เก็บตกบาดแผลที่สูญหาย เมื่อประเทศไทยไม่เคยจำ ในสารคดี ‘When my father was a communist’
เคยได้ยินคำว่า “3 เรียบ” ไหม?
หลังจากเหตุการณ์เสียงปืนแตกที่สุราษฎร์ธานีในปี 2508 ทางการได้เริ่มปราบปรามผู้เข้าร่วมกับพรรคคอมมิวนิสต์สยามในภาคใต้อย่างจริงจัง จนมาถึงการปราบปรามใหญ่ครั้งที่ 2 ระหว่างปี 2513-2514 ในสมัยของ จอมพล ถนอม กิตติขจร ที่ใช้ความรุนแรงอย่างที่เรียกกันในภายหลังว่า 3 เรียบ หมายถึง ปล้นเรียบ เผาเรียบ และฆ่าเรียบ ซึ่งนำไปสู่การสังหารประชาชนที่ต้องสงสัยว่าเป็นคอมมิวนิสต์ ด้วยวิธีถีบลงเขา เผาลงถังแดงในที่สุด
ถีบลงเขา หมายถึง ถีบลงจากเฮลิคอปเตอร์ ส่วนเผาลงถังแดง หมายถึง การเผาในถังน้ำมันสีแดงที่กำจัดร่องรอยหลักฐานได้ง่าย ภาพหลอนของถังแดงที่มีต่อสังคมไทยไม่เคยเลือนราง ดังที่เมื่อ 6 ปีก่อนมีการค้นพบหลักฐานสำคัญเชื่อมโยงการหายตัวไปของ นายพอละจี รักจงเจริญ หรือ "บิลลี่" แกนนำปกป้องสิทธิมนุษยชนของกะเหรี่ยงบ้านบางกลอย เป็นการค้นพบกระดูกมนุษย์ในถังน้ำมันสีแดงขนาด 200 ลิตร ที่จมอยู่ใต้อ่างเก็บน้ำเขื่อนแก่งกระจาน ซึ่งป่าแก่งกระจานเองก็ถือเป็นสมรภูมิสุดท้ายระหว่างกองทัพปลดแอกประชาชนแห่งประเทศไทยกับเจ้าหน้าที่ของรัฐในปี 2535 อีกด้วย
เฉพาะในจังหวัดพัทลุง ตรัง และสตูล ประมาณการว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากอาจสูงถึง 3,000 คน ในจำนวนนี้มีทั้งไทยพุทธและมุสลิม แต่มีเพียง 195 รายชื่อเท่านั้นที่สามารถรวบรวมและระบุตัวตนได้ โดยถูกจารึกอยู่ ณ อนุสรณ์สถานถังแดงในพัทลุง ซึ่งทางชุมชนได้เป็นผู้ร่วมกันสร้างขึ้น เพื่อรำลึกและศึกษาประวัติศาสตร์นอกตำราในบริเวณที่เคยเป็นค่ายทหารมาก่อน
อนุสรณ์สถานถังแดงที่พัทลุงในวันงานร่างรัฐธรรมนูญไทยภาคใต้ เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2568 ภาพจาก สิริพรรณี สุปรัชญา
When my father was a communist สารคดีแนว observational ที่ผู้กำกับ วิชาติ สมแก้ว สัมภาษณ์คุณพ่อและเพื่อนของพ่อ โดยเรียงร้อยเข้ากับฟุตเตจและภาพถ่ายเก่าให้เป็นเรื่องเล่าอย่างไม่ตัดสิน จังหวะการถ่ายทอดมีความละเมียดบางอย่างที่ทำให้เรานึกถึง The Lost Princess อันเป็นสารคดีจากผลงานกำกับของ กรภัทร ภวัครานนท์ ที่เล่าเรื่องผ่านสายตาหลานสาวถึง ‘เจ้ายาย’ หรือเจ้าดวงเดือน ณ เชียงใหม่
แม้สารคดีทั้ง 2 เรื่องดังกล่าวจะพาเราไปสำรวจบุคคลที่อยู่กันคนละสุดขั้วฐานันดร ระหว่างเชื้อสายเจ้าครองนครกับประชาชนคนเดินดิน เรื่องหนึ่งอู้กำเมือง อีกเรื่องแหลงใต้ แต่สิ่งที่สารคดีมีเหมือนกันคือ ความพยายามที่จะเก็บรักษาชิ้นส่วนประวัติศาสตร์บาดแผลในโมงยามของความเปลี่ยนแปลง เมื่อเรื่องราวที่ไม่ได้ถูกบันทึกไว้เริ่มเลือนหาย เพราะผู้คนตายจาก
จากปากคำของสหายที่ให้สัมภาษณ์ในสารคดี When my father was a communist พวกเขายืนยันว่า ที่เข้าร่วมเคลื่อนไหวเพราะต้องการเพียงประชาธิปไตยเต็มใบและความเสมอภาคเท่านั้น หรือจำใจเข้าร่วมเพราะถูกตั้งข้อสงสัย จึงต้องหนีเข้าป่าเอาชีวิตรอด แต่กลับถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้ก่อการร้ายขายชาติ ถูกสร้างภาพให้เป็นสิ่งที่ชั่วร้าย มีการสร้างวาทกรรมว่าพรรคคอมมิวนิสต์จับคนแก่ไปทำปุ๋ย จับผู้หญิงไปข่มขืน ฯลฯ ทั้งนี้ สหายท่านหนึ่งยังอ้างว่า ก่อนเข้ามอบตัว มีการนำปืนจำนวนมากมามอบให้กับประชาชน และให้ถือมาด้วยเพื่อบันทึกภาพ
วิชาติ สมแก้ว ผู้กำกับสารคดีเรื่อง When my father was a communist ภาพจาก สิริพรรณี สุปรัชญา
นโยบายต้านป่าล้อมเมือง และการกดดันจากภาครัฐในยุคระแวงคอมมิวนิสต์ ประกอบกับความแตกแยกจากภายใน อาทิ การนำยุทธวิธีต่างประเทศมาใช้โดยไม่ปรับให้เข้ากับภูมิประเทศ ความไม่ลงรอยกันระหว่างศูนย์กลางกับหน่วยปฏิบัติการท้องถิ่น และขาดการถอดบทเรียน อาจทำให้พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย และกองทัพปลดแอกประชาชนแห่งประเทศไทยสิ้นชื่อในที่สุด
แต่หลายคนก็บอกว่า แม้จะอยู่ในภาวะจำยอมเพราะสู้ไม่ได้ แต่ความคิดของพวกเขายังไม่เปลี่ยน พวกเขายังคงพยายามแสวงหาความเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าเท่าที่พอจะทำได้ ซึ่งในวันนี้ความรุนแรงของภาครัฐที่มีต่อประชาชนก็ยังคงอยู่ เพียงแต่วิธีการได้เปลี่ยนไป
เมื่อไม่เคยถูกพูดถึงในระบบการศึกษาสามัญ และชำระล้างอย่างมีระบบให้เป็นที่รับรู้ทั่วกัน เพื่อป้องกันการเกิดซ้ำ ประวัติศาสตร์บาดแผลเหล่านี้จึงวนเวียนเป็นเรื่องเล่า แทนที่จะเข้าสู่กระบวนการปรองดองและเยียวยาอย่างยุติธรรม น่าประหลาดใจที่เมื่อมีความรุนแรงต่อประชาชนเกิดขึ้น เราจะได้พบวาทกรรมที่ลดทอนความซับซ้อนของปัญหา และลดทอนคุณค่าความเป็นมนุษย์อยู่เสมอ ในประเทศที่หลายคนภูมิใจกับการเป็นเมืองพุทธ แต่มีบรรพชิตใต้ร่มกาสาวพัสตร์บอกว่า การฆ่าคอมมิวนิสต์ไม่ถือเป็นการฆ่าคน แต่คือการฆ่ามาร จึงบาปแต่เพียงเล็กน้อย เหตุการณ์กรือเซะ-ตากใบ ถูกเรียกเป็นการปราบโจรใต้ พ่อค้ายาเสพติด หรือการสลายการชุมนุมที่แยกราชประสงค์ ที่ผู้เสียชีวิตถูกตราหน้าว่าเป็น “ควายแดง”
อนุสรณ์วีรชน หมู่บ้านจุฬาภรณ์พัฒนา 10 ใน อ.เบตง จ.ยะลา ซึ่งเดิมเป็นพื้นที่ปฏิบัติการของพรรคคอมมิวนิสย์มลายา (คนละกลุ่มกับพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยภาคใต้) ภาพจาก สิริพรรณี สุปรัชญา
นอกจากนี้ มรดกทางความคิดจากการเคลื่อนไหวของประชาชนในยุคพื้นที่สีแดงยังถูกส่งต่อ ในรูปแบบของผู้ที่เคยเข้าร่วมด้วยตัวเอง ได้รับแรงบันดาลใจและแนวคิด หรือได้รับความช่วยเหลือในการขับเคลื่อนขบวนการประชาชน จากบุคคลที่อยู่ในเหตุการณ์ประวัติศาสตร์เหล่านี้
ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ปฏิรูปที่ดินชาวนาเมื่อปี 2517 ที่นำไปสู่การจัดตั้ง 'สหพันธ์ชาวนาชาวไร่แห่งประเทศไทย' และส่งต่ออุดมการณ์ให้กับสมัชชาคนจน, การเคลื่อนไหวของกรรมกรระหว่างปี 2517-2518 เพื่อคัดค้านการยกเลิกกฎหมายที่คุ้มครองแรงงาน นำโดยกรรมกรโรงงานทอผ้าอ้อมน้อย พนักงานโรงแรมดุสิตธานี และกรรมกรหญิงโรงงานฮารา และการประท้วงข้าวสารราคาแพง ของสหภาพแรงงานทั่วประเทศนับหมื่นคนในเดือนธันวาคมปี 2518
จึงอาจกล่าวได้ว่า ความเคลื่อนไหวของขบวนการประชาชนในยุคนั้น ส่งผลอย่างกว้างขวางต่อสวัสดิการแรงงาน และสังคมไทยจนถึงทุกวันนี้อย่างปฏิเสธไม่ได้ แม้ว่าตัวตนของพวกเขาอาจไม่เคยถูกพูดถึงในตำราเรียน และพวกเราอาจไม่เคยนึกสงสัยว่า สิทธิสวัสดิการต่างๆ ที่ได้มานั้นมีที่มาอย่างไรเลยก็ตาม
สารคดีWhen my father was a communist (เมื่อพ่อผมเป็นคอมมิวนิสต์) จะฉายในโรงภาพยนตร์อิสระขนาดเล็กทั่วประเทศ สามารถติดตามรอบได้ที่ facebook.com
อ้างอิงจาก
อาภรณ์, วิทยา, “นักปฏิวัติหญิงแห่งเขตงานกรุงชิง จังหวัดนครศรีธรรมราช (พ.ศ. 2515-2525)” สถาบันพระปกเกล้า (June 12, 2023).
ชน บทจร, “รอยอดีต ‘นรกบางกลอย’ ไขปริศนา ตชด. ในสมรภูมิแก่งกระจาน” The People (February 3, 2021) thepeople.co
“เหตุการณ์ ‘ถังแดง’ คืออะไร?”, ศูนย์เรียนรู้เครือข่ายสินธุ์แพรทอง (February 10, 2023) xn--72c5acd0a4a8b3a1d0b8f5f.xn
Graphic Designer: Sutanya Phattanasitubon
Editorial Staff: Taksaporn Koohakan