“มอร์นิ่งสตาร์”...เผยครึ่งปีแรก กอง “ThaiESG” AUM เพิ่มขึ้น +14% ผลตอบแทนเฉลี่ยติดลบ -10.0% “กองตราสารหนี้” โชว์ผลตอบแทนบวก +8.6% เงินไหลเข้ามากสุด 4.1 พันลบ.
จากข้อมูลของ “บลจ.มอรฺนิ่งสตาร์ รีเสิร์ช (ประเทศไทย)” เปิดเผยว่า หากพิจารณาการเติบโตของขนาดทรัพย์สินของ “กองทุนรวมไทยเพื่อความยั่งยืน” (ThaiESG) โดยรวมในปีนี้ จะพบว่าตลาดโดยรวมยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยมีมูลค่าทรัพย์สินรวมปรับเพิ่มขึ้นจาก 32,200 ล้านบาท เป็น 36,700 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้นราว 4,500 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตราว 14%
โดย “กองทุนตราสารหนี้-Thai ESG” นับเป็นกองทุนประเภทเดียวในกลุ่มกองทุน Thai ESG ที่มีมูลค่าทรัพย์สินปรับเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าทรัพย์สินปรับเพิ่มขึ้นประมาณ 5,600 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตประมาณ 34% ซึ่งสูงกว่าเท่าตัวของตลาดโดยรวม ในขณะที่กองทุนประเภทอื่นๆ มีมูลค่า
“กองทุนตราสารหนี้-ThaiESG” กวาดส่วนแบ่งตลาดเพิ่มขึ้น
ไม่เพียงแต่การเติบโตของมูลค่าทรัพย์สินที่โดดเด่นของ “กองทุนตราสารหนี้-Thai ESG” เท่านั้น แต่กองทุนดังกล่าวยังมีส่วนแบ่งตลาดสูงสุดเมื่อเทียบกับสินทรัพย์ประเภทอื่นๆ โดยในช่วงต้นปี 2568 กองทุนตราสารหนี้ Thai ESG มีส่วนแบ่งตลาดราว 51% แต่การปรับตัวเพิ่มขึ้นของมูลค่าทรัพย์สินของสินทรัพย์ประเภทนี้ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา ทำให้ส่วนแบ่งตลาดปรับตัวเพิ่มขึ้นจากเดิมกลายเป็นสัดส่วนสูงถึง 61% ในปัจจุบัน ในขณะที่ “กองทุนหุ้น-ThaiESG” มีสัดส่วนปรับตัวลดลงมากที่สุดจาก 36% ในช่วงต้นปี เหลือเพียง 28% ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2568
ในด้านเงินลงทุนของนักลงทุน ในครึ่งปีที่ผ่านมากองทุน Thai ESG มีเงินไหลเข้าประมาณ 5,200 ล้านบาท โดยเกือบ 80% มาจากกองทุนตราสารหนี้ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 4,100 ล้านบาท ในขณะที่กองทุนหุ้นมีเงินไหลเข้า 900 ล้านบาท และกองทุนผสม 200 ล้านบาท ทั้งนี้ หากพิจารณารายเดือนตลอดช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา จะเห็นพบว่าทั้งกองทุนหุ้น, กองทุนผสม และกองทุนตราสารหนี้ ล้วนมีเงินไหลเข้าเป็นบวกอย่างต่อเนื่อง แต่กองทุนตราสารหนี้ Thai ESG มีระดับเงินไหลเข้าที่สูงกว่าสินทรัพย์ประเภทอื่นๆอย่างเห็นได้ชัด และมีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่กองทุนหุ้นมีเงินไหลเข้ารองลงมา แต่ระดับเงินลงทุนเริ่มปรับตัวลดลงในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา
ผลตอบแทนที่โดดเด่นดึงดูดนักลงทุน
ปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลให้ “กองทุนตราสารหนี้-ThaiESG” ได้รับความนิยม คือ ผลตอบแทนที่โดดเด่น โดยถึงแม้ว่าค่าเฉลี่ยผลตอบแทนของกองทุน Thai ESG (แท่งสีฟ้า) จะมีระดับติดลบอย่างต่อเนื่องทั้งในช่วง 1 เดือน, 3 เดือน, ตั้งแต่ต้นปี แต่กองทุนตราสารหนี้ Thai ESG (แท่งสีเขียว) สามารถรักษาระดับผลตอบแทนได้เป็นบวกทั้งหมดในช่วงเวลาดังกล่าว โดยสร้างผลตอบแทนเฉลี่ยได้ 8.6% ในครึ่งปีที่ผ่านมา และ 13.6% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ซึ่งสวนทางกับสินทรัพย์ประเภทอื่นๆที่ปรับตัวลดลง ตัวอย่างเช่น กองทุนหุ้นที่ปรับตัวลดลงกว่า -17.0% ในช่วงครึ่งปีและ -14.2% ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา
ข้อควรระวัง…กับดักผลตอบแทน
การลงทุนในกองทุนตราสารหนี้นั้นไม่ได้หมายความว่ากองทุนจะต้องสร้างผลตอบแทนที่เป็นบวกได้เสมอไป โดยเฉพาะกองทุนตราสารหนี้ Thai ESG ที่มีข้อกำหนดให้เน้นลงทุนในตราสารหนี้ที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืนเท่านั้น ซึ่งปัจจุบันยังมีตราสารที่เสนอขายในตลาดจำนวนน้อยและกระจุกตัวในผู้ออกที่เป็นภาครัฐเป็นส่วนใหญ่ ทำให้พอร์ตการลงทุนมีลักษณะค่อนข้างกระจุกตัว และความหลากหลายของตราสารในพอร์ตอาจไม่มากนักเมื่อเทียบกับกองทุนตราสารหนี้ทั่วไป
นอกจากนี้ ตราสารหนี้ ESG ภาครัฐส่วนใหญ่เป็นตราสารหนี้ระยะยาว โดยมีอายุเฉลี่ยที่ 10 ปีขึ้นไป หมายความว่า หากอัตราดอกเบี้ยในตลาดมีการปรับขึ้นเพียงเล็กน้อย ก็อาจส่งผลให้ราคาตราสารหนี้ปรับลดลงได้มากกว่าปกติเมื่อเทียบกับตราสารหนี้ระยะสั้น ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนโดยรวมของพอร์ตการลงทุน
ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต/ ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจในลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน