เคาะไป คุยไป : เคาะ THANI
#THANI #ทันหุ้น – ผลงานไตรมาส 2/2568 THANI มีกำไรสุทธิ 279 ล้านบาท +9.84%QoQ +9.4%YoY โดยปัจจัยหลักมาจากการลดลงของค่าใช้จ่ายในการตั้งค่าเผื่อผลขาดทุนจากการขายรถยึด ซึ่งเกิดจากการบริหารสต๊อกรถยึดอย่างมีประสิทธิภาพ การขายออกอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ทำให้ได้ราคาที่ดีและไม่ปล่อยให้มูลค่าเสื่อมลง สำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทมีกำไรสุทธิ 532 ล้านบาท -11%YoY เนื่องจากพอร์ตสินเชื่อมีขนาดเล็กลงส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยลดลง และมีการตั้งสำรองที่สูงขึ้นตามนโยบายเข้มข้น
ด้านสินเชื่อ -9%YoY สาเหตุหลักมาจากนโยบายการปล่อยสินเชื่ออย่างระมัดระวังเพื่อควบคุมคุณภาพ มากกว่าการขยายเชิงปริมาณ รวมถึงผลกระทบจากการชะลอตัวของตลาดรถบรรทุก บริษัทมีกลยุทธ์การจัดการหนี้เสียที่ชัดเจน โดยลดจำนวนรถยึดจาก 1,000 คัน เหลือประมาณ 300 คัน ผ่านการประมูลขายอย่างรวดเร็ว เพื่อรักษามูลค่าและเพิ่มกำไรจากการขาย ทั้งนี้โครงสร้างพอร์ตสินเชื่อยังทรงตัว โดยสัดส่วน รถบรรทุกใหม่ 43%, Used Truck 26%, High-End 24%
ด้านตัวชี้วัดทางการเงินTHANI มี ROE อยู่ที่ 8%, ROA 2.25% ดีขึ้นจากปีก่อน, NPM สูงถึง 27%, อัตราหนี้เสีย (NPLs Ratio) ลดลงเหลือ 2.54% จากปีก่อนที่ 3.31% และต่ำกว่าค่าเฉลี่ยตลาด รวมถึง Coverage Ratio สูงถึง 139% สะท้อนความแข็งแกร่งของการตั้งสำรอง ครึ่งปีหลังบริษัทมองว่ามีความพร้อมกลับมาขยายพอร์ตสินเชื่อหากเศรษฐกิจฟื้นตัว โดยยังคงให้ความสำคัญกับคุณภาพสินเชื่อเป็นหลัก และคาดว่าหากความเชื่อมั่นผู้ประกอบการดีขึ้น จะช่วยหนุนการเติบโตของสินเชื่อในอนาคต ทั้งนี้คาดการณ์กำไรสุทธิไตรมาส 3/2568 จะเติบโตจากค่าใช้จ่ายการด้อยค่าทรัพย์สินรอการขาย และค่าใช้จ่ายการตั้งสำรองที่ลดลง ตามคุณภาพสินทรัพย์ที่ดีขึ้น ส่วน QoQ จะทรงตัว
ในเชิง Valuation ราคาปัจจุบันซื้อขายบน PBV เพียง 0.73 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มที่ 1.7 เท่า มองว่ามีความน่าสนใจจากแนวโน้มผลประกอบการที่คาดหวังการเติบโตแกร่งในครึ่งหลังของปีนี้ โดย IAA Consensus ประเมินกำไรสุทธิปี 2568 เฉลี่ยเท่ากับ 989.34 ล้านบาท +23.7%YoY ขณะที่ยังมี Upside จากการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง หนุนให้ Cost of Fund ลดลง ส่งผลต่อโอกาสปรับประมาณการขึ้นของตลาดที่เราคาดหวังว่ากำไรสุทธิในปีนี้อาจแตะระดับ 1 พันล้านบาทได้
แนะนำ “เคาะ” ครับ ทางด้านปัจจัยเทคนิค ระยะสั้นระดับราคาและแท่งเทียนไม่สร้างจุดต่ำใหม่กว่า หรือแกว่งตัวยืนกรอบแนวรับหลัก 1.55-1.52 ได้มั่นคง แนวโน้มจบรูปแบบ V-Shape กลับหัว แนวต้านหลัก SMA ที่ทำหน้าที่เส้นแนวต้านขาลง 1.65 ผ่านยืนและมีปริมาณการซื้อข่ายเพิ่มขึ้นตามกัน สัญญาณซื้อ และยืนยันจบรูปแบบขาลง
คำแนะนำ ASL
กรณี “มีหุ้น” ถือหรือซื้อเพิ่ม มีโอกาสทดสอบแนวต้าน 1.65/1.69/1.73
กรณี “ไม่มีหุ้น” ซื้อระยะสั้นเน้นยืนแนวรับ 1.60/1.55-1.52 ไม่ควรต่ำกว่า