4 STEP ผ่อนบ้าน ผสานเทคนิคให้ถึงฝัน
ในชีวิตคนหนึ่งคนการที่จะมีบ้านเป็นของตัวเองเป็นหนึ่งในความฝันอันสูงสุด และความฝันนี้ก็ตามมาด้วยภาระหนี้ก้อนใหญ่ที่สุดเช่นกัน หลายคนจึงบากบั่นทำงานหนักเพื่อให้ภาระนี้หมดไปให้เร็วที่สุด บทความนี้จึงขอนำเสนอวิธีที่จะช่วยเป็นจุดเริ่มต้นของการวางแผนการเงินในการซื้อบ้าน
1. จำนวนเงินในการผ่อนต่อเดือน
หลังจากเราเลือกบ้านในฝันได้แล้ว การประเมินค่าใช้จ่าย ๆ ให้เหมาะสมกับกำลังเงินที่มีจึงเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญที่สุด เพื่อจะไม่ให้กระทบกับสภาพคล่องทางการเงิน เพราะแน่นอนที่สุดว่าการผ่อนบ้านจะกลายเป็นรายจ่ายประจำเดือนที่เราต้องแบกรับไว้
2. ผ่อนอย่างสม่ำเสมอ
ความสม่ำเสมอในการผ่อน ถือเป็นการรักษาเครดิตของตัวเอง และยังช่วยเรื่องไม่ต้องจ่ายดอกเบี้ยที่จะถูกทบในการผ่อนไม่ตรงเวลา
3. เร่งสปีดลดต้น
หลังจากที่เราสามารถผ่อนบ้านในฝันของเราได้อย่างสม่ำเสมอแล้ว สิ่งที่จะทำให้ภาระก้อนนี้หมดไปได้เร็วมีสองอย่างคือ
ผ่อนเกินค่างวด ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องผ่อนเยอะกว่าค่างวดปรกติมากมาย เงินส่วนนี้จะเป็นเงินส่วนที่ไปลดเงินต้นโดยตรงทำให้ระยะเวลาในการผ่อนสั้นลงได้
โปะด้วยเงินก้อน สิ่งนี้จะเป็นการเร่งสปีดระยะเวลาการผ่อนอย่างชัดเจน เราอาจจะเอาเงินโบนัส เงินจากรายได้พิเศษ หรือแม้กระทั่งเงินออมมาโปะตรงนี้ก็ยังได้
4. ปรับโครงสร้างหนี้ใหม่
รูปแบบดอกเบี้ยบ้านจะเป็นแบบ MRR (Minimum Retail Rate) คืออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ขั้นต่ำที่ธนาคารใช้ในการปล่อยสินเชื่อให้ลูกค้ารายย่อยชั้นดี เช่น สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อที่อยู่อาศัย ถ้าในปีต่อ ๆ ไปมีการปรับอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น ซึ่งขึ้นอยู่กับการกำหนดนโยบายของแต่ละธนาคาร เช่น จากเดิม 3% แต่เมื่อผ่านไป 3 ปีกลับเป็น 6.5% ทำให้เราต้องจ่ายเพิ่มขึ้นอีกและเงินส่วนมากที่ผ่อนไปก็จะไปเป็นการจ่ายดอกเบี้ยซะด้วย ซึ่งการปรับโครงสร้างหนี้จะมีสองรูปแบบคือ
- Refinance เป็นการย้ายหนี้จากธนาคารเดิมไปธนาคารอื่น ที่เสนออัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่า แต่ก็ควรต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายในการดำเนินการ และอาจจะต้องเสียค่าปรับหากมีการไถ่ถอนก่อนกำหนด
- Retention เป็นการปรับโครงสร้างหนี้และดอกเบี้ยใหม่ให้มีอัตราลดลงจากธนาคารเดิมที่ผ่อนอยู่ ก็จะลดความยุ่งยากในการดำเนินการ และยิ่งหากเรามีประวัติการผ่อนที่ดีก็อาจได้รับการพิจารณาให้ได้อัตราดอกเบี้ยที่ต่ำได้
ทั้งนี้ไม่ว่าจะ Refinance หรือ Retention ต่างมีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน เราสามารถตัดสินใจเลือกโดยพิจารณาจากเงื่อนไขต่าง ๆ ของแต่ละธนาคาร และความคุ้มค่าจากอัตราดอกเบี้ยที่เราได้รับ
การซื้อบ้านเป็นหนี้ระยะยาวหลักสิบปีขึ้นไป การไม่สร้างหนี้ระหว่างทางก็เปรียบเหมือนการไม่สร้างภาระหนี้เพิ่ม สุดท้ายเราจะได้มีความสุขกับบ้านในฝันของเราอย่างไร้หนี้ปลอดโปร่งโล่งสบาย
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- CHAYO ครึ่งปีเเรกกำไร 237.44 ลบ. บวก 60.37% มั่นใจปีนี้ผลงานโต 20%
- "แบงก์ชาติ" เผยสินเชื่อ 2Q68 ติดลบ 0.9% ห่วง "กลุ่มเปราะบาง" ฟื้นช้า เร่งช่วยเหลือลูกหนี้ต่อเนื่อง
- มาวางแผนคุ้มครองรายได้กันเถอะ สมาคมนักวางแผนการเงินไทย
- เกษียณในฝันของสาววัย 50: อยากมีเงินใช้หลังเกษียณปีละ 200,000 บาท ต้องวางแผนยังไง?
- YOYO วัยเกษียณ ดูจีน ย้อนดูไทย