หุ้นไทย ปิดบวก 3.06 จุด แรงซื้อดันกลุ่มสื่อสาร-แบงก์ หลังเจรจาการค้าไทย-สหรัฐฯ ชัดเจนขึ้น
หุ้นไทย ปิดวันนี้ 7 ก.ค. ที่ระดับ 1,123.00 จุด เพิ่มขึ้น 3.06 จุด มูลค่าซื้อขาย 31,447 ล้านบาท ผันผวนตามสถานการณ์การเจรจาการค้า แต่ภาพรวมของการเจรจาเริ่มมีความชัดเจน ทำให้ตลาดปรับตัวขึ้นในช่วงบ่าย และวันนี้มีปัจจัยกดดันจากหุ้นกลุ่มนิคมฯ ที่โครงการดาต้าเซ็นเตอร์ที่อาจชะงักตามกระแสข่าวสหรัฐฯ ควบคุมการส่งชิป AI มาไทย และมีแรงหนุนเล็กน้อยจากความคาดหวังว่ากนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) วันที่ 7 กรกฎาคม ปิดที่ระดับ 1,123.00 จุด เพิ่มขึ้น 3.06 จุด (+0.27%) มูลค่าการซื้อขาย 31,447.59 ล้านบาท ต่างชาติซื้อสุทธิ 573.67 ล้านบาท กองทุนขายสุทธิ 1,089.24 ล้านบาท
วันนี้มีการซื้อขายหลักทรัพย์บนกระดานใหญ่ (BIG LOT) 12 หลักทรัพย์ 15 รายการ พบ RABBIT มีมูลค่าสูงสุด 224 ล้านบาท ราคาเฉลี่ยหุ้นละ 0.32 บาท
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์และนักกลยุทธ์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยวันนี้ค่อนข้างผันผวน โดยในช่วงเช้าดัชนีปรับลดลงไปกว่า 10 จุด แต่พลิกกลับมาปิดในแดนบวกได้ คาดว่ามีปัจจัยหลักมาจากสถานการณ์การเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ซึ่งภาพรวมเริ่มมีความชัดเจนมากขึ้น ทำให้ตลาดปรับตัวขึ้นในช่วงบ่าย จากเดิมที่มีความกังวลถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวม นักลงทุนก็เริ่มเจาะจงในแต่ล่ะกลุ่ม ๆ ที่ได้ผลกระทบ และยังไปต่อได้แทน
โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจเนื้อสัตว์และผลผลิตทางเกษตร ที่ตลาดกังวลว่าจะได้ผลกระทบจากข้อเสนอของรัฐบาลไทยที่นำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐอเมริกามากขึ้น จึงอาจมีแรงขายมาก แต่วันนี้ตลาดก็ได้เห็นแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มที่ไม่ได้รับผลกระทบจากการเจรจาการค้าหรือมาตรการภาษีมากนัก ทั้งหุ้นกลุ่มสื่อสาร หรือกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่อาจมีความเสี่ยงเรื่องของเศรษฐกิจไทยในระยะกลาง แต่ในระยะสั้น ก็ยังมีผลประกอบการและการจ่ายเงินปันผลที่น่าพอใจต่อนักลงทุน
รวมทั้ง วันนี้ก็มีปัจจัยกดดันจากกระแสข่าวรัฐบาลสหรัฐฯ เตรียมออกกฎควบคุมการส่งออกชิปปัญญาประดิษฐ์ (AI) มายังไทยและมาเลเซีย เพื่อป้องกันการใช้ทั้งสองประเทศเป็นทางผ่านไปจีน ทำให้หุ้นกลุ่มนิคมอุตสาหกรรมปรับตัวลง จากการลงทุนสร้างดาต้าเซ็นเตอร์ที่อาจชะงักได้ แต่ทั้งนี้ ก็มีแรงหนุนเล็กน้อย จากรายงานตัวเลขเงินเฟ้อเดือน มิ.ย.ที่ยังคงติดลบต่อเนื่อง ทำให้ตลาดคาดหวังคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ย
แนวโน้มวันพรุ่งนี้ (8 ก.ค. 68) คาดดัชนียังคงผันผวนต่อ แต่อาจจะได้เห็นการฟื้นตัวขึ้นบ้าง จากตลาดที่ได้คลายความหวังเรื่องเศรษฐกิจโดยรวม มีความสมเหตุสมผลมากขึ้น จากการเจาะจงผลกระทบของแต่ล่ะ sector มากขึ้น โดยแนะนำให้ติดตามการเจรจาการค้ากับสหรัฐฯ ต่อไป พร้อมให้กรอบแนวรับ 1,114 จุดและแนวต้าน 1,130 จุด
5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด
- KTC มูลค่าการซื้อขาย 1,909.96 ล้านบาท ปิดที่ 25.00 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท
- ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 1,821.35 ล้านบาท ปิดที่ 287.00 บาท เพิ่มขึ้น 8.00 บาท
- DELTA มูลค่าการซื้อขาย 1,756.44 ล้านบาท ปิดที่ 110.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท
- TRUE มูลค่าการซื้อขาย 1,619.01 ล้านบาท ปิดที่ 11.30 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท
- KBANK มูลค่าการซื้อขาย 1,179.13 ล้านบาท ปิดที่ 156.50 บาท เพิ่มขึ้น 0.50 บาท