โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ต่างประเทศ

พระสงฆ์เสพเมถุน'ปาราชิก'เหมือนคนหัวขาด ตายไปตกนรกลูกเดียว

The Better

อัพเดต 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 6 ชั่วโมงที่ผ่านมา • THE BETTER

หลายคนอยากจะเห็น "เวรกรรมตามทัน" พวกอดีตพระสมณสูงทั้งหลายที่ไปเสพสังวาสกับสีกาแล้วถูกเปิดโอกงพฤติกรรมกันไม่เว้นแต่ละวัน

ความผิดนี้ในทางศาสนาคือ ปราราชิก มีผลร้ายแรงไม่น้อยต่อชีวิตในภายภาคหน้า โดยเฉพาะพวกที่ผิดแล้วสึกแล้ว แต่ไม่สำนึก แล้วยังจ้องจะเสพสุขต่อไปโดยใช้ทรัพย์ที่ตนหามาได้ตอนยังครองผ้าเหลือง

พวกนี้น่าจะรู้พระวินัยดี แต่ไม่เชื่อกฎแห่งกรรม แม้ว่ากฎแห่งกรรมจะเป็นหลักใหญ่ที่สุดของพุทธศาสนา ไม่ว่าจะนิกายไหนๆ จะไม่เชื่อหลักนี้ไม่ได้

ผมจะไม่พูดพล่ามทำเพลงก็แล้วกัน จะยกปิฎกและปกรณ์ทั้งหลายมาอธิบายให้ฟังว่าพระสงฆ์ที่เสพเมถุนกับสีกากอล์ฟทั้งหลายนั้น ปาราชิกหมดสิ้น และผลของมันคืออะไร

แต่เนื่องจากผู้รู้หลักพระวินัยในพระบาลีหรือฝ่ายเถรวาทมีมากแล้ว ผมไม่กล้าไปเทียบรัศมีท่าน จะขออธิบายตามหลักมหายานและพระวินัยสำนักอื่นๆ (ที่ไม่ต่างกันนัก) เพื่อให้สาธุชนมั่นใจว่า พวกอดีตสงฆ์ที่กระทำชั่วชั้นนี้ ไม่มีทางหนีผลกรรมได้พ้น

ในมหาพจนานุกรมของวัดฝอกวง (佛光大辭典) อันเป็นวัดพุทธศาสนาของไต้หวันที่เผยแพร่พระธรรมกว้างไกลไปทั่วโลก ใบทหนึ่งว่าด้วย "ปาราชิก" (波羅夷) เขียนโดบพระธรรมาจารย์ฉืออี๋ (慈怡法師) ท่านได้อธิบายไว้อย่างนี้ว่า

"ปาราชิก ในภาษาสันสกฤต เป็นคำเดียวกับภาษาบาลี เป็นศีลข้อหนึ่งที่ภิกษุและภิกษุณีปฏิบัติ เป็นศีลขั้นพื้นฐานและชั่วร้ายที่สุดในพระวินัย เรียกอีกอย่างว่า ปาราชาชิกะ และ ปรศิกะ แปลว่า ถูกเอาชนะ ความชั่วอย่างสุดโต่ง การห้ามปรามอย่างรุนแรง การตกต่ำ การตกไปสู่ความต่ำ การถูกตัดศีรษะ การไม่เหลือสิ่งใด การละทิ้ง เป็นบาปพื้นฐานในพระวินัย เรียกอีกอย่างว่า บาปข้างเคียง เป็นหนึ่งในห้าบท หนึ่งในหกหมวด และหนึ่งในเจ็ดหมวด หากผู้ปฏิบัติฝ่าฝืนศีลข้อนี้ เขาจะ (1) หมดสภาพความเป็นภิกษุหรือภิกษุณี และจะไม่มีส่วนในผลแห่งมรรค (2) เขาจะถูกเนรเทศออกจากนิกาย และจะไม่ได้รับอนุญาตให้อยู่ร่วมกับภิกษุ (3) เขาจะต้องตกนรกอย่างแน่นอนหลังความตาย บาปนี้เปรียบเสมือนการลงโทษด้วยการถูกตัดศีรษะ ไม่มีทางกลับคืนชีพได้ เขาจะถูกทอดทิ้งอยู่นอกนิกายตลอดไป จึงเรียกว่าบาปมหันต์ นอกจากนี้ บาปนี้ยังทำลายศีลของภิกษุสงฆ์ให้เสื่อมลง และมารร้ายย่อมชนะ จึงเรียกว่าถูกผู้อื่นเอาชนะด้วย ธรรมะที่ดีเรียกว่าตนเอง (ชนะ) และธรรมะชั่วเรียกว่าผู้อื่น (ชนะ) เพราะธรรมะชั่วชนะธรรมที่ดี ผู้ทำบาปจึงเรียกว่าผู้อื่นเอาชนะ ปาราชิก 4 ประการสำหรับภิกษุ ได้แก่ การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การผิดประเวณี และการโกหก (ว่ามีภูมิธรรมที่ตนไม่มี) นอกจากภิกษุณียังมีปาราชิก 4 ประการแล้ว มีสังฆาทิเสส ครุธรรม 8 ประการ การปกปิดบาปหนักที่ภิกษุณีกระทำ การละเมิดศีล 4 ประการของสิขาบททั้ง 3 ประเภทของภิกษุและภิกษุณีมี เรียกรวมกันว่า ปาราชิก 8 อาบัติปาราชิก 4 ประการ คือ ศีลของภิกษุ และอาบัติปาราชิก 8 ประการ คือ ศีลของภิกษุณี เรียกรวมกันว่า อาบัติใหญ่ 4 ประการ และอาบัติใหญ่ 8 ประการ

ในพระวินัยมหายาน ความผิดปาราชิกของพระโพธิสัตว์ต่างจากความผิดของหินยาน และข้อความในพระสูตรและคัมภีร์ก็ต่างกันด้วย ยกตัวอย่างเช่น โพธิสัตวเกยูรอาทิกรรมิกสูตร 《菩薩瓔珞本業經》 เล่มแรก กล่าวถึงความผิดปาราชิก 10 ประการ ได้แก่ การฆ่า การลักทรัพย์ การผิดประเวณี การโกหก การขายสุรา การกล่าวร้ายพุทธบริษัทสี่ การยกย่องตนเองและใส่ร้ายผู้อื่น การตระหนี่และการใส่ร้ายผู้อื่น การไม่สำนึกผิดในความโกรธ และการใส่ร้ายพระรัตนตรัย ส่วนมหาไวโรจนะสูตร เล่มที่หก 《大日經》 กล่าวถึงความผิดพื้นฐาน 4 ประการ ได้แก่ การใส่ร้ายธรรมทั้งปวง การละทิ้งโพธิจิต การตระหนี่ และการทำร้ายสรรพสัตว์ มหาไวโรจนะสูตรอรรถกถา 《大日經疏》 เล่มที่ 17 ได้เพิ่มเติมศีลอีก 6 ประการ ได้แก่ การไม่กล่าวร้ายพระสูตรและธรรมะของยานทั้งสาม, การไม่ตระหนี่ในธรรมทั้งปวง, การไม่หลงผิด, การชักชวนผู้มีความปรารถนาดีให้พัฒนาจิตใจ, การไม่ทอดทิ้ง, การไม่สืบสานรากเหง้าของชาวหินยานและแสดงธรรมอันยิ่งใหญ่แก่พวกเขา, และการให้ทาน นอกเหนือจากศีล 4 ประการนี้ ซึ่งเป็นศีล 10 ประการสำคัญของพระโพธิสัตว์"

นี่เป็นคำอธิบายผลเรื่องปาราชิกในมุมมองของมหายาน แม้แต่หินยานหรือเถรวาทก็มีผลอันร้ายแรงแล้ว ในฝ่ายมหายานยังมีพระวินัยที่ยิบย่อยอีกมากกว่าที่จะทำให้ผู้ถือเสี่ยงจะผิดขั้นปาราชิกได้ ดังนั้นจึงต้องระมัดระวังอย่างมาก เพราะหากพลาดไป "ตกนรกเอาง่ายๆ"

ดังนั้น ผู้เป็นบรรพชิตจะต้องสำรวมกว่าคฤหัสถ์ เพราะแม้โอกาสบรรลุธรรมจะสูงกว่า แต่โอกาสเข้าใกล้ขุมนรกก็มากกว่าด้วย เพราะหากผิดศีลและพระวินัยอย่างร้ายแรง ผลของมันจะยิ่งกว่าฆราวาสผิดศีลหลายเท่าตัว

อุปมาเหมือนบรรพชิตเดินทางไปสู่การรู้แจ้งด้วยจรวด หากจรวดไปถูกที่ถูกทางก็จะถึงที่หมายเร็ว แต่ถ้าทำผิดระเบียบแบบแผน จรวดก็จะไปไม่ถึงเป้าหมายแถมยังระเบิดเป็นจุณอีกด้วย

แต่ฝ่ายมหายานนั้นอิงกับหลักโพธิจิต (ต้องการให้สัตว์รู้แจ้ง) และมหากรุณา (ต้องการให้สัตว์พ้นทุกข์) เป็นหลัก ดังนั้น แม้ปาราชิกจะมีโทษหนักถึงขั้นห้ามมรรคห้ามผล และลงสู่นรกกันเลยมีเดียว แต่ยังมีพระสูตรมหายานที่กล่าวถึงการแก้ไขปาราชิก ซึ่งมีบันทึกไว้ใน "พระสูตรว่าด้วยการชำระอุปสรรคกรรม" 《佛說淨業障經》 ดังนี้

สมัยพระพุทธเจ้ายังทรงพระชนม์อยู่ มีภิกษุรูปหนึ่งนามว่า วิมลประภา (無垢光) วันหนึ่งเมื่อท่านไปขออาหาร บังเอิญไปพบหญิงโสเภณีคนหนึ่งเข้า เมื่อหญิงโสเภณีเห็นพระวิมลประภาขออาหาร นางก็เกิดกิเลสตัณหา จึงปรารถนาจะร่วมหลับนอนกับท่าน จึงเรียกพระวิมลประภาเข้ามาในบ้าน ปิดประตู แล้วบอกว่านางต้องร่วมหลับนอนกับท่าน มิฉะนั้นนางจะรู้สึกอึดอัดและเหมือนจะตาย พระวิมลประภากล่าวว่า "อาตมาทำอย่างนี้ไม่ได้! อาตมาทำอย่างนี้ไม่ได้ เพราะพระวินัยของพระพุทธเจ้าที่ทรงบัญญัติไว้ไม่อนุญาตให้ภิกษุทำเช่นนี้ แม้อาตมาจะต้องสละชีวิต อาตมาก็จะไม่ละเมิดพระธรรมวินัยที่บัญญัติไว้โดยพระพุทธเจ้า"

เมื่อเห็นว่าพระวิมลประภามุ่งมั่น โสเภณีจึงคิดในใจว่า “ข้าต้องใช้เวทมนตร์และสมุนไพรสะกดจิตเขาให้ยอมร่วมประเวณีกับข้า” นางจึงบอกกับพระวิมลประภาว่า “ดิฉันทำให้พระคุณเจ้าเปลี่ยนใจไม่ได้ แล้วมาละเมิดศีลแล้วร่วมประเวณีกับดิฉัน ก็ช่างมันเถอะ! แต่ขอโปรดรับอาหารที่ดิฉันถวายให้พระคุณเจ้าด้วยเถิด” หลังจากกล่าวจบ นางก็เข้าไปในครัว ร่ายมนตร์ใส่อาหาร แล้ววางอาหารลงในบาตรของพระ ด้วยพลังของมนตร์นั้น พระวิมลประภาจึงสูญเสียสติ ตัณหาก็ยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สีหน้าของท่านเปลี่ยนไป นางโสเภณีรู้ว่าถึงเวลาแล้ว จึงจับมือพระวิมลประภาเข้าไปในห้อง แล้วร่วมประเวณีกับท่าน

หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจ พระวิมลประภาก็นำอาหารที่บิณฑบาตรกลับไปยังวัดที่พระพุทธเจ้าและพระภิกษุทั้งหลายประทับอยู่ เมื่อกลับถึงวัด ท่านก็รู้สึกตัวและรู้สึกเศร้าโศกเสียใจอย่างสุดซึ้ง ร่างกายร้อนผ่าวไปหมด เขาคิดว่า "โอ้ ไม่น่าเลย! ทำไมเราถึงละเมิดศีล? เราไม่ควรจะรับทานจากผู้อื่นในอนาคต เราละเมิดศีลแล้วจะต้องตกนรกเป็นแน่"

ท่านวิมลประภาจึงได้เล่าให้ภิกษุทั้งหลายที่กำลังปฏิบัติธรรมกับท่านฟังถึงการที่ท่านละเมิดพระวินัย และกล่าวว่า “บัดนี้ข้าพเจ้าไม่ใช่ภิกษุอีกต่อไปแล้ว และจะต้องตกนรกอย่างแน่นอนในอนาคต” ภิกษุทั้งหลายได้บอกท่านว่า “ที่นี่มีพระมหาโพธิสัตว์ พระนามว่ามัญชุศรี ผู้ทรงบรรลุธรรมแห่งอนิจจัง ทรงเป็นผู้ประเสริฐที่สุดในการกำจัดบาปจากการผิดศีลของมนุษย์ และทรงเป็นผู้ประเสริฐที่สุดในการทำให้สรรพสัตว์พ้นจากความทุกข์ยากทั้งปวง เราจะติดตามท่านไปหาพระมหาโพธิสัตว์มัญชุศรี และข้าพเจ้าเชื่อว่าท่านจะสามารถคลายความกังวลและความเสียใจของท่านได้” …

… เนื้อความในพระสูตรยังมีต่อไปอีกยาว ผมจะขอยกยอดไปเล่าถึงกระบวนการ "ขมากรรมปาราชิก" ของพระวิมลประภา ในตอนต่อไป

เนื้อหาตอนนี้จะว่าถึงผลกรรมแห่งการที่ภิกษุล่วงประเวณีโดยตั้งใจเท่านั้น

ผลคือ (หากไม่สำนึกผิด) ก็ลงนรกสถานเดียว!

บทความทัศนะโดย กรกิจ ดิษฐาน ผู้ช่วยบรรณาธิการบริหาร และบรรณาธิการข่าวต่างประเทศ The Better

Photo - ภาพถ่ายนี้ถ่ายเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2567 แสดงให้เห็นพระสงฆ์กำลังเดินนำหน้าแม่ชีบนสะพานอูเบ็ง ที่ทะเลสาบตองตะมัน ในเมืองมัณฑะเลย์ (ภาพโดย Sai Aung MAIN / AFP)

ดูข่าวต้นฉบับ
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก The Better

“อรรถกร” วอน เกษตรกรเชื่อมั่น มีแผนลดต้นทุนอาหารสัตว์ หลังพบราคาพุ่ง !

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

ศาลปกครอง ยกฟ้อง นพ.สรณ ประธานกสทช. ชี้ใช้อำนาจถูกต้องตามกฏหมายแล้ว

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความต่างประเทศอื่น ๆ

คอนเสิร์ต Coldplay จับโป๊ะ รักต้องห้าม? ชาวเน็ตสืบจนรู้ นี่มัน CEO กับหัวหน้า HR

sanook.com

ลูกสาวสุดช็อก! ไม่ได้อะไรในพินัยกรรมพ่อ แต่จม.ลับกับ "กระดุมทหาร" ทำบ้านแตก

sanook.com

สโตรก "กลัวมาก" การออกกำลังกายแบบนี้ เพียง 10 นาที/วัน ก็ให้ผลลัพธ์สุดทึ่ง

sanook.com

เวียดนามเร่งขยายเครือข่าย 5G ตั้งเป้าเข้าถึงประชากร 90%

Xinhua

ศึกษาพบการใช้ ‘สายตา’ คือกุญแจสื่อสารระหว่างมนุษย์กับหุ่นยนต์

Xinhua

การประชุมสื่อ-คลังสมองกลุ่ม BRICS เปิดตัวแผนริเริ่มความร่วมมือ-การพัฒนา AI

Xinhua

ซินเจียงเปิด ‘สนามบินพลเรือน’ แห่งใหม่

Xinhua

ญี่ปุ่นเกินดุลการค้าลดลง 31% ช่วงมิ.ย. เซ่นส่งออกไปสหรัฐฯ หดตัว

Xinhua

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...