจนของบิดามารดา ประกอบกับมีพระประสงค์จะสร้างพระกุศลอุทิศแด่พระราชธิดาที่สิ้นพระชนม์ จึงโปรดให้ตั้งโรงเลี้ยงเด็กสำหรับช่วยเหลือและรับเลี้ยงเด็กที่ยากจน เด็กกำพร้ายากไร้ ไม่มีผู้ดูแลเอาใจใส่ ณ ริมถนนบำรุงเมือง ตำบลสวนมะลิ พ.ศ. 2433

สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ผู้รับหน้าที่อำนวยการ บันทึกข้อมูลไว้ว่า ที่ดินในการสร้างถูกซื้อต่อจาก “นายภู่” เป็นที่ที่มีอาคารเดิมอยู่แล้ว 4 หลัง จึงซ่อมแซมแปลงเป็นที่เลี้ยงเด็ก เรือนพยาบาล และเรือนผู้จัดการ โดยรัชกาลที่ 5 ได้เสด็จพระราชดำเนินมาทรงทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2433

โรงเลี้ยงเด็กของพระอรรคชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ เป็นโรงเลี้ยงเด็กแห่งแรกในสยาม นับเป็นสิ่ง “ล้ำสมัย” ในยุคนั้น และเป็นต้นแบบการดำเนินงานด้านประชาสงเคราะห์ของไทยเรื่อยมา

ที่นี่มีเด็กชาย-หญิงเข้ามาอยู่ในความดูแลเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนถึง 11 ปี (เด็กหญิง) และ 13 ปี (เด็กชาย) โดยพระอรรคชายาเธอฯ โปรดประทานนามเด็กทุกคนให้มีคำว่า บุญ นำหน้า เช่น บุญนำ บุญชวน บุญช่วย บุญทิ้ง เป็นต้น

เด็กเหล่านี้จะต้องอาศัยกินนอนในที่แห่งนี้จนถึงช่วงวัยที่กำหนด ซึ่งนอกจากจะได้รับการดูแลเอาใจใส่ทั้งทางร่างกายและจิตใจเป็นอย่างดีแล้ว ยังได้รับความรู้ให้เติบโตไปแล้วสามารถประกอบอาชีพเลี้ยงตนเองได้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ในช่วงหลังโรงเลี้ยงเด็กเริ่มเปลี่ยนแปลงไปสู่การใช้งานรูปแบบอื่น เช่น จัดงานราตรีสโมสรต้อนรับอาคันตุกะระดับเจ้านายต่างชาติ ถูกเช่าพื้นที่เป็นโรงเรียนราชวิทยาลัย โรงเรียนเบญจมราชูทิศ ทำให้มีการต่อเติมจนอาคารสถานที่ต่าง ๆ มีจำนวนมากและใหญ่โตเกินความจำเป็น

กระทั่งเมื่อพระอรรคชายาเธอฯ สิ้นพระชนม์ เมื่อ พ.ศ. 2472 ไม่นานสถานที่แห่งนี้ก็ถูกยกเลิกไป แปลงสภาพกลายเป็นที่ดินแปลงย่อย ๆ ตึกแถว บ้านเรือน และร้านค้า จนไม่เหลือสภาพเดิมหลังเข้าสู่พุทธศตวรรษที่ 26

อนุสรณ์เดียวที่เป็นหลักฐานว่าในอดีตสถานแห่งนี้เคยเป็นที่ตั้งโรงเลี้ยงเด็กแห่งแรกของสยามมาก่อน คือชื่อ “ตรอกโรงเลี้ยงเด็ก” ที่ยังอยู่ในความทรงจำของผู้คนตราบถึงปัจจุบัน

อ่านเพิ่มเติม :

สำหรับผู้ชื่นชอบประวัติศาสตร์ ศิลปะ และวัฒนธรรม แง่มุมต่าง ๆ ทั้งอดีตและร่วมสมัย พลาดไม่ได้กับสิทธิพิเศษ เมื่อสมัครสมาชิกนิตยสารศิลปวัฒนธรรม 12 ฉบับ (1 ปี) ส่งความรู้ถึงบ้านแล้ววันนี้!! สมัครสมาชิกคลิกที่นี่

อ้างอิง :

ศันสนีย์ วีระศิลป์ชัย. พิมพ์ครั้งที่ 6. (2546). ชื่อบ้านนามเมืองในกรุงเทพฯ.กรุงเทพฯ : มติชน.

ชาตรี ประกิตนนทการ. โรงเลี้ยงเด็กของพระอัครชายาเธอฯ : ประวัติและความเปลี่ยนแปลงของพื้นที่.มติชนสุดสัปดาห์, ฉบับวันที่ 28 กรกฎาคม – 3 สิงหาคม และ ฉบับวันที่ 4 – 10 สิงหาคม 2566.

เผยแพร่ในระบบออนไลน์ครั้งแรกเมื่อ 26 มกราคม 2568

อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : โรงเลี้ยงเด็กแห่งแรกในสยาม ของพระอรรคชายาเธอใน ร.5 ที่มา “ตรอกโรงเลี้ยงเด็ก”

ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
– Website : https://www.silpa-mag.com

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ศิลปวัฒนธรรม

พระพุทธรูปทรงเครื่องฉลองพระองค์ 12 องค์ ในพระอุโบสถ วัดพระแก้ว แทนกษัตริย์และเจ้านายองค์ใดบ้าง?

9 ชั่วโมงที่ผ่านมา

26 กรกฎาคม 1956 อียิปต์ยึด “คลองสุเอซ” คืนจาก “อังกฤษ-ฝรั่งเศส”

15 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“เฉลว” เครื่องรางขับไล่ภูตผี มรดกความเชื่อโบราณกลุ่มชนคนไท

15 ชั่วโมงที่ผ่านมา

“ดับบาวาลา” อาชีพส่งปิ่นโตในเมืองมุมไบ เก่าแก่กว่า 130 ปี ส่งแม่น ส่งไว ติดอันดับโลก

15 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความไลฟ์สไตล์อื่น ๆ

ภูวินทร์ และแฟนคลับ ร่วมบริจาคเงินช่วยโรงพยาบาลจากเหตุการณ์ ไทย-กัมพูชา และน้ำท่วม จ.น่าน

THE STANDARD

ดู The Fantastic Four ฟินกับ Street Market พร้อมเมนูสุดพิเศษจากหนัง

กรุงเทพธุรกิจ

ศูนย์พักพิงสัตว์เจอน้องแมวถูกทิ้งในรถเข็นเด็ก มีจดหมายฝากฝังจากเจ้าของเก่าทิ้งเอาไว้ น้องเป็นแมวน่ารัก แต่เลี้ยงต่อไม่ได้เพราะตอนนี้ฉันกลายเป็นคนไร้บ้าน

CatDumb

เอส เอฟ จัดฉาย “นากรักมากม๊ากมาก” มอบรายได้ช่วยสถานการณ์ชายแดน

กรุงเทพธุรกิจ

ทำยังไงให้เรียนภาษาได้ไวกว่าเดิมในวัยทำงาน? เคล็ดลับสำหรับคนเวลาน้อย

sanook.com

รู้จัก “ภูมะเขือ” ยุทธศาสตร์สำคัญใกล้ปราสาทเขาพระวิหาร ที่ทหารไทยขึ้นไปปักธงไตรรงค์

Manager Online

ถ่ายทอดสด ลิเวอร์พูล พบ เอซี มิลาน ฟุตบอลอุ่นเครื่อง วันนี้

PostToday

UNIQLO : C เปิดตัวพาร์ตแรกของคอลเล็กชัน Fall/Winter 2025

THE STANDARD

ข่าวและบทความยอดนิยม

26 กรกฎาคม 1956 อียิปต์ยึด “คลองสุเอซ” คืนจาก “อังกฤษ-ฝรั่งเศส”

ศิลปวัฒนธรรม

“เฉลว” เครื่องรางขับไล่ภูตผี มรดกความเชื่อโบราณกลุ่มชนคนไท

ศิลปวัฒนธรรม

“ดับบาวาลา” อาชีพส่งปิ่นโตในเมืองมุมไบ เก่าแก่กว่า 130 ปี ส่งแม่น ส่งไว ติดอันดับโลก

ศิลปวัฒนธรรม
ดูเพิ่ม
Loading...