`เมย์แบงก์ฯ` หั่นเป้า SET ปีนี้เหลือ 1,290 จุด จาก 1,400 จุด รับผลภาษีการค้า - การเมืองร้อนกดดัน

"เมย์แบงก์ฯ" หั่นเป้า SET ปีนี้เหลือ 1,290 จุด จาก 1,400 จุด รับผลภาษีการค้า - การเมืองร้อนกดดัน

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -7 ก.ค. 68 14:47 น.

บล.เมย์แบงก์ฯ หั่นเป้า SET สิ้นปีนี้เหลือ 1,290 จุด จากเดิมคาด 1,400 จุด รับผลกระทบภาษีสหรัฐ - การเมืองในประเทศ ประเมิน P/E ตลาดอยู่ในระดับต่ำแล้ว-กำไรบจ.ส่อผ่านจุดต่ำสุด พร้อมชูลงทุนกลุ่ม Defensive อาทิ ADVANC -PR9 ด้านธนาคารกรุงไทย เล็งออก DR ใหม่ 8 ตัว ในช่วง Q3/68

นายกิติชาญ ศิริสุขอาชา Head of Investment Solutions บล.เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MST เปิดเผยว่าฝ่ายวิจัยได้ปรับเป้าดัชนีหุ้นไทย (SET INDEX) สิ้นปีนี้ลงเหลือ 1,290 จุด จากเดิมที่คาดไว้ระดับ 1,400 จุด เพื่อสะท้อนความเสี่ยงของตลาดที่เพิ่มมากขึ้น โดยมองว่าปัจจัยที่มีผลกระทบในช่วงครึ่งปีหลังหลักๆคือ ความคืบหน้าการเจรจาภาษีการค้ากับประเทศสหรัฐฯและการเมืองภายในประเทศที่ยังไม่มีความชัดเจน

ทั้งนี้มองว่าตลาดหุ้นไทยราคาซื้อขาย (P/E) ปัจจุบันถือว่าอยู่ในระดับที่ต่ำแล้ว ซึ่งการเจรจาเรื่องภาษีการค้ากับสหรัฐฯแม้จะยังไม่มีความชัดเจน แต่คาดว่าไทยอาจจะถูกเก็บภาษีที่น้อยกว่าประเทศเวียดนาม เพราะเวียดนามมีการเกินดุลการค้ากับสหรัฐฯที่มากว่าประเทศไทย จึงมองว่าดาวน์ไซด์ของ SET น่าจะจำกัดแล้วและคาดว่าจะมีอัพไซด์หากการเจรจาภาษีกับสหรัฐมีความคืบหน้าหรือต่ำกว่าระดับ 18% ซึ่งจะเป็นปัจจัยบวกต่อทิศทางตลาดหุ้นได้

ขณะที่ประเด็นการเมืองในประเทศนั้น แม้มีผลต่อทิศทางการลงทุนบ้าง แต่เชื่อว่าหากไม่มีความรุนแรงก็คงไม่กระทบมากนัก เนื่องจากนักลงทุนทั้งในประเทศและต่างชาติมีความคุ้นเคยกับการชุมนุมของประเทศไทยในอดีต ซึ่งผลกระทบน่าจะมีผลต่อทางด้านเศรษฐกิจมากกว่า โดยมุมมองตลาดประเมินตัวเลข GDP ไทยปีนี้โตที่ระดับ 1.8% จากสมมุติฐานภาษีการค้ากับสหรัฐฯที่ระดับ 36%

ส่วนคาดการณ์กำไรบริษัทจดทะเบียนไทย (บจ.) ในช่วงไตรมาส 2/68 มองว่าน่าจะดีกว่าคาดเล็กน้อย และถือว่าได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว หลังจากในช่วงไตรมาส 1/68 ที่ผ่านมานักวิเคราะห์ได้มีการปรับลดประมาณการณ์กำไร บจ. ลงมาแล้ว อย่างไรก็ตามแนะนำเลือกลงทุนในหุ้นกลุ่ม Defensive ได้แก่ ADVANC และ PR9 เนื่องจากคาดว่า 2 หุ้นนี้มีผลกระทบจำกัดด้านผลกระทบภาษีการค้ากับสหรัฐฯ

นายต่อตระกูล สัตยาประเสริฐ Head of Structuring and Products Development ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB กล่าวว่าบริษัทเตรียมออกตราสารแสดงสิทธิในหลักทรัพย์ต่างประเทศ หรือ DR ในช่วงไตรมาส 3/68 อีกจำนวน 8 ตัว หลังจากอยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ซึ่งคาดว่าจะเปิดซื้อขาย (เทรด) ได้ในช่วงเดือนส.ค.หรือต้น ก.ย.68

ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทการออก DR รวมจำนวน 41 ตัว ซึ่งคิดเป็นมูลค่าตลาดประมาณ 18,000 ล้านบาท จากจำนวน DR ทั้งหมดในไทยที่มี 143 ตัว มูลค่าตลาดรวม 35,000 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทเป็นผู้ออก DR รายใหญ่ที่มีสัดส่วนเกิน 50% และมีมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน (YTD) กว่า 47,000 ล้านบาท ซึ่งคิดเป็น 75% ของตลาดรวม (อันดับ1) จากปัจจุบันที่มีผู้ออก DR รวมประมาณ 7 ราย

นอกจากนี้บริษัทคาดว่าภายในช่วงสิ้นปีนี้จะมีผลิตภัณฑ์ DR แตะ 55 ตัว เนื่องจากในช่วงไตรมาส 4/68 บริษัทตั้งเป้าจะออกอีกประมาณ 6-8 ตัว โดยบริษัทมีเป้าหมายจะออก DR ทุกๆไตรมาส หลังจากแนวโน้มการลงทุนใน DR ของไทยเติบโตอย่างต่อเนื่อง

เรียบเรียง โดย ปริวัฒน์ หินพลอย อนุมัติ โดย สุรเมธี มณีสุโข
ดูข่าวต้นฉบับ