บิทคอยน์อาจทะลุ 1.4 แสนดอลลาร์! ถ้าฝ่าแนวต้าน $125,000 สำเร็จ
ตลาดคริปโตลุ้นกลับมาลุ้นขาขึ้นที่สุดร้อนแรงอีกรอบ หลังบิทคอยน์ฝ่าวิกฤตสุดสัปดาห์ด้วยแรงขายมโหฬาร 9.6 พันล้านดอลลาร์ แต่ยังรักษาฐานราคาเหนือ $115,000 ได้อย่างมั่นคง ข้อมูลจาก Glassnode ชี้ หากทะลุแนวต้าน $125,000 ได้สำเร็จ มีโอกาสพุ่งต่อถึง $141,000 นักลงทุนสายเทคนิคจับตาจุดเปลี่ยนผ่านช่วงชิงโมเมนตัมครั้งใหม่ ท่ามกลางการกระจายสินทรัพย์จากฝั่ง LTH อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
แม้จะเจอแรงขายระดับ “อาฟเตอร์ช็อก” ถึงเกือบ 9.6 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แต่ตลาดคริปโตเคอร์เรนซีโดยเฉพาะบิทคอยน์ (BTC) กลับยังคงรักษาฐานราคาหลักไว้ได้อย่างสง่างาม พร้อมสัญญาณเชิงเทคนิคที่เริ่มส่งเสียงว่า “จังหวะทะลุเพดานใกล้เข้ามาแล้ว”
ข้อมูลจาก Glassnode เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม เผยว่า BTC ยังคงเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ $105,000 - $125,000 โดยมีจุดเปลี่ยนสำคัญอยู่ที่ระดับฐานต้นทุนของผู้ถือครองระยะสั้น (STH) ซึ่งในขณะนี้วางตัวอยู่ที่ ประมาณ $105,400 โดยหากราคาสามารถปิดเหนือแนวต้าน STH +1 ที่ $125,100 ได้อย่างเด็ดขาด เป้าหมายต่อไปจะขยับขึ้นสู่ STH +2 ที่ $141,600 ซึ่งเป็นแนวต้านสำคัญทางจิตวิทยาและทางเทคนิค
ฝ่าวิกฤตแรงขาย! ตลาดดูดซับแรงกระแทก 9.6 พันล้านดอลลาร์ได้อย่างไร?
รายงานยังเผยว่า ตลาดสามารถ "ดูดซับ" แรงเทขายจำนวนมหาศาลที่เกิดจากการเคลื่อนย้าย BTC มูลค่า ราว 9.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งดำเนินการโดยนักลงทุนรายใหญ่ผ่าน Galaxy Digital สะท้อนถึงความลึกของตลาด และประสิทธิภาพในการดูดซับแรงขายแบบไม่มีพิกัด
ขณะที่ราคาสปอตของ BTC ร่วงแตะระดับ $115,000 ก่อนจะรีบาวด์กลับขึ้นมาที่บริเวณ $118,000 ซึ่งแม้จะเป็นช่วงเวลาซื้อขายเบาบางในวันหยุดสุดสัปดาห์ แต่กลับไม่มีสัญญาณ "พานิก" แบบตื่นตระหนกเช่นในอดีต
Realized Cap ทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์-กำไรสุทธิทำสถิติใหม่
หนึ่งในปัจจัยที่ช่วยรองรับตลาดในรอบนี้ คือ Realized Cap ซึ่งเป็นมูลค่าดอลลาร์ที่ฝังอยู่ในเครือข่ายบล็อกเชน ปัจจุบันทะลุระดับ 1 ล้านล้านดอลลาร์ สะท้อนถึงเสถียรภาพของทุนหมุนเวียนในระบบอย่างมีนัยสำคัญ
ตัวชี้วัด “กำไร/ขาดทุนสุทธิที่เกิดขึ้นจริง” (Realized PnL) ก็เพิ่มขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 3.7 พันล้านดอลลาร์ โดยมีการบันทึกกำไรสุทธิที่สูงกว่าขาดทุนถึง 571 เท่า ซึ่งเป็นระดับสุดขีดซึ่งเกิดขึ้นเพียง 1.5% ของวันซื้อขายเท่านั้นในประวัติศาสตร์
อย่างไรก็ตาม รายงานเตือนว่า ช่วงกำไรสูงสุดมักเป็นสัญญาณล่วงหน้าของแรงขายในตลาด แม้จะยังไม่ใช่จุดสูงสุดที่แท้จริง
LTH เทขายครั้งใหญ่สุดในประวัติการณ์ แต่ 97% ของอุปทานยังอยู่ใน “กำไร”
อีกหนึ่งสัญญาณเชิงโครงสร้างที่น่าจับตาคือ การเคลื่อนไหวของกลุ่มผู้ถือระยะยาว (LTH) ที่มียอดกำไรสุทธิแตะ 2.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับ “บันทึกประวัติศาสตร์” สะท้อนพฤติกรรมการขายที่รุนแรงจากผู้ถือสายแข็ง
แม้อัตราส่วน LTH/STH หดตัวลงกว่า 11% ในรอบ 30 วันสะท้อนการกระจายความมั่งคั่งสู่ตลาด แต่กว่า 97% ของอุปทานบิทคอยน์ทั้งหมดยังคงอยู่ในสถานะ “มีกำไร” โดยมีมูลค่ากำไรที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงกว่า 1.4 ล้านล้านดอลลาร์
แนวรับ-แนวต้านสำคัญ ตลาดกำลังเข้าสู่จุดตัดสิน
การกระจายตามต้นทุนชี้ให้เห็นถึง “แนวรับแข็ง” ที่บริเวณ $117,000 - $122,000 และ “ช่องว่างต่ำ” ที่ $110,000 - $115,000 ซึ่งหากราคาลงมาทดสอบอีกครั้ง อาจเกิดความผันผวนระยะสั้น
ในกลุ่ม STH ริบบิ้นช่วงเวลา 24 ชั่วโมงถึง 3 เดือน เคลื่อนที่อยู่ในช่วง $110,000 - $117,000 ซึ่งเพิ่มน้ำหนักให้กับพื้นที่นี้ในฐานะแนวรับอันดับแรกที่ตรึงตลาดไว้ จนกว่าจะสามารถ “ปิดแท่ง” เหนือ $125,000 ได้สำเร็จ BTC ก็จะยังติดอยู่ใน “กรอบรอการระเบิด” ที่อาจส่งราคาพุ่งทะลุเพดานเดิมได้
สงครามจิตวิทยาเริ่มต้น นักลงทุนต้องตัดสินใจอย่างรอบคอบ
ตลาดบิทคอยน์ เวลานี้ไม่ได้เป็นเพียงสนามเทรด แต่กลายเป็น “สงครามจิตวิทยา” ระหว่างผู้ถือระยะยาวที่เริ่มขาย กับนักลงทุนรายใหม่ที่กำลังหาจังหวะเข้าซื้อ สัญญาณทางเทคนิคเริ่มเอนเอียงไปในทางบวก แต่ก็ยังไม่สามารถตัดสินใจได้โดยเด็ดขาด เพราะเมื่อราคาทดสอบแนวบน $125,000 คำถามที่เหลือคือ ใครจะยืนอยู่ในตลาดได้จนถึง $141,000? ได้
website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO