“ธนกร” จี้ มท.เยียวยาปชช.ให้เหมาะสม บี้ ทบทวนระเบียบเร่งเบิกจ่ายงบสำรองฉุกเฉิน ฝาก ช่วยครอบคลุม 7 จว.ชายแดนไทย-กัมพูชา
วันที่ 23 ส.ค. นายธนกร วังบุญคงชนะ อดีตรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรคและสส.บัญชีรายชื่อพรรครวมไทยสร้างชาติ กล่าวว่า กรณีที่ประชาชนผู้ประสบภัยเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ที่ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ โพสต์ผ่านสื่อ โซเชียลมีเดียว่าได้รับการประเมินความเสียหายบ้านชำรุดจากการถูกทหารกัมพูชายิงระเบิดโจมตีโดยบอกว่าได้รับการชดเชยจากจังหวัดเป็นเงิน 73 บาทนั้น ตนมองว่า แม้ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษจะออกมาชี้แจงแล้วว่าเป็นการดำเนินการตามระเบียบก็ตาม แต่ระเบียบดังกล่าว ควรต้องมีการปรับแก้ไขให้เหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะเป็นเหตุกรณีพิเศษซึ่งมีการใช้อาวุธสงครามยิง เข้ามาในพื้นที่ชุมชนบ้านเรือนของพี่น้องประชาชน และทำให้ต้องรีบอพยพหนีตายออกจากพื้นที่โดยเร็ว ทิ้งบ้านเรือนไร่นาไม่ได้ประกอบอาชีพกว่า 10 วันซึ่งได้รับผลกระทบอย่างมากต่อชีวิต ทรัพย์สิน รวมถึงสภาพจิตใจของประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรง ยิ่งมาเจอกันชดเชยเยียวยาในลักษณะนี้เหมือนยิ่งไปบั่นทอนกำลังใจของประชาชน
ทั้งนี้ นายธนกร ฝากถึง นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรี รองนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ช่วยทบทวนระเบียบดังกล่าวให้เกิดความเหมาะสมกับสถานการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย- กัมพูชา การชดเชยเยียวยาไม่ใช่เพียงแค่มอบให้แก่ผู้ที่เสียชีวิต หรือทุพพลภาพ บาดเจ็บสาหัสเท่านั้น ในกรณีที่ประชาชนต้องอพยพทิ้งบ้านเรือน ทรัพย์สินและต้องหยุดประกอบอาชีพไปกว่า 10 วันนั้นถือว่าต้องมีการพิจารณาเยียวยาเป็นกรณีพิเศษด้วย นอกจากนั้น สมควรที่รัฐบาล กระทรวงสาธารณสุข ต้องมีการจัดทีมอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.)จิตแพทย์เข้าไปดูแลหลังผ่านเหตุการณ์สู้รบ เพราะไม่ว่าหน่วยราชการ หรือประชาชนพลเรือนในพื้นที่ ตนมองว่า ทุกคนต่างได้รับผลกระทบทั้งทางตรงและทางอ้อมด้วยกันทั้งสิ้น
“การเยียวยาแบบนี้ เป็นเหมือนการซ้ำเติมและบั่นทอนกำลังใจพี่น้องประชาชน ที่ได้รับผลกระทบอย่างมาก จึงขอให้รัฐบาลโดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทยที่กำกับดูแลผู้ว่าราชการทั้ง 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชาโดยตรง เร่งทบทวนพิจารณาระเบียบให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันโดยเร็ว ลดขั้นตอนเร่งการเบิกจ่ายงบสำรองฉุกเฉิน เพื่อดูแลความเป็นอยู่พี่น้องประชาชนทั้งร่างกายและจิตใจเป็นการด่วน“ นายธนกร กล่าว