EGCO เผยโรงไฟฟ้า `Yunlin` รับรู้รายได้ปี 68 เต็มปี คาดสร้างกระแสเงินสดปีละ 2,000 ลบ. ช่วง 5 ปีแรก

EGCO เผยโรงไฟฟ้า Yunlin รับรู้รายได้ปี 68 เต็มปี คาดสร้างกระแสเงินสดปีละ 2,000 ลบ. ช่วง 5 ปีแรก

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -7 ก.ค. 68 9:13: น.

EGCO เผย โรงไฟฟ้าพลังงานลม "Yunlin" รับรู้รายได้ปีนี้เต็มปี คาดสร้างกระแสเงินสดเฉลี่ยปีละ 2,000 ลบ. ช่วง 5 ปีแรก หลังปี 68 เริ่มรับรู้รายได้เต็มปี ระบุ Yunlin เป็นหนึ่งในเรือธงหนุนเป้าเพิ่มกำลังผลิต RE เป็น 30% ในปี 73 ย้ำเป้าลงทุนปีนี้ 3 หมื่นลบ. เพิ่มกำลังผลิตอีก 1,000 MW แย้มอยู่ระหว่างเจรจาดีล M&A หวังครึ่งปีหลังเห็น 4-5 ดีล

ดร.จิราพร ศิริคำ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO เปิดเผยว่า โครงการโรงไฟฟ้า "Yunlin" ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง ที่ใหญ่ที่สุดของไต้หวัน ปัจจุบันติดตั้งแล้วเสร็จทั้งหมด 80 ต้น ด้วยกำลังผลิต 640 เมกะวัตต์ ซึ่งสามารถรับรู้รายได้เต็มปี 68 โดยคาดว่า Yunlin จะสร้างกระแสเงินสดให้ EGCO ประมาณ 2,000 ล้านบาทต่อปี ในช่วง 5 ปีแรกของการดำเนินโครงการเต็มรูปแบบ ส่วนในช่วง 5 เดือนแรกของปี 68 (ม.ค. - พ.ค.68) โรงไฟฟ้า Yunlin มีอัตราการผลิตไฟฟ้า (Capacity Factor) ประมาณ 35%

ความสำเร็จจากการลงทุนใน Yunlin สร้างโอกาสต่อยอดการลงทุนโครงการอื่น ๆ ในไต้หวันในอนาคต ซึ่งรัฐบาลไต้หวันรู้จัก EGCO Group ในฐานะนักลงทุนไทยที่มีศักยภาพและมีความมุ่งมั่นในการดำเนินโครงการให้สำเร็จ EGCO Group มีองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งจากโครงการ Yunlin และมีพันธมิตรที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์สูง โดยบริษัทได้มีการเตรียมความพร้อม และแสวงหาโอกาสการลงทุนใหม่ ๆ โดยเฉพาะในโครงการพลังงานหมุนเวียนและก๊าซธรรมชาติอย่างต่อเนื่อง หากพิจารณาแล้วเห็นว่ามีความเหมาะสม ก็จะใช้องค์ความรู้ที่ได้จากโครงการนี้เป็นปัจจัยพื้นฐานในการร่วมพิจารณาต่อไป ดร.จิราพรกล่าว

สำหรับโครงการ Yunlin ดำเนินการโดย บริษัท ยุนเหนิง วินด์ พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่าง Skyborn Renewables ถือหุ้น 31.98%, TotalEnergies ถือหุ้น 29.46%, EGCO Group ถือหุ้น 26.56% และ Sojitz Corporation ถือหุ้น 12% ภายหลังได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการไฟฟ้า (Electricity Business License - EBL) เพื่อเดินเครื่องเชิงพาณิชย์อย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา

ปัจจุบันบริษัท TotalEnergies รับหน้าที่หลักด้านการเดินเครื่องและบำรุงรักษา (Operations and Maintenance - O&M) ในขณะที่บริษัท Skyborn Renewables ดูแลด้านงานบริหารจัดการโครงการ โดยในส่วนของผู้ถือหุ้นอีกสองราย EGCO Group และ Sojitz Corporation มีบทบาทให้การสนับสนุนด้านการดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าและการบริหารธุรกิจในไต้หวัน รวมถึงตัดสินใจในการบริหารงานสำคัญต่าง ๆ ของโครงการ

โดย Yunlin ตั้งอยู่บริเวณช่องแคบไต้หวัน ห่างจากชายฝั่งตะวันตกของมณฑลหยุนหลินในไต้หวันเป็นระยะทางประมาณ 8-17 กิโลเมตร ที่ระดับความลึกของน้ำทะเลในช่วง 7-35 เมตร ครอบคลุมพื้นที่ประมาณ 82 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วยกังหันลม 80 ต้น กำลังผลิตต้นละ 8 เมกะวัตต์ รวมกำลังผลิตทั้งหมด 640 เมกะวัตต์ ไฟฟ้าที่ผลิตได้จะถูกส่งเข้าสู่โครงข่ายไฟฟ้าของไต้หวันผ่านสถานีไฟฟ้าบนฝั่ง 2 แห่ง บริเวณตำบลไถซีและซื่อหู ในมณฑลหยุนหลิน เพื่อขายให้กับ Taiwan Power Company (TPC) ภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้า 20 ปี

ซึ่ง Yunlin เป็นโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่งที่ใหญ่เป็นลำดับต้น ๆ ของไต้หวัน มีศักยภาพการผลิตไฟฟ้า 2,400 ล้านหน่วยต่อปี สามารถจ่ายไฟฟ้าให้กับภาคครัวเรือนไต้หวันมากกว่า 600,000 หลังคาเรือน คิดเป็น 90% ของความต้องการใช้ไฟฟ้าภาคครัวเรือนทั้งหมดของมณฑลหยุนหลิน และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 1.2 ล้านตันต่อปี โดยตลอดเวลาที่ผ่านมาโรงไฟฟ้า Yunlin เป็นผู้นำในการปกป้องสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนชุมชนท้องถิ่น รวมทั้งทำงานอย่างใกล้ชิดกับชุมชนในท้องถิ่น สมาคมประมงและมหาวิทยาลัยท้องถิ่นเพื่อลดผลกระทบต่อระบบนิเวศ

ทั้งนี้ EGCO เริ่มเข้าไปลงทุนในไต้หวันปลายปี 62 ด้วยการเข้าถือหุ้นใน บริษัท ยุนเหนิง วินด์ พาวเวอร์ จำกัด ซึ่งอยู่ระหว่างการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง Yunlin ซึ่งไต้หวันมีนโยบายส่งเสริมพลังงานสะอาดที่ชัดเจน การตั้งเป้าลดการพึ่งพานิวเคลียร์และถ่านหิน ผลักดันให้พลังงานสะอาดมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งเป็นพื้นที่ที่มีศักยภาพในการลงทุนพลังงานลมนอกชายฝั่ง โดยเฉพาะบริเวณช่องแคบไต้หวันเป็นตำแหน่งที่มีลมแรงเป็น ลำดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งรัฐบาลไต้หวันได้ส่งเสริมการลงทุนแก่นักลงทุนต่างชาติ โดยจัดสรรงบประมาณจำนวนมากเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านสู่พลังงานสะอาดและเศรษฐกิจสีเขียว โดยโครงการ Yunlin จะเป็นหนึ่งในเรือธง ที่สนับสนุนเป้าเพิ่มกำลังผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน(RE) เป็น 30% ในปี 73

ปัจจุบัน (ณ 4 ก.ค. 68) EGCO มีกำลังผลิตตามสัดส่วนการถือหุ้นรวม 6,653 เมกะวัตต์ (รวมโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้วและโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) โดยมีกำลังผลิตจากพลังงานหมุนเวียนรวม 1,450 เมกะวัตต์ (คิดเป็น 22% ของกำลังผลิตทั้งหมด) โดยในปี 68 ยังคงย้ำเป้าหมายตั้งงบลงทุน 30,000 ล้านบาท กำลังการผลิตใหม่รวมกว่า 1,000 เมกะวัตต์ ส่วนในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการเจรจาลงทุน(M&A)ในโครงการต่างๆ ซึ่งคาดหวังให้มากสุดประมาณ 4-5 ดีล ทั้งในสหรัฐฯ และตะวันออกกลาง

ทั้งนี้สัดส่วนกำไรในปี 67 มาจากประเทศไทย 35% และต่างประเทศ 75% โดยในสัดส่วนต่างประเทศมาจากสหรัฐฯ มากสุดประมาณ 16-17% ซึ่งกรณีประเด็นกำแพงภาษีสหรัฐฯ มองว่าอาจจะมีผลกระทบต่อประเทศไทย แต่การที่ EGCO ได้เข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ ถือเป็นผลดี เนื่องจากอาจทำให้ไทยได้รับการเจรจาได้ประโยชน์มากขึ้น เพราะ EGCO ถือว่าเป็นบริษัทเอกชนที่เข้าไปลงทุนในสหรัฐฯ โดยกลุ่ม EGCO มีมุมมองต่อตลาดพลังงานในสหรัฐฯ น่าสนใจ เนื่องจากราคาที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นโอกาสที่ดีที่บริษัทจะมองหาการลงทุนในโรงไฟฟ้าสหรัฐฯ มากขึ้น

เรียบเรียง โดย ชุติมา อภิชัยสุขสกุล
อีเมล์. reporter@efinancethai.comอนุมัติ โดย จารุวรรณ เอี่ยมยิ่งพานิช
ดูข่าวต้นฉบับ