กรมสุขภาพจิต ชี้ปม ‘พระ’ ทำผิด สั่นคลอนศรัทธา เป็นการกระทำเฉพาะคน แต่หลักคำสอนยังช่วยยกระดับจิตใจคน
เมื่อวันที่ 18 ก.ค. นพ.กิตติศักดิ์ อักษรวงศ์ อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า จากกรณีข่าวที่เกี่ยวข้องกับพระสงฆ์บางรูป อาจสร้างความรู้สึกตกใจและสั่นคลอนความศรัทธาของประชาชนนั้น กรมสุขภาพจิตขอย้ำว่า ทุกศาสนายังคงเป็นรากฐานสำคัญของจริยธรรมและคุณค่าทางจิตใจในสังคม มีบทบาทสำคัญในการกล่อมเกลาจิตใจมนุษย์ให้เข้มแข็งและมีความเมตตากรุณา หลักธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า โดยเฉพาะคำสอนเรื่องศีล สมาธิ และปัญญา มุ่งหวังให้ผู้คนพัฒนาตนเองด้วยสติ การมีจิตใจที่เป็นกลางและเมตตาต่อผู้อื่น ความผิดพลาดของพระสงฆ์บางรูปเป็นเรื่องเฉพาะบุคคล จึงไม่ควรถูกนำมาเหมารวมจนกระทบต่อคุณค่าของหลักธรรมที่ยังคงเป็นแสงสว่างนำทางใจและแนวทางในการดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องและมีความสุขอย่างยั่งยืน ในสถานการณ์เช่นนี้ กรมสุขภาพจิตจึงขอเชิญชวนประชาชนใช้สติในการรับข้อมูลข่าวสารและแยกแยะอย่างมีวิจารณญาณ เพื่อรักษาศรัทธาในสิ่งดีงามที่ยังคงเป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ
ด้าน นพ.จุมภฏ พรมสีดา รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า ความศรัทธาในศาสนาและหลักธรรมคำสอนถือเป็นพลังทางใจที่สำคัญในการส่งเสริมสุขภาพจิต มีงานวิจัยทั้งในและต่างประเทศยืนยันว่า การมีศรัทธาทางศาสนาช่วยลดระดับความเครียด ป้องกันภาวะซึมเศร้า และสนับสนุนกระบวนการฟื้นฟูอารมณ์อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในพุทธศาสนา หลักธรรมอย่างอริยสัจ 4 ซึ่งประกอบด้วยความเข้าใจในทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ การดับทุกข์ และทางปฏิบัติสู่ความดับทุกข์ เป็นพื้นฐานสำคัญของการเยียวยาจิตใจจากความเจ็บปวดทางอารมณ์และความเครียด
นอกจากนี้ หลักธรรมดังกล่าวยังถูกนำไปประยุกต์ใช้ในกระบวนการบำบัดทางจิตวิทยาสมัยใหม่ เช่น การฝึกสติและการทำสมาธิ ซึ่งช่วยให้ผู้คนเรียนรู้การอยู่กับปัจจุบัน เข้าใจตนเอง และปล่อยวางจากความยึดติด กรมสุขภาพจิตจึงขอเป็นกำลังใจแก่ประชาชนที่อาจรู้สึกผิดหวังหรือเครียดจากข่าวที่เกิดขึ้น และขอให้ยังคงยึดมั่นในคุณค่าของศาสนาในฐานะเครื่องนำทางชีวิต เพราะศาสนายังคงมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาจิตใจบุคคลและสุขภาวะของสังคมโดยรวม หากประชาชนมีความเครียดหรือรู้สึกไม่สบายใจ สามารถติดต่อขอคำปรึกษาได้ที่สายด่วนสุขภาพจิต 1323 ตลอด 24 ชั่วโมง