อนามัยโลกเตือนนายจ้างทั่วโลก ต้องปกป้องคนงานจากความร้อน
รายงานฉบับใหม่จากองค์การอนามัยโลก (WHO) และองค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (WMO) ระบุว่า คนงานหลายล้านคนต้องเผชิญกับความเครียดจากความร้อน ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพและประสิทธิภาพการทำงาน รายงานฉบับนี้เรียกร้องให้รัฐบาล นายจ้าง และคนงานร่วมมือกันพัฒนากลยุทธ์การปรับตัว
แม้ว่า WHO จะได้ออกมาเตือนหลายครั้งถึงความเสี่ยงต่อสุขภาพจากความร้อนจัด แต่รายงานฉบับนี้ถือเป็นฉบับแรกนับตั้งแต่ปี 2512 ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความเครียดจากความร้อนที่เกิดขึ้นในที่ทำงานโดยเฉพาะ
รูดิเกอร์ เครช ผู้อำนวยการด้านสิ่งแวดล้อม สภาพภูมิอากาศ และสุขภาพของ WHO ยืนยันว่าการเตือนครั้งนี้เป็นเรื่องจำเป็น เพราะความร้อนในปัจจุบันมันไม่ใช่แค่ความรู้สึกไม่สบายตัวเท่านั้น แต่มันคือความเสี่ยงต่อสุขภาพอย่างแท้จริง หากคุณทำงานในที่ร้อนและอุณหภูมิร่างกายเพิ่มขึ้นหากคุณทำงานในที่ร้อนและอุณหภูมิร่างกายเพิ่มขึ้นเป็นเวลานานกว่า 38 องศาเซลเซียส คุณมีความเสี่ยงที่จะเกิดความเครียดอย่างรุนแรงจากความร้อน และร้ายแรงกว่านั้นคือโรคหลอดเลือดสมอง ไตวาย และภาวะขาดน้ำ
นายจ้างทั่วโลกจำเป็นต้องมีการปรับตัว เพราะคลื่นความร้อนไม่ได้เกิดขึ้นน้อยครั้งอีกต่อไป โดยเฉพาะช่วงทศวรรษที่ผ่านมาโลกมีอุณหภูมิที่ร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ โดยปี 2024 เป็นปีที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยมีมา
แม้แต่ในบางพื้นที่ของยุโรปซึ่งเคยมีอากาศหนาวเย็น ก็อาจมีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาเซลเซียส หรือมากกว่านั้นไม่ใช่เรื่องผิดปกติอีกต่อไป ในแอฟริกาหรือตะวันออกกลาง อุณหภูมิอาจสูงถึง 50 องศาเซลเซียส อุณหภูมิพื้นผิวเฉลี่ยในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนในเดือนกรกฎาคม สูงที่สุดเท่าที่เคยมีการบันทึกมา โดยอยู่ที่ 26.68 องศาเซลเซียส
WHO ย้ำว่า แรงงานภาคก่อสร้างและภาคเกษตรกรรมมีความเสี่ยงเป็นพิเศษ ประเทศในยุโรปบางประเทศจึงกำลังพิจารณาหาวิธีปรับตัวเพื่อให้การทำงานมีความปลอดภัยมากขึ้นในช่วงคลื่นความร้อน เดือนที่แล้วรัฐบาลอิตาลีได้ลงนามในพระราชกฤษฎีกาฉุกเฉิน หลังจากตกลงกับสหภาพแรงงานและผู้บริหารระดับสูง เพื่อป้องกันไม่ให้ประชาชนต้องทำงานในช่วงเวลาที่ร้อนที่สุดของวัน