ผบช.ก. ชี้ คดี "หมอบี–วัดพระบาทน้ำพุ" พบพิรุธเงินบริจาค
ผบช.ก. ชี้ คดี "หมอบี–วัดพระบาทน้ำพุ" พบพิรุธเงินบริจาค เร่งสอบเส้นทางเงินบริจาคย้อนหลัง 30 ปี
วันที่ 13 ส.ค. 68 ภายหลังการประชุมร่วมราว 1 ชั่วโมง พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง แถลงความคืบหน้าคดีที่เกี่ยวข้องระหว่าง “หมอบี ทูตสื่อวิญญาณ” และวัดพระบาทน้ำพุ โดยระบุว่า วันนี้มีการประชุมร่วมกันของ 3 หน่วยงานหลัก และได้ข้อสรุปว่าคดีมีความคืบหน้าในหลายประเด็น แต่ยังมีข้อมูลบางส่วนที่ไม่ชัดเจน จึงสั่งให้ตำรวจดำเนินการตรวจสอบและสืบสวนเพิ่มเติม
รอง ผบช.ก. กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าจะต้องนิมนต์พระราชวิสุทธิประชานาถ หรือหลวงพ่ออลงกต เจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ เข้าสอบปากคำภายในสัปดาห์นี้หรือไม่ เนื่องจากอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน ซึ่งต้องมีข้อมูลในระดับที่เพียงพอจึงจะสามารถเรียกสอบได้ โดยปัจจุบันตำรวจมีข้อมูลรายรับ–รายจ่ายของวัดบางส่วนอยู่แล้ว และอยู่ระหว่างตรวจสอบในหลายมิติ ทั้งประเด็นคดีหมอบีและข้อสงสัยที่เกิดขึ้นภายในวัด
เมื่อถูกถามว่าคำให้การของหมอบีชี้ถึงความทุจริตในวัดหรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า จากการวิเคราะห์พยานหลักฐาน พบว่ามีความ “หมิ่นเหม่” ต่อข้อกฎหมาย แต่ยังไม่อาจฟันธงว่าเป็นการทุจริตหรือฉ้อโกงประชาชน เนื่องจากข้อมูลที่ปรากฏตามสื่อยังมีทั้งจริงและไม่จริง อย่างไรก็ตาม ตำรวจได้ตรวจสอบเชิงลึกจนคืบหน้าไปมาก
สำหรับคำให้การของหมอบี พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยอมรับว่า มีประโยชน์ต่อรูปคดี แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ เพราะอยู่ในสำนวน ส่วนการสอบปากคำผู้บริจาครายใหญ่หรือรายประจำของวัด ขณะนี้ยังไม่ทราบชัดเจนว่าดำเนินการครบหรือไม่ แต่ทราบว่ามีการสอบไปแล้วราว 10–20 ปาก
รอง ผบช.ก. ย้ำว่า หลังจากนี้กองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) จะเป็นหน่วยหลักรับผิดชอบคดีทั้งหมด โดยมี กองบังคับการปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) สนับสนุนด้านข้อมูล และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ให้ความเห็นและตรวจสอบพยานหลักฐานเพิ่มเติม
พล.ต.ต.จรูญเกียร กล่าวด้วยว่า ภาพรวมคดีในส่วนของวัดพระบาทน้ำพุ พบความผิดปกติจริง แต่ต้องตรวจสอบให้ครบทุกมิติ ทั้งกรณีของวัดและมูลนิธิ โดยเฉพาะการตรวจสอบย้อนหลังถึง 30 ปี ตั้งแต่การก่อตั้งมูลนิธิช่วยเหลือผู้ป่วย HIV ซึ่งในช่วงการแพร่ระบาดรุนแรง วัดเปิดรับบริจาคเป็นจำนวนมาก แต่ภายหลังเมื่อมีการรักษาและสถานการณ์ดีขึ้น กลับพบว่ามีเงินบริจาคเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการตั้งกองทุนจำนวนมากและการเปิดช่องทางบริจาคออนไลน์
ตำรวจตั้งข้อสังเกตว่า ต้องตรวจสอบว่าเงินเหล่านี้ถูกนำไปใช้อย่างไร เนื่องจากพบว่ามีรายได้จำนวนมหาศาล และมีการโอนทรัพย์สินไปยังบุคคลใกล้ชิดหลายราย “แม้หลวงพ่ออลงกตจะทำความดีเพื่อสังคม แต่ก็ต้องแยกให้ชัดว่าเงินบริจาคที่ไหลไปช่องทางอื่นเกิดจากอะไร” พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว พร้อมระบุว่าต้องหาคำตอบให้ได้ว่าในช่วง 10–20 ปีที่ผ่านมา เกิดอะไรขึ้นบ้าง
ในส่วนข้อสงสัยว่าการตั้งมูลนิธิและกองทุนหลายแห่งอาจเป็นการอำพรางการเงิน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เห็นว่า การแก้ไขปัญหาที่ดำเนินมากว่า 20–30 ปีไม่ใช่เรื่องง่าย และย้ำว่าข้อมูลที่ตำรวจมีในปัจจุบัน “ล้ำหน้า” กว่าข้อมูลที่สื่อเผยแพร่
เมื่อถูกถามว่าพยานหลักฐานที่มีเพียงพอสำหรับการออกหมายเรียกหรือหมายจับหรือไม่ เขากล่าวว่า ยังมีหลักฐานจำนวนมากที่ต้องตรวจสอบให้ชัดเจน เพื่อหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาด และยืนยันว่าทุกฝ่ายกำลังทำงานบูรณาการร่วมกัน ทั้ง บก.ป., บก.ปปป. และ ป.ป.ท. “อีกไม่นานคดีนี้จะมีความชัดเจน”
ส่วนคำถามว่าวัดและมูลนิธิยังสามารถเปิดรับบริจาคได้หรือไม่ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ตอบว่ายังสามารถดำเนินการได้ตามปกติ ควบคู่ไปกับการสืบสวนของตำรวจ