พาณิชย์ เผยเงินเฟ้อทั่วไป เดือนก.ค. ลดลงอีก 0.7% ยืนยันยังไม่เข้า “ภาวะเงินฝืด"
พาณิชย์ เผยเงินเฟ้อทั่วไป เดือนก.ค. ลดลงอีก 0.7% ยืนยันยังไม่เข้า “ภาวะเงินฝืด" ชี้เหตุราคาพลังงาน-ผัก-ผลไม้ ถูก จ่อทบทวนเงินเฟ้อทั้งปี
วันที่ 6 สิงหาคม 2568 นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) โฆษกกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของไทย เดือนกรกฎาคม 2568 เท่ากับ 100.15 และเทียบกับเดือนกรกฎาคม 2567 เงินเฟ้อทั่วไปลดลง 0.70% เทียบกับเดือนมิถุนายน 2568 ลดลง 0.27% ปัจจัยหลักมาจากการลดลงอย่างต่อเนื่องของราคาสินค้าในกลุ่มผักสด ผลไม้สด และของใช้ส่วนบุคคล ประกอบกับราคาสินค้าในกลุ่มพลังงานลดลง ทั้งน้ำมันเชื้อเพลิง ตามสถานการณ์ราคาน้ำมันในตลาดโลก และค่ากระแสไฟฟ้าตามมาตรการช่วยเหลือของภาครัฐ สำหรับราคาสินค้าและบริการอื่น ๆ ส่งผลกระทบต่อภาวะเงินเฟ้อไม่มากนัก สำหรับเงินเฟ้อพื้นฐาน (หักอาหารสดและพลังงานออก) สูงขึ้น 0.84% ชะลอลงจากเดือนมิถุนายน 2568 ที่สูงขึ้น 1.06% ส่งผลให้เงินเฟ้อทั่วไปเฉลี่ย 7 เดือนปี 2568 สูงขึ้น 0.21% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน
"เงินเฟ้อทั่วไปที่ติดลบต่อเนื่องแล้ว 4 เดือน และอาจติดลบต่อ ยังไม่ถือว่าเข้าภาวะเงินฝืด เนื่องจาก 2 สาเหตุหลัก คือ สินค้ากลุ่มพลังงาน ค่าไฟ ผักและผลไม้สด มีราคาต่ำกว่าปีก่อนมาก เช่น แก๊สโซฮอล์ ปีนี้ต่ำกว่าปีก่อน 6 บาทต่อลิตร ส่วนผักสดที่นิยมบริโภค จากข้อมูลผักสด 32 ชนิด ในจำนวนนี้ราคาลดลงถึง 22 ชนิด ที่เหลือทรงตัวหรือขยับเพียงเล็กน้อย ขณะที่เงินเฟ้อพื้นฐาน(หักพลังงานและอาหารสด) ยังขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งเงินเฟ้อทั่วไปที่ติดลบต่อเนื่อง 6 เดือน หรือ 13 เดือนเคยเกิดขึ้นในปี 2566 และเจอโควิดระบาดปี 2563 ตามลำดับ" นายพูนพงษ์ กล่าว
นายพูนพงษ์ กล่าวว่า เงินเฟ้อทั่วไปเดือนกรกฎาคมที่ลดลง 0.70% จากการเคลื่อนไหวของราคาสินค้าและบริการที่ใช้คำนวณเงินเฟ้อ 464 รายการ ในจำนวนนี้เพิ่มขึ้น 233 รายการ เท่าเดิม 58 รายการ และลดลง 173 รายการ จึงส่งผลให้หมวดอื่นๆ ที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่ม ลดลง 1.72 จากการลดลงของราคากลุ่มพลังงาน (แก๊สโซฮอล์ น้ำมันดีเซล น้ำมันเบนซิน ค่ากระแสไฟฟ้า) ของใช้ส่วนบุคคล (ผลิตภัณฑ์ป้องกันและบำรุงผิว โฟมล้างหน้า น้ำยาระงับกลิ่นกาย แชมพู สบู่ถูตัว) สิ่งที่เกี่ยวกับการทำความสะอาด (น้ำยารีดผ้า น้ำยาปรับผ้านุ่ม ผลิตภัณฑ์ซักผ้า น้ำยาล้างห้องน้ำ) และเสื้อผ้า (เสื้อยืดบุรุษและสตรี เสื้อเชิ้ตบุรุษและสตรี กางเกงขายาวบุรุษ)
ส่วนสินค้าราคาสูงขึ้น อาทิ ค่าเช่าบ้าน ค่าแต่งผมบุรุษและสตรี และค่าอาหารสัตว์เลี้ยง ขณะที่หมวดอาหารและเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ สูงขึ้น 0.84% จากการสูงขึ้นของราคาสินค้าสำคัญ อาทิ กลุ่มอาหารสำเร็จรูป (ข้าวราดแกง กับข้าวสำเร็จรูป ก๋วยเตี๋ยว) กลุ่มเนื้อสัตว์ เป็ดไก่ และสัตว์น้ำ (เนื้อสุกร ปลาทู ปลานิล) กลุ่มเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ (กาแฟผงสำเร็จรูป กาแฟ (ร้อน/เย็น) น้ำอัดลม) กลุ่มเครื่องประกอบอาหาร (กะทิสำเร็จรูป มะพร้าว (ผลแห้ง/ขูด) น้ำพริกแกง น้ำมันพืช) และกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำตาล (ขนมหวาน ไอศกรีม น้ำตาลมะพร้าว) อย่างไรก็ตาม มีสินค้าหลายรายการที่ราคาลดลง โดยเฉพาะไข่ไก่ ผลไม้สด (ทุเรียน ส้มเขียวหวาน เงาะ มะม่วง มังคุด) ผักสด (กะหล่ำปลี มะเขือ ขิง ฟักทอง มะนาว แตงกวา ฟักเขียว ต้นหอม) และอาหารโทรสั่ง
"แนวโน้มเงินเฟ้อทั่วไปเดือนสิงหาคม 2568 คาดอยู่ระดับต่ำเช่นเดียวกันกับเดือนกรกฎาคม 2568 ทำให้ไตรมาส 3 ปีนี้ คาดเงินเฟ้อทั่วไปติดลบ 0.5% และจะขยับเป็นบวกอีกครั้งในไตรมาสสุดท้ายของปี โดยหลังไตรมาส 3 สนค.จะมีการทบทวนตัวเลขเงินเฟ้อทั้งปีอีกครั้ง โดยตอนนี้ยังยืนคาดการณ์เงินเฟ้อทั้งปีที่ บวก0.5% ในกรอบ 0.0-1.0%"
นายพูนพงษ์ กล่าวว่า ปัจจัยสนับสนุนให้เงินเฟ้อทั่วไปลดลง ได้แก่ 1.ราคาน้ำมันดิบดูไบในตลาดโลกต่ำกว่าปีก่อนหน้า เนื่องจากเศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มฟื้นตัวอย่างอ่อนแอ และความตึงเครียดจากความขัดแย้งของประเทศผู้ผลิตน้ำมันอยู่ในระดับจำกัด 2.ภาครัฐยังคงดำเนินมาตรการช่วยเหลือลดภาระค่าครองชีพอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการปรับลดค่า Ft งวดเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม 2568 ลง 17 สตางค์ ส่งผลให้อัตราค่าไฟฟ้าลดลงเหลือ 3.98 บาทต่อหน่วย
3.ราคาผักสดและผลไม้สดอยู่ระดับต่ำกว่าปีก่อนหน้าค่อนข้างมาก จากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ทำให้ปริมาณผลผลิตเข้าสู่ระบบมากขึ้น และ 4.ค่าบริการด้านการท่องเที่ยวปรับตัวลดลง ตามสถานการณ์ด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยชั่วคราวต่างๆ ประกอบกับผู้ประกอบการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดเพื่อตอบรับโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง
สำหรับปัจจัยสนับสนุนให้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปรับสูงขึ้น ได้แก่ 1.ราคาสินค้าเกษตรบางชนิดและเครื่องประกอบอาหารมีแนวโน้มสูงกว่าปีก่อนหน้า เช่น เนื้อสุกร มะพร้าว มะขามเปียก กาแฟ เกลือป่น และน้ำมันพืช เป็นต้น อย่างไรก็ตาม หลายสินค้ามีแนวโน้มปรับตัวลดลงอย่างชัดเจน โดยเฉพาะราคาน้ำมันพืช และเนื้อสุกร และ 2.อัตราภาษีนำเข้าของสหรัฐฯ (Reciprocal Tariffs) ต่อประเทศคู่ค้าต่างๆ มีความชัดเจนมากขึ้น โดยเป็นอัตราที่ต่ำกว่าครั้งก่อนหน้า ซึ่งจะทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกทยอยปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้น
อ่านข่าวต้นฉบับได้ที่ : พาณิชย์ เผยเงินเฟ้อทั่วไป เดือนก.ค. ลดลงอีก 0.7% ยืนยันยังไม่เข้า “ภาวะเงินฝืด"
ติดตามข่าวล่าสุดได้ทุกวัน ที่นี่
- Website : https://www.khaosod.co.th