โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

หลอน!รัฐประหาร ‘แดง-ส้ม’พาเหรดอัดม็อบ/รวมพลังแผ่นดินนัดถกยกระดับ

ไทยโพสต์

อัพเดต 30 มิถุนายน 2568 เวลา 7.01 น. • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

รัฐบาล-เพื่อไทย พาเหรดกล่าวหา "กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน" เรียกหารถถังทำรัฐประหาร หวั่นประเทศถอยหลังเสียหายย่อยยับ ชี้คำปราศรัยเชื่อมโยงผู้นำกัมพูชาแทรกแซงการเมืองไทย ปลุก ปชช.ทุกองค์กรร่วมกันต่อต้าน รปห. "พรรคส้ม" ร่วมประณามด้วย วอนมวลชนถอนตัวสนับสนุน เหตุมีแกนนำฉวยโอกาส ย้ำทางออกยุบสภา "สาธิต" ซัดพรรคส้มมือไม่พายเอาเท้าราน้ำ "อ.ไชยันต์" กระตุก ปชน. หากไม่ยื่นซักฟอกเท่ากับไว้วางใจนายกฯ แพทองธาร ด้าน "คปท." ย้ำจุดยืนไม่เอา รปห. แปลกใจฝ่ายค้านกล่าวหา ปชช.ทั้งที่ควรตรวจสอบ รบ. นัดหารือใหญ่แกนนำ "รวมพลังแผ่นดิน" 1 ก.ค.นี้ ยกระดับขับไล่นายกฯ บุก "ปชป.-ชทพ." บี้ให้ถอนตัว

เมื่อวันอาทิตย์ที่ 29 มิถุนายน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมาว่า การชุมนุมเป็นสิทธิในการแสดงออกตามที่กฎหมายบัญญัติไว้ แต่ในส่วนของเนื้อหาการปลุกระดมและปราศรัยของแกนนำผู้ชุมนุมนั้น ในยุคที่ประเทศไทยผ่านร้อนผ่านหนาวมา 93 ปีของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เห็นแล้วว่าการปฏิวัติรัฐประหารไม่เคยเป็นคำตอบที่ “ใช่” แต่ละครั้งมีแต่จะฉุดรั้งให้ประเทศถอยหลังลงคลองมาทุกยุคทุกสมัย ซึ่งเชื่อว่าหากมีการปกครองด้วยระบอบรัฐประหารอีก ไทยจากประเทศกำลังพัฒนา คงจะถูกปรับไปเป็นประเทศด้อยพัฒนาในภูมิภาคนี้อย่างแน่นอน

นายจิรายุกล่าวว่า แกนนำหลายคนที่เรียกร้องหารถถังบนเวที เป็นสิ่งที่คนไทยและประเทศไทยไม่อาจยอมรับได้ แกนนำหลายคนในอดีตปากเคยบอกว่าขอต่อสู้กับการปฏิวัติรัฐประหารจนกว่าชีวิตจะหาไม่ แต่เมื่อคืนที่ผ่านมา เห็นได้ชัดเจนแล้วว่าเป็นอย่างไร จึงขอเรียกร้องให้คนไทยทั้งประเทศร่วมกันต่อต้านแนวทางดังกล่าว และรู้ทันบุคคลเหล่านี้ ที่แสวงหาอำนาจจากการปฏิวัติยึดอำนาจมาตลอด 20 ปี ที่ประชาชนคนไทยทุกคนต่างเจ็บปวดและเสียหายอย่างประเมินค่าไม่ได้จากการเรียกร้องของคนกลุ่มเดิมๆ เราจะรวมใจกันแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันว่าจะไม่สนับสนุนการทำปฏิวัติรัฐประหาร และจะไม่ยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นในประเทศนี้ได้อีก

"จากเนื้อหาการปราศรัยเห็นอย่างชัดเจนว่า แกนนำพร้อมที่จะดึงประเทศถอยหลังลงคลอง โดยไม่สนใจประชาชนกว่า 70 ล้านคนจะเป็นจะตาย หรือจะอยู่กันอย่างไร ท่ามกลางการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจทั้งในประเทศ ในภูมิภาค และระดับโลกที่รุมเร้า อีกทั้งการปราศรัยทำให้เห็นความเชื่อมโยงของแกนนำ ที่สอดรับกับผู้นำกัมพูชา ที่ยุยงปลุกปั่น และก้าวล่วงแทรกแซงคนไทยและประเทศไทยมาตลอด รัฐบาลจะยืนหยัดในการธำรงไว้ซึ่งระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และขอเรียกร้องให้องค์กรต่างๆ ที่ร่วมกันต่อสู้กับการปฏิวัติรัฐประหาร ได้จับมือประสานกันรณรงค์เพื่อต่อต้านกลุ่มบุคคลที่เรียกร้องให้ทำการปฏิวัติรัฐประหาร เพื่อไม่ให้ประเทศไทยบอบช้ำไปมากกว่านี้" นายจิรายุกล่าว

ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายดนุพร ปุณณกันต์ สส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี คณะรัฐมนตรี (ครม.) และพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าการชุมนุมเป็นการแสดงออกเป็นสิทธิตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ โดยปราศจากความรุนแรง อาวุธ และชอบด้วยกฎหมาย แต่สิ่งที่พรรคเพื่อไทยเป็นห่วงคือเนื้อหาการปลุกระดมของแกนนำบางคน ที่พูดถึงการปฏิวัติรัฐประหาร เป็นสิ่งที่ไม่อาจรับได้ ขอเรียกร้องไปยังประชาชนที่รักในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ว่าจะไม่เดินทางไปสู่การปฏิวัติรัฐประหารอีกแล้ว 20 ปีที่ผ่านมาประชาชนเจ็บปวด ประเมินค่าไม่ได้ สูญเสียชีวิตจำนวนมากกับการเรียกร้องและขัดขวางการรัฐประหาร พรรคเพื่อไทยไม่อาจรับได้เรื่องการปฏิวัติรัฐประหาร

น.ส.ชญาภา สินธุไพร สส.ร้อยเอ็ด และรองโฆษกพรรค พท. โพสต์ข้อความผ่าน X (Twitter) ว่า บทเรียนในประวัติศาสตร์ สะท้อนให้เห็นแล้วว่า รัฐประหาร “ไม่ใช่” ทางออกของประเทศ ในทางตรงกันข้าม การทำรัฐประหารคือนำประเทศไปสู่ทางตัน บ่อนทำลายประชาธิปไตย พาประเทศถดถอยล้าหลัง นอกจากนี้ “หยุดเปิดประตูต้อนรับรัฐประหาร หยุดปลุกปั่นสร้างสถานการณ์ที่จะนำไปสู่สุญญากาศทางการเมือง ซึ่งมีแต่จะซ้ำเติมวิกฤตประเทศมากขึ้น การแก้ปัญหาการเมืองควรเป็นไปตามกลไกวิถีทางประชาธิปไตย”

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี (น.ส.แพทองธาร ชินวัตร) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กในตอนหนึ่งว่า ข้อเรียกร้องและเนื้อหาการปราศรัยทำให้เห็นจุดหมาย แต่น่ากังวลเรื่องปลายทาง จุดหมายคือล้มรัฐบาล ปลุกกระแสชาตินิยมกดดันให้ น.ส.แพทองธารลาออก บีบพรรคร่วมถอนตัว แต่ออกแล้วก็คงไม่จบ พรรค พท.แกนนำรัฐบาลยังมีแคนดิเดตนายกฯ อีกคนคือ นายชัยเกษม นิติสิริ เชื่อว่าแกนนำม็อบก็ไม่ยอมรับ การชุมนุมต่อต้านยังมีต่อ

อดีตเสื้อแดงถามหาจุดยืน 'จตุพร'

"เอาคนอื่นมาเป็นนายกฯ ก็ไม่แน่ว่าจะได้ เพราะแกนนำหลักพูดชัดว่าถ้าทหารจะทำอะไร (หมายถึงรัฐประหาร) ก็ไม่ขัด บ้างก็ว่าต้องร่วมกันร่างรัฐธรรมนูญขึ้นเอง บ้างก็จะปฏิวัติโดยไม่เกี่ยวกับนักการเมือง สัญญาณแบบนี้ปลายทางไม่ใช่วิถีประชาธิปไตย แต่เป็นการโยนโจทย์สำคัญสู่สังคมไทย ว่ากลุ่มนี้ทำทางยึดอำนาจมาแล้ว 2 รอบ สนใจทำแฮตทริกหรือไม่ ผมยังยืนยันเช่นเดิมว่าสถานการณ์นี้ยุบสภาไม่ใช่ทางออก"

นายณัฐวุฒิระบุว่า ความไม่พอใจในตัวนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลมีอยู่จริง แต่ประชาชนที่สนับสนุนก็มีอยู่ด้วย การแสดงออก กดดัน หรือขับไล่ เป็นสิทธิที่ทำได้ภายใต้กรอบกฎหมาย แต่การตัดสินใจก็เป็นสิทธิขาดอำนาจเต็มของนายกฯ ซึ่งทุกฝ่ายก็ต้องยอมรับเช่นกัน ตนไม่เคยคิดว่าคนที่มาชุมนุมเป็นปฏิปักษ์ และไม่เชื่อว่าจะไปไกลถึงขั้นเห็นด้วยกับรัฐประหารทั้งหมด วันนี้ต้องสามัคคีประเทศไทยเพื่อรับมือภัยคุกคามจากภายนอก ถ้ารัฐบาลล้มจะกลายเป็นเกมฝ่ายประเทศเพื่อนบ้านล้มเราได้ สถานการณ์จะยิ่งเสียหาย

น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. โพสต์ข้อความผ่านทาง X (ทวิตเตอร์) ว่า การแสดงออกทางการเมืองเป็นสิทธิ์ของประชาชน แต่ไม่ว่าเราจะคิดเห็นต่างกันเพียงใด สิ่งหนึ่งที่ต้องยืนหยัดร่วมกันคือไม่เปิดทางให้รัฐประหาร เราเคยเห็นมาแล้วหลายครั้งว่าวิธีนี้ไม่ได้แก้ปัญหา กลับสร้างบาดแผลลึกในบ้านเมือง การเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนต้องเกิดจากประชาชน ผ่านกลไกประชาธิปไตย ไม่ใช่อำนาจนอกระบบ และรัฐบาลในวันนี้ก็กำลังทำหน้าที่ปกป้องอำนาจอธิปไตยของประเทศ ยืนอยู่บนหลักนิติรัฐ ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย และจะไม่ยอมให้เงื่อนไขใดๆ กลายเป็นช่องทางของการทำลายประชาธิปไตยอีกต่อไป

ขณะที่ นายก่อแก้ว พิกุลทอง สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กว่า ปี 2549 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ชวนตนไปจัดรายการทีวีเพื่อคัดค้านสื่อเลือกข้าง ชวนตนและประชาชนจำนวนมากไปสนามหลวงเพื่อต่อต้านการรัฐประหาร วันนั้นตนไม่คิดมาก ไปทันที "ในปี 2568 ผ่านไปเกือบ 20 ปีจากวันนั้น คุณสนธิ ลิ้มทองกุล เชิญชวนให้มีการรัฐประหารโดยมีคุณอยู่บนเวที คุณจะยังยืนอยู่บนเวทีเดียวกันอีกหรือ ถ้ายังยืนอยู่ ก็ควรถูกตั้งคำถามว่าตกลงแล้ว จุดยืนคุณคืออะไร?"

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ อดีตโฆษกพรรค พท. กล่าวว่า กลุ่มรวมพลังแผ่นดินประกอบไปด้วยกลุ่มคนหน้าเดิม ม็อบเสื้อเหลือง กลุ่มนักการเมือง สว.อกหัก กลุ่มต่อต้านระบอบนายทักษิณ ที่เคยมีส่วนทำให้เกิดรัฐประหารวันที่ 19 กันยายน 2549 และวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ผู้ปราศรัยบางคนปิดความต้องการไม่มิด เรียกร้องให้มีการยึดอำนาจ จ้องจะทำให้ประเทศถอยหลังเข้าคลองอย่างเดียว ไม่ยอมจำบทเรียนในอดีต ไม่ยอมปล่อยให้การเมืองแก้ด้วยการเมือง คิดแต่จะเอาแนวทางที่ไม่เป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตยอย่างเดียว ฉายหนังซ้ำเรื่องเดิมๆ ขยายประเด็นเกินจริงไปมากเรื่องชาตินิยม คลั่งชาติ คอยแต่จะเสี้ยมกองทัพกับรัฐบาลจะให้แตกหัก ทะเลาะกันให้ได้ โจมตีนายทักษิณเพื่อจะให้กระทบ น.ส.แพทองธารให้ได้ ต้องการที่จะไล่เช็กบิลรัฐบาล

"ข้อเรียกร้องจากฝั่งผู้ชุมนุมเรารับฟัง แต่สิ่งที่ไอ้โม่งเบื้องหลังต้องการ ไม่เพียงแค่จะทำให้รัฐบาลพัง แต่ประชาชนทั้งประเทศจะพังไปด้วย อีกแค่สองปีจะมีการเลือกตั้ง รอให้ถึงเวลานั้นแล้วค่อยพิพากษาผ่านการเลือกตั้ง ถือเป็นทางออกของการแก้ไขปัญหา โดยไม่ทำให้ประเทศต้องหยุดชะงักและเกิดสุญญากาศทางการเมือง" นายพร้อมพงศ์กล่าว

อ้างนายกฯ ต้องรับผิดชอบ ปชช.

นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. ให้สัมภาษณ์ว่า การแสดงออกว่าตัวเองรักชาติก็เป็นเรื่องที่ดี แต่ต้องมีเหตุและผลแยกแยะ ว่าการที่เราไม่ชอบผู้นำ แล้วเราไปใช้วิธีการสร้างข้อมูลที่ผิดให้ประชาชนโดยมุ่งหวังเพียงแค่จะโค่นล้มนั้นจะไม่เป็นผลดีกับประเทศ การเรียกร้องหรือส่งสัญญาณให้มีการรัฐประหารเป็นการรักชาติในทางที่ผิด และจะเลยไปถึงการทำลายด้วย หากคนไทยของเราโดยเฉพาะผู้ชุมนุมหากไม่ชอบรัฐบาลหรือรัฐบาลบริหารไม่ถูกใจ วิธีการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองในสภาที่เรายังใช้ได้อยู่ ระบบประชาธิปไตยยังไปได้ ยังไม่ถึงทางตันที่ต้องไปเรียกร้องให้เกิดการทำรัฐประหาร

เมื่อถามถึงข้อเรียกร้องของกลุ่มผู้ชุมนุมที่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรียุบสภาหรือลาออก นายสุทินกล่าวว่า การเรียกร้องให้นายกฯ ลาออกนั้น นายกฯ ต้องฟังคนทั้งประเทศ จะฟังแค่คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งไม่ได้ เพราะการที่คนกลุ่มหนึ่งเรียกร้องให้ลาออกจะเป็นประโยชน์แค่กับเขา แต่จะเสียประโยชน์กับประชาชนอีกกลุ่มหรือส่วนใหญ่ ท่านนายกฯ ต้องรับผิดชอบต่อประชาชนที่เขาเลือกมา แล้วเขาให้โอกาสนี้กับนายกฯ หากเขาให้โอกาสบริหารแล้ว นายกฯ จะชิงลาออกง่ายๆ บางครั้งก็จะเป็นเหมือนการไม่รับผิดชอบต่อประชาชนเช่นกัน

นางมนพร เจริญศรี สส.นครพนม พรรคเพื่อไทย และ รมช.คมนาคม กล่าวว่า การยุบสภาหรือข้อเสนอให้นายกฯ ลาออกนั้น ไม่ใช่ทางออกของประเทศไทย เพราะภายใต้สถานการณ์ของประเทศไทยในขณะนี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีรัฐบาลที่เข้มแข็งและมีเสถียรภาพในการบริหารประเทศ เพื่อเดินหน้าแก้ไขปัญหาให้กับประเทศชาติก่อน ขณะเดียวกันสถานการณ์ความขัดแย้งทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศที่เกิดขึ้น ทางรัฐบาลยังต้องรับมือกับภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศด้วย ดังนั้น การสร้างความรัก ความสามัคคีให้เกิดขึ้นภายในประเทศก่อนจึงเป็นเรื่องเร่งด่วนที่สำคัญ

น.ส.จิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การเรียกร้องให้มีการใช้อำนาจนอกระบบ ซึ่งประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาได้พิสูจน์แล้วว่า การรัฐประหารทำให้ประเทศถอยหลัง เป็นการทำลายโครงสร้างการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม ของประเทศอย่างย่อยยับ ประชาชนคงต้องช่วยกันตั้งคำถามตัวโตๆ ว่า แกนนำจงใจใช้ประเด็นคลิปเสียงการสนทนาระหว่างผู้นำไทยกับกัมพูชามาเป็นข้ออ้างเพื่อปลุกระดมให้เกิดการชุมนุม แต่ปลายทางที่ซ่อนอยู่คือการพยายามปูทางให้เกิดการรัฐประหารใช่หรือไม่ จึงขอเรียกร้องให้คนไทยร่วมกันยืนยันต่อต้านการรัฐประหาร

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พท. ในฐานะประธานวิปรัฐบาล กล่าวว่า คนขึ้นเวทีมีแต่คนหน้าเดิมๆ เป็นพวกขาประจำ แกนนำบางคนยังยุให้ทำรัฐประหาร มีที่ไหนทำกัน อยากให้ประเทศเกิดรัฐประหาร ใช้วิธีโบราณ พวกที่ขึ้นเวทีอยากกลับมาเป็น สว. หรือมีตำแหน่งทางการเมือง หากมีการปฏิวัติเกิดขึ้น เชื่อว่าม็อบไม่น่าจะจุดติด แม้แต่ฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาชนยังคิดได้ ไม่เอาด้วยกับการรัฐประหาร อย่าไปตกใจมากมาย

ปชน.ประณามม็อบหนุน รปห.

ด้านพรรคประชาชน (ปชน.) ออกคำแถลงต่อกรณีการชุมนุมที่นำโดย “คณะรวมพลังแผ่นดิน” ว่า แม้จะมีข้อเรียกร้องอย่างเป็นทางการให้นายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ลาออก และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวจากการสนับสนุนรัฐบาล ซึ่งเป็นข้อเรียกร้องตามปกติในระบอบประชาธิปไตย แต่ปรากฏว่า การปราศรัยของแกนนำบนเวทีบางคนกลับมีเนื้อหาที่เปิดทางให้กับการรัฐประหาร รวมถึงมีการปลุกปั่นกระแสชาตินิยมที่เกินเลยขอบเขต ขอประณามการสร้างความชอบธรรมให้กับการรัฐประหาร ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญและระบอบประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง

ขอเรียกร้องให้พี่น้องประชาชนที่สนับสนุนการชุมนุมด้วยความไม่พอใจต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐบาล ถอนตัวจากการสนับสนุนคณะรวมพลังแผ่นดินที่มีแกนนำบางคนมีเจตนาสนับสนุนการรัฐประหารและการแทรกแซงการเมืองด้วยวิถีทางนอกประชาธิปไตย เพราะแม้ว่าการแสดงออกทางการเมืองด้วยการชุมนุมประท้วงจะเป็นสิทธิเสรีภาพของประชาชน แต่พวกเราคนไทยต่างได้รับบทเรียนอย่างดีแล้วว่า 20 ปีที่ผ่านมา ประเทศชาติและประชาชนบอบช้ำเสียหายอย่างไม่อาจประเมินได้จากการรัฐประหาร 2 ครั้ง และปัญหาการเมืองของเราไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยวิถีทางนอกประชาธิปไตย

"วันนี้เราต้องไม่ยินยอมให้ใครฉวยโอกาสเอาความผิดพลาดล้มเหลวของนายกรัฐมนตรีและรัฐบาลมาเปิดทางให้กับการรัฐประหาร หรือการแก้ปัญหาการเมืองด้วยวิถีทางที่ขัดต่อประชาธิปไตยอีก ซึ่งมีแต่จะก่อวิกฤตซ้ำซ้อนทั้งทางการเมืองและเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น พรรคประชาชนขอยืนยันว่า ทางออกจากวิกฤตการณ์ทางการเมืองในขณะนี้ที่ดีที่สุด คือหนทางปกติตามระบบรัฐสภา นั่นคือการยุบสภา เลือกตั้งใหม่ คืนอำนาจให้แก่ประชาชน เพื่อให้อำนาจสูงสุดของประเทศเป็นผู้กำหนดอนาคตของบ้านเมืองด้วยตนเอง"

ขณะที่ นายสาธิต ปิตุเตชะ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้พรรค ปชน.ว่า ตั้งแต่รัฐบาลเพื่อไทยบริหารประเทศ เราจับสังเกตได้ว่าการตรวจสอบจากพรรคประชาชน ไม่ค่อยจริงจังเข้มข้น และมีข้อมูลความจริงว่าคุณธนาธรไปพบคุณทักษิณที่ฮ่องกงก่อนมีการจัดตั้งรัฐบาล คุณแพทองธาร เข้าบริหารประเทศ ด้วยความไร้วุฒิภาวะ ขาดประสบการณ์ แต่เย่อหยิ่งสำคัญผิดคิดว่าตัวเองเก่ง จนปรากฏหลักฐานชิ้นใหญ่เรื่องคลิปหลุดที่คุยกับฮุน เซน บอกเป็นพวกเดียวกับฮุน เซน แต่เป็นคนละพวกกับแม่ทัพภาคที่ 2 และคนไทยที่วิจารณ์ตัวเอง เราไม่ค่อยเห็นพรรคประชาชนออกมาพูดเรื่องนี้มากนัก

"พรรคประชาชนประกาศให้มวลชนถอนตัวจากการชุมนุม ทั้งที่ประชาชนไม่ใช่เป็นของตัวเอง และยังอ้างว่าการชุมนุมเพื่อเรียกให้ทหารปฏิวัติ ซึ่งไม่เป็นความจริง พฤติกรรมเช่นนี้ เราเรียกว่า "มือไม่พาย ใช้เท้าราน้ำ แถมเจาะรูให้เรือรั่วด้วย" นายสาธิตกล่าว

พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวขอบคุณประชาชนทั่วประเทศหลายแสนคน ที่รวมตัวแสดงออกถึงความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และความหวงแหนผืนแผ่นดินไทย ที่อนุสาวรีย์ชัยฯ และหลายจังหวัดทั่วประเทศ ย้ำว่าเสียงของประชาชนที่เรียกร้องให้นายกฯ ลาออก สะท้อนความไม่ไว้วางใจต่อผู้นำประเทศ พร้อมวิงวอนพรรคร่วมรัฐบาลและผู้นำเหล่าทัพหยุดหนุนรัฐบาลชุดนี้ ส่วนนายชัยเกษม นิติสิริ ที่พรรคเพื่อไทยเตรียมเสนอเป็นนายกฯ หาก น.ส.แพทองธารไม่สามารถดำรงตำแหน่งต่อไปได้ ชี้ให้เห็นว่าพรรคนี้ไม่เคยหยุดขบวนการแก้ไข ม.112 และยังอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่ห้ามบุคคลนอกครอบงำพรรค

ด้าน ศ.ดร.ไชยันต์ ไชยพร อาจารย์ประจำภาควิชาการปกครอง คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความว่า เรียน พรรคประชาชน สภาฯ จะเปิด 3 ก.ค.นี้ หากพรรคประชาชนไม่ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ แพทองธาร ทั้งๆ ที่พรรคมีจำนวน สส.มากพอที่จะขอเปิด ก็แปลว่าพวกคุณยังให้ความไว้วางใจแพทองธาร ในอนาคตหากพวกคุณจะขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ คนใด ที่ไม่ได้ทำงานแย่อย่างนายกฯ คนนี้ คุณจะมีคำอธิบายอย่างไร? การอภิปรายไม่ไว้วางใจอาจไม่ได้ลงเอยอย่างที่คุณคาดหวัง นายกฯ อาจจะยังได้เสียงเกินครึ่ง อาจไม่มีการยุบสภา แต่การอภิปรายไม่ไว้วางใจโดย สส.ฝ่ายค้านที่มีคุณภาพ คือการทำหน้าที่แทนประชาชนในการซักถาม ติติงสิ่งที่นายกฯ ได้ทำลงไป

เชื่อว่าถ้าพรรคประชาชนเลือกทำตามหน้าที่และครรลองของผู้นำฝ่ายค้านฯ ยื่นญัตติขออภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯ แพทองธาร ตามแบบแผนระบบรัฐสภาของตะวันตก พรรคประชาชนจะได้รับความเชื่อมั่นและไว้วางใจว่าไม่เล่นการเมืองแบบอิงผลประโยชน์ของพรรคเหนือมาตรฐานทางการเมืองสากล แม้อาจจะไม่มีการยุบสภาโดยเร็วตามที่พรรคต้องการ แต่เชื่อว่า หากทำตามหน้าที่แล้ว ยุบสภาเมื่อไร พรรคท่านจะได้คะแนนนิยมมากขึ้นโดยไม่มีใครคิดว่าท่านแอบเป็นพันธมิตรแบบลับๆ กับตระกูลชินวัตร

"อย่าเล่นการเมืองแบบที่คนรุ่นก่อนเขาเล่นเลย เพราะในระบบการเมืองของอังกฤษ การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีไม่นำไปสู่การยุบสภาโดยตรง การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นเครื่องมือที่สภาผู้แทนราษฎรใช้ในการแสดงความไม่เชื่อมั่นต่อนายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรี แต่ไม่ได้บังคับให้มีการยุบสภา หากนายกรัฐมนตรีแพ้การลงคะแนนไม่ไว้วางใจ นายกรัฐมนตรีอาจลาออกหรืออาจมีการเลือกตั้งทั่วไปเกิดขึ้น แต่ไม่ได้มีการยุบสภาโดยอัตโนมัติจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจเพียงอย่างเดียวครับ ดังนั้น ท่านอาจมีลุ้นยุบสภาได้เหมือนกัน แต่ถ้าท่านไม่ทำอะไรเลย แปลว่าท่านไว้วางใจนายกฯ แพทองธาร?" ดร.ไชยันต์ระบุ

คปท.ย้่ำจุดยืนไม่เอา รปห.

ทางด้านแกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) นำโดยนายพิชิต ไชยมงคล พร้อมนายนัสเซอร์ ยีหมะ และ ดร.ใจเพชร กล้าจน ร่วมแถลงจุดยืน โดยนายพิชิตกล่าวว่า แปลกใจที่พรรคฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลประสานเสียงกล่าวหาประชาชนที่ออกมาชุมนุมว่าสนับสนุนรัฐประหาร ทั้งที่ฝ่ายค้านอย่างพรรคประชาชนจะทําการตรวจสอบรัฐบาลหรือเรียกร้องให้นายกฯ แสดงสปิริตด้วยการลาออก แต่กลับมาตรวจสอบการเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ชุมนุมเสียเองว่าเรียกร้องให้มีการรัฐประหาร

"ยืนยันว่าแนวทางของ คปท. ไม่เคยเรียกร้องให้เกิดการรัฐประหารจากกองทัพใดๆ ทั้งสิ้น แต่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีรับผิดชอบต่อคำพูด และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว และการที่ คปท.ยืนเคียงข้างกองทัพปกป้องอธิปไตยของชาติ ก็ไม่ได้มีความหมายถึงการรัฐประหารแต่อย่างใด"

นายพิชิตกล่าวถึงแนวทางการเคลื่อนไหวหลังจากนี้ว่า แกนนำ คปท.จะประชุมร่วมกับแกนนำทุกคนของ “รวมพลังแผ่นดิน” ในวันอังคารที่ 1 ก.ค.นี้ ว่าจะมีการยกระดับการชุมนุมเป็นไปในทิศทางใด ซึ่งจะเป็นการยกระดับกิจกรรมหลังวันที่ 1 ก.ค.เป็นต้นไป เพื่อทำกิจกรรมให้เข้มข้นขึ้น อาจจะยังไม่ถึงขั้นปิดล้อมทำเนียบรัฐบาล แต่พื้นที่การชุมนุมก็คงจะใกล้ทำเนียบรัฐบาลมากขึ้น ส่วนจุดยืนยังคงเป็นการเรียกร้องให้ น.ส.แพทองธารลาออก และพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว ซึ่งเมื่อเข้มข้นมากขึ้น

ส่วนสัปดาห์หน้า คปท.จะเดินทางไปที่พรรคประชาธิปัตย์และพรรคชาติไทยพัฒนา เพื่อยื่นหนังสือขอให้ถอนตัวจากพรรคร่วมรัฐบาล เช่นเดียวกับที่เคยไปยื่นที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ก่อนหน้านี้ ซึ่งสำหรับพรรครวมไทยสร้างชาติก็ยังไม่มีการตอบกลับใดๆ มา

"แต่หากนายกฯ ไม่ยอมลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คปท.ก็ยืนยันว่าจะเดินหน้าชุมนุมต่อไป ไม่ว่าจะใช้เวลานานเท่าไหร่ ประชาชนจะไม่มีวันถอน คปท.ไม่ได้เรียกร้องให้เปลี่ยนขั้วอำนาจ แต่เรียกร้องให้รักษาอธิปไตยของชาติ" นายพิชิตกล่าว.

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ไทยโพสต์

เมื่อฝ่ายค้านไม่ทำงาน

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

แบกบ้าน-แบกเมือง?

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ทำตามสัญญา

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘สภาสูง’เชื่อมั่น 1ก.ค.ศาลรับคดี คลิปเสียงลุงฮุน

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

ทรูมันนี่จับมือสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แคมเปญ “รีบโอน โจรยิ้ม” เสริมเกราะคนไทยสู้ภัยไซเบอร์

TODAY
วิดีโอ

คลิปลับฮุนเซน! มีคนสำคัญในไทยได้ฟังแล้ว ถ้าคลิปนี้ยังอยู่ ทักษิณไม่มีสิทธิอยู่บนแผ่นดินนี้แล้ว

BRIGHTTV.CO.TH

หวังฟื้นฟูเศรษฐกิจตลาดโรงเกลือกลับมาคึกคัก คนเขมรยิ้มร่าไทยผ่อนผันให้ข้ามแดนได้

เดลินิวส์

อิสราเอลเด็ดหัว “ผู้นำก่อตั้งร่วมฮามาส” คนวางแผนโจมตีข้ามพรมแดน 7 ต.ค “ฝรั่งเศส” สุดทนอาสาให้หลักประกันความปลอดภัย “แจกอาหาร” ในกาซาหลังใกล้เป็นโรงฆ่าสัตว์ดับกว่า 500

Manager Online

สหรัฐฯ ยังไม่ขยายเวลาระงับภาษีนำเข้าสินค้าจากทั่วโลก เกินวันที่ 9 ก.ค.

JS100

ไฟฟ้าดับ วันนี้ 30 มิ.ย.- 2 ก.ค.68 กระทบ กทม. นนทบุรี และสมุทรปราการ

ฐานเศรษฐกิจ

สภาพอากาศวันนี้ -5 ก.ค.เหนือ อีสานฝนกระจาย ทั่วไทยฝนตกหนักบางแห่ง

ฐานเศรษฐกิจ

คอหวยเมืองสุพรรณฯเสี่ยงโชคเลข 17 งานอุปสมบทนาคหมู่ วัดหนองวัลย์เปรียง

เดลินิวส์

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...