ญี่ปุ่นร้อนเดือด อุณภูมิทะลุ 41.8 องศา หวั่นผลผลิตข้าวเสียหาย
เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ประเทศญี่ปุ่นได้บันทึกอุณหภูมิสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 41.8 องศาเซลเซียส (107.2 องศาฟาเรนไฮต์) ที่เมืองอิเสะซากิ จังหวัดกุนมะ ทางตะวันออกของประเทศ ซึ่งสูงกว่าสถิติเดิมที่ 41.2 องศาเซลเซียส ซึ่งเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ก่อนในเมืองทัมบะ จังหวัดเฮียวโงะ ทางตะวันตก ตามรายงานของกรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่น
สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้รัฐบาลออกคำแนะนำให้ประชาชนหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้งและพำนักอยู่ภายในอาคาร พร้อมประกาศให้คำมั่นว่าจะดำเนินมาตรการเร่งด่วนเพื่อป้องกันผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตข้าว ซึ่งเป็นพืชอาหารหลักของประเทศ
ทั้งนี้ ตามข้อมูลจากสำนักงานบริหารจัดการอัคคีภัยและภัยพิบัติ มีผู้ที่ถูกนำส่งโรงพยาบาลจากอาการลมแดดแล้วกว่า 53,000 รายในช่วงฤดูร้อนปีนี้
นายทาเคชิ อิชิกาวะ พนักงานในอุตสาหกรรมยานยนต์ วัย 63 ปี ซึ่งกำลังเติมน้ำดื่มจากน้ำพุในใจกลางกรุงโตเกียว กล่าวว่า “วันนี้ร้อนแทบตาย ถ้าอุณหภูมิขึ้นถึง 42 องศา มันจะร้อนกว่าน้ำในอ่างอาบน้ำที่ผมอุ่นไว้ที่ 40 องศาอีก”
อุณหภูมิเฉลี่ยทั่วประเทศญี่ปุ่นยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมามีการบันทึกอุณหภูมิสูงสุดเป็นปีที่สามติดต่อกัน ขณะที่ภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่อยู่ติดกับทะเลญี่ปุ่นประสบภาวะฝนตกต่ำในระดับวิกฤติ ซึ่งก่อให้เกิดความวิตกกังวลเกี่ยวกับการเก็บเกี่ยวข้าวในฤดูกาลนี้
นอกจากนี้ ความร้อนสูงยังส่งผลให้จำนวนแมลงศัตรูพืชเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะแมลงเหม็นที่สร้างความเสียหายต่อพื้นที่เพาะปลูกข้าว แม้ว่ารัฐบาลจะมีแผนประกาศใช้นโยบายใหม่ในวันอังคารนี้ เพื่อสนับสนุนการเพิ่มกำลังการผลิตข้าว เพื่อป้องกันการขาดแคลนในอนาคต
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร นายชินจิโร่ โคอิซึมิ แถลงข่าวว่า “เราจำเป็นต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วนด้วยความตระหนักถึงวิกฤต เพื่อป้องกันความเสียหายจากอุณหภูมิสูง” พร้อมระบุว่ารัฐบาลจะให้การสนับสนุนในการควบคุมแมลงศัตรูพืช และดำเนินมาตรการรับมือกับภัยแล้งอย่างเหมาะสม
ทั้งนี้ ในปี 2023 ประเทศญี่ปุ่นเคยประสบปัญหาคุณภาพข้าวลดลงจากสภาพอากาศร้อนจัด ส่งผลให้เกิดการขาดแคลนข้าวอย่างเฉียบพลัน ซึ่งยิ่งเลวร้ายลงจากการที่รัฐบาลประเมินอุปสงค์และอุปทานผิดพลาด ส่งผลให้ราคาข้าวพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ และก่อให้เกิดวิกฤตระดับชาติ