เร่งช่วยเกษตรกรเลี้ยงสัตว์ใน 8 จังหวัดประสบภัยพายุ “วิภา”
นายสัตวแพทย์สมชวน รัตนมังคลานนท์ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เปิดเผยว่า เกษตรกรได้รับผลกระทบ 52,789 ราย มีสัตว์เลี้ยงในพื้นที่ประสบอุทกภัยรวม 1,958,863 ตัว แบ่งเป็นโค 124,429 ตัว กระบือ 41,552 ตัว สุกร 70,995 ตัว แพะ/แกะ 2,135 ตัว และสัตว์ปีก 1,719,752 ตัว โดยแปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์เสียหาย 8,332.20 ไร่ ในระยะเผชิญเหตุ กรมปศุสัตว์ได้จัดส่งหญ้าอาหารสัตว์พระราชทาน 48,200 กิโลกรัม พร้อมถุงยังชีพสัตว์เลี้ยง 105 ถุง อพยพสัตว์ 55,144 ตัว สนับสนุนชุดส่งเสริมสุขภาพสัตว์ 1,178 ชุด และให้การรักษาสัตว์บาดเจ็บแล้ว 22 ตัว
หนึ่งในภารกิจอพยพสัตว์ที่สำคัญเกิดขึ้นที่ปิติภิวัฒน์ฟาร์ม ฟาร์มสุกรในพื้นที่บ้านห้วยไคร้ หมู่ 6 ตำบลเวียง อำเภอเทิง จังหวัดเชียงราย ซึ่งน้ำท่วมฉับพลันเข้าพื้นที่ เจ้าหน้าที่สำนักงานปศุสัตว์อำเภอเทิงร่วมกับหลายหน่วยงาน ทั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดเชียงราย มูลนิธิแสงธรรมสาธารณกุศล สมาคมกู้ชีพกู้ภัยเทิงการกุศล และกู้ชีพบุญช่วยอุปถัมภ์ ได้เร่งขนย้ายสุกรกว่า 1,100 ตัว ออกจากพื้นที่น้ำท่วม โดยใช้เรือท้องแบนติดเครื่องยนต์และกำลังพลจำนวนมาก เพื่อป้องกันความสูญเสียและลดความเสี่ยงการเกิดโรคระบาด สำหรับความเสียหายสัตว์ตายหรือสูญหาย พบใน 3 จังหวัด คือ เชียงราย น่าน และอุตรดิตถ์ รวม 15,944 ตัว แบ่งเป็นโค 5 ตัว สุกร 18 ตัว และสัตว์ปีก 15,921 ตัว แปลงหญ้าเลี้ยงสัตว์ได้รับความเสียหาย 8,332.20 ไร่
อธิบดีกรมปศุสัตว์เน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่เร่งสำรวจความเสียหายและบูรณาการกับหน่วยงานท้องถิ่นเพื่อฟื้นฟูสุขภาพสัตว์และอาชีพเกษตรกร พร้อมดำเนินการเยียวยาตามระเบียบกระทรวงการคลัง รวมถึงกำชับให้สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรขึ้นทะเบียนหรือปรับปรุงข้อมูลการเลี้ยงสัตว์ เพื่อรับความช่วยเหลือได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ยังต้องเฝ้าระวังโรคระบาดสัตว์ที่อาจเกิดขึ้นหลังน้ำลด เพื่อป้องกันความสูญเสียเพิ่มเติม หากเกษตรกรผู้เลี้ยงสัตว์ประสบอุทกภัยและต้องการความช่วยเหลือจากกรมปศุสัตว์ สามารถติดต่อศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติด้านปศุสัตว์ กองส่งเสริมและพัฒนาการปศุสัตว์ กรมปศุสัตว์ โทร 02-6534444 ต่อ 3315 หรือแจ้งขอความช่วยเหลือผ่านแอปพลิเคชัน DLD 4.0 ได้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง.