ฉากทัศน์การเมืองไทยหลัง “แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่
วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว จากกรณีคำร้องที่อ้างอิงคลิปเสียงเกี่ยวข้องกับผู้นำต่างชาติ ความเคลื่อนไหวนี้ไม่ได้สะเทือนแค่เก้าอี้ผู้นำฝ่ายบริหาร แต่สั่นคลอนทั้งโครงสร้างการเมือง เศรษฐกิจ และความเชื่อมั่นต่อระบบการเมืองในสายตาประชาชนและต่างชาติ
จุดเริ่มของความไม่แน่นอน
คดีนี้คล้ายกับที่เคยเกิดกับอดีตนายกฯ ประยุทธ์ (ปี 2565) และเศรษฐา (ปี 2566) ที่ถูกสั่งหยุดหน้าที่จากศาลในช่วงที่กำลังขับเคลื่อนนโยบายเชิงรุก ปัญหาคือ ทุกครั้งที่เกิดกรณีแบบนี้ ประเทศจะเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านที่เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ซึ่งมักกินเวลาไม่น้อยกว่า 30-90 วัน
สามทางแยกบนเส้นทางการเมือง
ฉากทัศน์ที่เป็นไปได้จากนี้แบ่งได้เป็น 3 เส้นทางหลัก
ศาลยกคำร้อง แพทองธารกลับมานั่งเก้าอี้นายกฯ เสถียรภาพรัฐบาลอาจกลับมา แต่ความเชื่อมั่นของประชาชนจะฟื้นหรือไม่ คืออีกเรื่อง
ศาลชี้ว่าขาดคุณสมบัติ รัฐบาลพ้นทั้งคณะ ต้องตั้งนายกฯ ใหม่ในสภา หากตกลงกันไม่ได้ อาจจบด้วยการยุบสภา
พรรคร่วมถอนตัว-ยุบสภา หากพรรคหลักหรือพรรคร่วมไม่เห็นพ้องเรื่องตัวนายกฯ คนใหม่ ก็อาจนำไปสู่การเลือกตั้งใหม่ ซึ่งมักมีต้นทุนทางการเมืองและเศรษฐกิจสูง
เศรษฐกิจไม่รอใคร
ระหว่างที่การเมืองชะลอ เศรษฐกิจกลับต้องการความชัดเจนโดยเร็ว
งบประมาณปี 2569 ที่มีมูลค่ากว่า 3.7 ล้านล้านบาท อาจเผชิญภาวะล่าช้าหรือเปลี่ยนแปลงในสาระสำคัญ หากรัฐบาลไม่มีเสถียรภาพ
นักลงทุนต่างชาติเริ่มชะลอการลงทุนใหม่ จากรายงานของ JETRO กรุงเทพฯ พบว่า 54% ของนักลงทุนญี่ปุ่นในไทย ระบุว่า “เสถียรภาพทางการเมือง” คือปัจจัยเสี่ยงอันดับต้นๆ ของไทย
ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจไทยในเดือนมิถุนายน 2568 ลดลงเหลือ 46.5 จุด ต่ำกว่าค่ากลาง (50) เป็นครั้งแรกในรอบ 10 เดือน (ข้อมูลจาก ธนาคารแห่งประเทศไทย)
รัฐบาลผสมที่ไม่ค่อยกลมกลืน
แม้รัฐบาลชุดนี้จะก่อตั้งขึ้นจากหลากพรรคเพื่อสร้างเสียงข้างมาก แต่ความหลากหลายนี้กลับทำให้เกิดแรงเสียดทานภายใน โดยเฉพาะเมื่อเจอจังหวะเปลี่ยนผู้นำกลางทาง
ชื่อของ "นายชัยเกษม นิติศิริ" ถูกหยิบยกขึ้นเป็นแคนดิเดตนายกฯ สำรอง แต่ก็ยังไม่ชัดเจนว่าจะได้รับความเห็นชอบจากพรรคร่วมทั้งหมดหรือไม่ หากแตกแถว โอกาสยุบสภาก็ไม่ใช่เรื่องไกลตัว
วิกฤตนี้คือโอกาส?
หากจะมองวิกฤตเป็นโอกาส นี่อาจเป็นช่วงเวลาสำคัญที่สังคมไทยต้องทบทวนโครงสร้างอำนาจทั้งหมด ตั้งแต่รัฐธรรมนูญ ระบบพรรคการเมือง ไปจนถึงบทบาทขององค์กรอิสระและสถาบันนิติบัญญัติ
ขณะเดียวกัน นักการเมืองเองก็ต้องเลือกว่าจะรักษาเสถียรภาพระยะสั้นด้วยการประคองอำนาจ หรือจะเลือกวางระบบใหม่ที่ลดความเปราะบางในระยะยาว
ท้ายที่สุด ไม่ว่าศาลจะวินิจฉัยอย่างไร คนที่ต้องจ่ายราคาทางเศรษฐกิจ สังคม และโอกาส คือประชาชนทุกคน
การเมืองไทยกำลังอยู่ในห้วงเวลาเปลี่ยนผ่านอีกครั้งหนึ่ง คำถามคือ เราจะออกจากวังวนเดิมได้อย่างไร หรือสุดท้าย ทุกอย่างจะย้อนกลับมาที่จุดเริ่มต้นอีกครั้ง เหมือนที่ผ่านมา
วิกฤตอาจเปิดทางให้ตั้งคำถามที่ไม่เคยถาม และถ้ามีคำตอบใหม่ๆ เกิดขึ้นจากครั้งนี้ มันอาจเป็นจุดเริ่มต้นของการเมืองที่มีอนาคตกว่าที่เคย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- “แพทองธาร” ขอโทษคนไทย พร้อมน้อมรับคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่
- “สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” เตรียมปฏิบัติหน้าที่รักษาการนายกรัฐมนตรี
- ทำความรู้จัก “พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานคนใหม่
- ใครนั่งกระทรวงไหน ? ครม.แพทองธาร 1/2
- ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง “แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ชั่วคราว