“ญี่ปุ่น” ย้ำไม่ลดภาษีสินค้าเกษตร รับข้อเรียกร้องซื้อข้าวสหรัฐในกรอบโควตาเดิม
ญี่ปุ่น ปฏิเสธรายงานที่สหรัฐกดดันให้ญี่ปุ่นลดภาษีสินค้าเกษตร พร้อมระบุการนำเข้าข้าวจากสหรัฐจะทำได้เพียงภายใต้เพดานโควตาปลอดภาษีที่มีอยู่เดิม
วันที่ 2 กันยายน 2568 เวลา 10.58 น. สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ญี่ปุ่นยืนยันจะจัดการข้อเรียกร้องของสหรัฐเกี่ยวกับการนำเข้าข้าวจากอเมริกาเพิ่มเติม ภายใต้กรอบโควตาการนำเข้าปลอดภาษีที่มีอยู่เดิม และจะไม่มีการปรับลดอัตราภาษีสินค้าการเกษตรแต่อย่างใด ตามคำกล่าวของนายเรียวเซ อาคาซาวะ หัวหน้าผู้เจรจาการค้าของญี่ปุ่น
อาคาซาวะออกมาปฏิเสธรายงานของหนังสือพิมพ์นิกเกอิเมื่อสัปดาห์ก่อนที่ระบุว่าสหรัฐเสนอให้ญี่ปุ่นลดภาษีสินค้าการเกษตรลงตามคำสั่งฝ่ายบริหาร (executive order) เกี่ยวกับภาษี และยังเรียกร้องให้โตเกียวเพิ่มการนำเข้าข้าวจากสหรัฐด้วย
อาคาซาวะกล่าวถึงข้อตกลงการค้าระหว่างญี่ปุ่น–สหรัฐที่บรรลุเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมว่า“ข้อตกลงดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับการลดภาษีสินค้าการเกษตรเลย …ผมไม่ได้มีการเจรจาใด ๆ ที่จะทำให้ภาคเกษตรเสียเปรียบ และจุดยืนตรงนี้ก็ไม่เคยเปลี่ยน”
การยกเลิกการเดินทางของอาคาซาวะไปสหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อปิดดีลโครงการลงทุนมูลค่า 550,000 ล้านดอลลาร์ ได้ก่อให้เกิดกระแสคาดการณ์ว่าอาจมีความเห็นต่างระหว่างสองฝ่ายจนทำให้ข้อตกลงไม่สามารถเดินหน้าได้ โดยญี่ปุ่นกำลังพยายามผลักดันให้สหรัฐลดภาษีรถยนต์ และรวมภาษีซ้อน 2.5% เข้ากับอัตราภาษีใหม่ที่ 15% อย่างไรก็ตามจนถึงขณะนี้ยังไม่มีเอกสารร่วมอย่างเป็นทางการเผยแพร่ต่อสาธารณะ
อาคาซาวะย้ำว่า ญี่ปุ่นและสหรัฐไม่มีความเข้าใจที่แตกต่างกันในสาระของข้อตกลง พร้อมกล่าวว่าญี่ปุ่นจะพิจารณาวิธีการรองรับข้อเรียกร้องของสหรัฐในการซื้อข้าวเพิ่ม แต่ต้องอยู่ในเพดานโควตาข้าวปลอดภาษีที่ญี่ปุ่นมีอยู่ เขากล่าวเพิ่มเติมว่าขณะนี้ยังไม่ได้กำหนดตารางการเดินทางไปสหรัฐใหม่
ทั้งนี้แถลงการณ์ของทำเนียบขาวเกี่ยวกับข้อตกลงการค้าดังกล่าว ระบุว่าญี่ปุ่นจะเพิ่มการนำเข้าข้าวจากสหรัฐทันที 75% ผ่านการขยายโควตาการนำเข้า
ข้อมูลจากกระทรวงเกษตรของญี่ปุ่นระบุว่า ญี่ปุ่นนำเข้าข้าวจากสหรัฐ 346,000 ตันเมื่อปีที่แล้ว ขณะที่การนำเข้าข้าวปลอดภาษีรวมอยู่ที่ 770,000 ตัน หากเพิ่มโควตาข้าวสหรัฐอีก 75% จะเท่ากับเพิ่มเป็นราว 600,000 ตัน ซึ่งหมายความว่าญี่ปุ่นอาจต้องลดการซื้อลงจากประเทศคู่ค้าอื่น ๆ เช่น ไทย ออสเตรเลีย และจีน
ในอีกด้านหนึ่ง ญี่ปุ่นกำลังพยายามกดดันให้สหรัฐเดินหน้าลดภาษีรถยนต์และยกเลิกการเก็บภาษีซ้อนตามคำสั่งฝ่ายบริหาร ขณะที่สหรัฐเองยังไม่เห็นการลงทุนจากญี่ปุ่นไหลเข้ามาช่วยกระตุ้นการผลิตภายในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นหนึ่งในเสาหลักสำคัญของข้อตกลงดังกล่าว และยังไม่ชัดเจนว่าโครงการลงทุนนี้จะถูกดำเนินการอย่างไร
อ้างอิง : bloomberg.com