ทำตามสัญญา
ท่ามกลางสถานการณ์การเมืองร้อน ทั้งลุ้นโผคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ที่จะมาเสริมทัพทำงานในเก้าอี้ที่ว่างลง ขณะเดียวกันกลุ่มมวลชนก็นัดลงถนน เมื่อวันที่ 28 มิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อขับ “นายกฯ อิ๊งค์-แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี พ้นเก้าอี้ จากกรณีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา
แต่การทำงานของรัฐบาลยังขับเคลื่อนต่อไป ในวันที่มวลชนลงถนน “นายกฯ อิ๊งค์” มีภารกิจบินไปเชียงรายติดตามสถานการณ์อุทกภัย พร้อมมอบสัญชาติให้กลุ่มชาติพันธุ์ที่รอคอยการพิสูจน์สัญชาติมายาวนาน
และเป็นที่พูดถึงจากชาวชาติพันธุ์ในพื้นที่ คือเรื่องการแก้ไขปัญหาสัญชาติที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทยทำสำเร็จตามที่ได้สัญญาไว้ ตั้งแต่สมัยรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกฯ ค่ายเพื่อไทย ส่งไม้ต่อมาถึงรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ที่ในที่สุดก็สามารถแก้ไขปัญหาสัญชาติและการรับรองสถานะของกลุ่มชาติพันธุ์ได้
โดยประเทศไทยมีพี่น้องกลุ่มชาติพันธุ์ที่รอการพิสูจน์สัญชาติและสถานะอยู่มากกว่า 480,000 คน ซึ่งที่เชียงรายมีผู้รอการพิสูจน์สิทธิกว่า 90,000 ราย มากที่สุดในประเทศ ตลอดระยะเวลากว่า 30 ปีที่ผ่านมา กระบวนการพิสูจน์สิทธิใช้ระยะเวลาที่นานและมีหลายขั้นตอน จึงทำให้แต่ละปีมีผู้ที่ได้รับสิทธิจำนวนน้อย
ทำให้กลุ่มพี่น้องชาติพันธุ์ไม่ได้รับโอกาสในสิทธิพึงมี ทั้งเรื่องสวัสดิการขั้นพื้นฐานของรัฐ สิทธิเรื่องที่อยู่อาศัย การทำมาหากิน การเดินทาง การมีส่วนร่วมกับภาครัฐและสังคม
แต่ล่าสุดลดระยะเวลาและขั้นตอนการพิจารณาเรื่องให้สถานการณ์มีถิ่นที่อยู่ถาวร จากที่เคยใช้ 270 วัน ให้เหลือ 5 วัน ลดระยะเวลาการพิจารณาให้สัญชาติแก่ลูกหลานของกลุ่มชาติพันธุ์ จาก 180 วัน เหลือ 5 วัน จนวันนี้กลายเป็นจริง เริ่มในวันที่ 30มิถุนายน และหลังจากนี้ทุกคำร้องจะพิจารณาให้เสร็จใน 5 วัน
และนายกฯ อิ๊งค์ยังโพสต์ปลื้มใจ ที่ทำให้การรอคอยของพี่น้องชาวชาติพันธุ์เป็นจริง ซึ่งการลงพื้นที่ไปพบชาวชาติพันธุ์ครั้งนี้ได้รับเสียงตอบรับอย่างคึกคัก และได้รับของฝากที่ชาวชาติพันธุ์เตรียมมามอบให้เพื่อขอบคุณ ทั้งเสื้อชนเผ่า กระเป๋าย่ามที่ชาวบ้านทำเอง นำมาคล้องคอคล้องแขน แสดงความขอบคุณเพียบ
งานนี้ทั้งอดีตนายกฯ เศรษฐา และนายกฯ อิ๊งค์ ต่างพร้อมใจโพสต์ผ่านโซเชียลว่า..ทำได้ตามสัญญา.
บรรจง