ดาวโจนส์ปิดวันศุกร์บวก 34.86 จุด รับหุ้น UnitedHealth พุ่งแรง, ขณะแนวโน้มเฟดลดดอกเบี้ยไม่ชัดเจน
ดาวโจนส์ปิดวันศุกร์บวก 34.86 จุด รับหุ้น UnitedHealth พุ่งแรง, ขณะแนวโน้มเฟดลดดอกเบี้ยไม่ชัดเจน
สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย- -18 ส.ค. 68 7:42: น.
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดผสมผสานในวันศุกร์ (15 ส.ค.) โดยดาวโจนส์ปิดเพิ่มขึ้นเล็กน้อย หลังทำสถิติสูงสุดระหว่างวัน จากแรงหนุนหุ้น UnitedHealth ที่พุ่งขึ้นเกือบ 12% หลัง Berkshire Hathaway ของวอร์เรน บัฟเฟตต์เพิ่มการถือครองหุ้น ขณะที่ดัชนี S&P 500 และดัชนีแนสแดคปรับตัวลดลงหลังข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาไร้ทิศทาง ซึ่งสร้างความไม่แน่นอนว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ยหรือไม่
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ ปิดเพิ่มขึ้น 34.86 จุด หรือ 0.08% ปิดที่ 44,946.12 จุด ดัชนี S&P 500 ปิดลดลง 18.74 จุด หรือ 0.29% ปิดที่ 6,449.80 จุด และดัชนีแนสแดค ปิดลดลง 87.69 จุด หรือ 0.40% ปิดที่ 21,622.98 จุด
ในรอบสัปดาห์ที่ผ่านมา ดัชนีดาวโจนส์ ปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.74% ดัชนี S&P 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.94% และดัชนีแนสแดคปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.81% ขณะที่ดัชนี Russell 2000 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.13%
หุ้น UnitedHealth พุ่ง 12% มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมี.ค. 2020 หลังวอร์เรน บัฟเฟตต์ เปิดเผยแผนการลงทุนครั้งใหม่ในหุ้นของบริษัท
ขณะที่หุ้น Applied Materials ร่วงลง 14% หลังเผยคาดการณ์ไตรมาส 4 ที่อ่อนแอ ด้านหุ้น Bank of America ร่วง 1.6% หลัง Berkshire Hathaway ลดสัดส่วนการถือครองหุ้นลงไป 4.2% ส่งผลให้สัดส่วนการถือครองตอนนี้อยู่ที่ 8% หรือ 605.3 ล้านหุ้น ส่วนหุ้น Intel เพิ่มขึ้น 2.9% หลังมีรายงานว่ารัฐบาลสหรัฐฯ อาจเข้าซื้อหุ้นบางส่วนของบริษัท
ขณะเดียวกัน ตลาดยังคงคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) อาจปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมเดือนก.ย. หลังข้อมูลแรงงานที่อ่อนแอและเงินเฟ้อจากภาษีนำเข้ายังไม่สะท้อนแน่ชัด อย่างไรก็ตาม ออสตัน กูลส์บี (Austan Goolsbee) ประธานเฟดสาขาชิคาโก เผยว่าจะต้องรอดูดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ซึ่งเป็นข้อมูลที่เฟดให้ความสำคัญ เพื่อดูว่าอัตราเงินเฟ้อมีผลต่อระบบเศรษฐกิจมากน้อยเพียงใด ซึ่งระยะหลังมานี้ ดัชนี PCE สูงกว่าดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) เล็กน้อย
ด้านข้อมูลเศรษฐกิจชุดล่าสุด บ่งชี้ว่ายอดค้าปลีกเดือนก.ค. เป็นไปตามคาดการณ์ ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคและการผลิตภาคโรงงานออกมาอ่อนแอ เนื่องมาจากผลกระทบภาษีนำเข้าของทรัมป์
ขณะที่ตลาดจับตาการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูตินของรัสเซียเกี่ยวกับการเจรจาสันติภาพในยูเครน ซึ่งอาจมีผลต่อราคาน้ำมัน ขณะเดียวกัน ยังจับตาการประกาศอัตราภาษีต่อเหล็กและเซมิคอนดักเตอร์รอบใหม่ในสัปดาห์หน้า
ที่มา Reuters
รายงาน โดย สิริพงศ์ สิริชุมศรี เรียบเรียง โดย Supak Hopuengju
อีเมล์. supak@efinancethai.com
ดูข่าวต้นฉบับ