“สวนดุสิตโพล” ชี้ ปชช. เชื่อ การทุจริตในสังคมไทย รุนแรงมาก “ภาครัฐ-ศาสนา-มูลนิธิ-ท้องถิ่น”
“สวนดุสิตโพล” มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ เรื่อง “การทุจริตในสังคมไทย ณ วันนี้” กลุ่มตัวอย่าง จำนวน 1,163 คน (สำรวจทางออนไลน์และภาคสนาม) ระหว่างวันที่ 19-22 สิงหาคม 2568 พบว่ากลุ่มตัวอย่างมองว่าปัญหาการทุจริตในสังคมไทยปัจจุบันมีความรุนแรงมาก ร้อยละ 93.47 และไม่เชื่อมั่นในกระบวนการตรวจสอบและลงโทษผู้ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ร้อยละ 78.50 โดยกังวลการทุจริตด้านงบประมาณภาครัฐมากที่สุด ร้อยละ 86.93 มองว่ารัฐบาลไม่สามารถแก้ไขปัญหาการทุจริตได้ ร้อยละ68.96 แนวทางในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต คือทุกหน่วยงานควรเปิดเผยข้อมูลต่อสาธารณะอย่างโปร่งใส ร้อยละ 69.91 ความในใจของประชาชนที่อยากบอกเกี่ยวกับการทุจริตในสังคมไทย ณ วันนี้ คือ การทุจริตมีอยู่ในทุกวงการทั้งภาครัฐ เอกชนและองค์กรศาสนา จึงควรเร่งแก้ไข ร้อยละ 43.38
นางสาวพรพรรณ บัวทอง ประธานสวนดุสิตโพล ระบุว่า ผลสำรวจสะท้อนว่าปัญหาการทุจริตยังคงเป็น “เงามืด”ที่ปกคลุมสังคมไทย ศาสนาซึ่งเคยเป็นที่พึ่งทางใจก็ยังไม่พ้นข้อครหาเรื่องการทุจริตยิ่งเมื่อประชาชนต้องพบข่าวทุจริตทั้งเล็กและใหญ่แทบทุกวันยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าปัญหานี้รุนแรงและไร้ความเชื่อมั่นต่อการแก้ไข หากปล่อยให้ปัญหายืดเยื้อในที่สุดปัญหาการทุจริตอาจกลายเป็นแรงกดดันรุมเร้าจนสั่นคลอนรัฐบาลก็เป็นได้
อาจารย์ ดร.งามประวัณ เอ้สมนึก อาจารย์ประจำหลักสูตรนิติศาสตร์ โรงเรียนกฎหมายและการเมืองมหาวิทยาลัยสวนดุสิต กล่าวว่า ผลสำรวจชี้ให้เห็นสภาวะที่น่ากังวลอย่างยิ่ง ประชาชนกว่า 93% มองว่าการทุจริตมีความรุนแรง และกว่า 78% ไม่เชื่อมั่นในกระบวนการตรวจสอบและลงโทษผู้กระทำผิดความกังวลใหญ่ที่สุดอยู่ที่การใช้งบประมาณภาครัฐ แต่สิ่งที่สะท้อนความบอบช้ำของสังคมได้อย่างลึกซึ้งกว่านั้นคือ
การที่ประชาชนถึง 69.48% แสดงความกังวลต่อ “การทุจริตในแวดวงศาสนาและมูลนิธิ”อันเป็นสถาบันที่ควรเป็นแหล่งบ่มเพาะศีลธรรมและคุณธรรมของสังคมการที่สถาบันซึ่งควรเป็นหลักยึดเหนี่ยวทางจิตใจยังไม่อาจรอดพ้นจากข้อครหาการทุจริต ย่อมสะท้อนว่า
“การทุจริตได้หยั่งรากลึกในทุกหย่อมหญ้า” ไม่มีพื้นที่ใดที่ปลอดภัยแม้แต่ในศาสนสถานผลลัพธ์เช่นนี้มิใช่เพียงการรับรู้ปัญหาเชิงโครงสร้าง แต่คือความสิ้นหวังที่ประชาชนเริ่มมีต่อทุกสถาบันของสังคมไม่ว่าจะเป็นรัฐ การเมือง หรือแม้แต่ศาสนาเมื่อประชาชนหมดศรัทธาต่อทั้งระบบการตรวจสอบและสถาบันที่ควรเป็นศูนย์รวมทางจิตวิญญาณย่อมทำให้ความเชื่อมั่นในอนาคตของประเทศถูกสั่นคลอนอย่างรุนแรง คำเตือนสำคัญจากผลโพลครั้งนี้คือหากสังคมไทยยังปล่อยให้วัฒนธรรมการทุจริตหยั่งรากลึกการสร้างนิติรัฐและความยุติธรรมแท้จริงย่อมเป็นเพียงความฝันที่ห่างไกล