"สนธิรัตน์"เตือนรัฐบาลไม่ควรยื้ออยู่ต่อ หวั่นวิกฤตลุกลามระบบ
วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน และอดีตเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว แสดงความเห็นทางการเมืองอย่างตรงไปตรงมา ภายใต้สถานการณ์วิกฤติความนิยมของรัฐบาล ที่กำลังเผชิญแรงเสียดทานรอบด้าน ทั้งจากภายในพรรคร่วมและแรงกดดันจากประชาชน
นายสนธิรัตน์ ระบุว่า ผู้นำทางการเมืองที่มีอำนาจในมือ ต้องรู้จัก "ทั้งรับผิดและรับชอบ" โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ประชาชนเริ่มตั้งคำถามถึงความชอบธรรมและประสิทธิภาพในการบริหารประเทศ ยิ่งมีอำนาจมาก ยิ่งต้องมีความรับผิดชอบสูง ไม่ใช่ลดน้อยถอยลง
“ความรับผิดชอบทางการเมือง ไม่ใช่สิ่งที่ต้องรอให้ถูกกดดัน ไม่ต้องเอากฎหมายมากาง แต่เป็นสิ่งที่ผู้นำทางการเมืองต้องสำนึกรู้ได้ด้วยตัวเอง” นายสนธิรัตน์ระบุ
นายสนธิรัตน์ยังสะท้อนความห่วงใยต่อกระบวนการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ซึ่งกำลังถูกจับตาจากสาธารณชนว่าเป็นการ “แบ่งเค้ก” มากกว่าการคัดเลือกบุคลากรที่มีความสามารถเข้ามาแก้วิกฤติของประเทศ
“การตัดสินใจที่อิงความอยู่รอดทางการเมือง อาจไม่ได้ช่วยให้นายกฯ เปลี่ยนวิกฤติเป็นโอกาส และจะยิ่งทำให้ความชอบธรรมลดลงไปอีก”
อดีตรัฐมนตรีพลังงาน ยังอ้างอิงผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุด ที่สะท้อนคะแนนนิยมของนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทยตกลงอย่างชัดเจน โดยนายกรัฐมนตรีร่วงไปอยู่อันดับ 5 ลดลงถึง 20 จุด ขณะที่พรรคเพื่อไทยลดลงจนรั้งอันดับ 3 ซึ่งสวนทางกับมวลชนที่หลั่งไหลมาร่วมการชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิจำนวนหลักหมื่นคน แสดงออกถึงความไม่พอใจต่อผู้นำที่ไร้ความรับผิดชอบ
“ยิ่งผู้นำการเมืองทอดเวลาการลงจากอำนาจออกไป ก็ยิ่งทำให้ตัวผู้นำห่างไกลจากความนิยมทางการเมืองมากขึ้น”
นายสนธิรัตน์ ทิ้งท้ายด้วยคำเตือนสำคัญว่า ทุกทางออกจะเหมาะสมเฉพาะในช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น หากตัดสินใจช้า หรือปล่อยให้สถานการณ์ยืดเยื้อ อาจทำให้วิกฤติลุกลามจากตัวนายกฯ ไปสู่พรรคการเมือง รัฐบาล และ กลายเป็นวิกฤติการเมืองของทั้งระบบในที่สุด