“บิ๊กเต่า” เผย “สีกา ก.” ให้ข้อมูลเป็นประโยชน์ เลือกเหยื่อรวย-เข้าถึงง่าย
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 8 กรกฎาคม 2568 เวลา 3.42 น. • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมท7 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เรียกประชุมแบ่งภารกิจให้กองใต้สังกัด สืบสวนสอบสวนหาข้อมูลเพิ่ม เผยคืบหน้ากรณี “ทิดอาชว์” และนางสาว ก. เจ้าตัวยอมรับเลือกแต่คนรวย-เข้าถึงง่าย อ้างสำนึกผิด ยอมร่วมมือกับตำรวจ พร้อมจี้สำนักพุทธฯ ทำงานให้มากกว่านี้ เพื่อเรียกศรัทธาวงการสงฆ์กลับมา
ความคืบหน้าในประเด็น อดีตพระเทพวชิรปาโมกข์ หรือ ทิดอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพ เจ้าคณะภาค 14-15 สายธรรมยุต มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับนางสาว ก. จนถูกแบล็กเมล์รีดไถ่เงิน 7.3 ล้านบาท ล่าสุดวันนี้ เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. และ พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. ได้เรียกคณะทำงานเข้าประชุมวางแผนการทำงานในกรณีของทิดอาชว์และนางสาว ก. ซึ่งใช้เวลาประมาณกว่า 3 ชั่วโมง โดย พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ได้ออกมาเผยความคืบหน้าว่า วันนี้เป็นการเรียกประชุมกองงานต่าง ๆ เพื่อแบ่งสายงานมอบหมายภารกิจให้แต่ละกองไปสืบสวนสอบสวนหาข้อมูลมาเพิ่มเติม ภายหลังจากที่ทำการสอบสวนนางสาว ก. และได้ข้อมูลมามากพอสมควร
ส่วนเส้นเงินนั้นมีความคืบหน้าไปอย่างมาก แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดต่อสื่อมวลชนได้ แต่ขอยืนยันว่าตำรวจ ปปป. ได้ทำงานควบคู่ไปกับสำนักพุทธฯ ในการเอาผิดทางอาญาและวินัยสงฆ์ ซึ่งยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าบุคคลใดจะมีความผิดบ้าง จึงต้องหาข้อมูลรายละเอียดหลักฐานมาเพิ่ม เพื่อให้มีความชัดเจนที่มากขึ้น
ตอนนี้ทางเจ้าหน้าที่มีหลักฐานและข้อมูลที่ตรงกับคำให้การของนางสาว ก. ทำให้รูปคดีมีความคืบหน้าไปอย่างมาก ทำให้รู้ว่านางสาว ก. เลือกเหยื่อยังไง มีใครบ้างที่เข้ามาเกี่ยวข้อง และนำเงินมากจากไปใช้อะไร ต้องขอเวลาให้ทางพนักงานสอบสวนทำงานเสียก่อน ซึ่งจากการสอบปากคำนางสาว ก. เจ้าตัวยินดีที่จะให้ข้อมูลในทุกด้าน โดยเจ้าตัวอ้างว่าสำนึกผิด พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับตำรวจ
ส่วนเรื่องที่นางสาว ก. จะคบกับใครตอนไหน หรือเลือกเหยื่อที่เป็นพระถึง 80% นั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เผยว่า นางสาว ก. เลือกเฉพาะเหยื่อที่มีเงินและเข้าหาได้ง่าย ใครให้เงินได้ก็เลือกคนนั้น ก่อนจะหาวิธีใกล้ชิดและแบล็กเมล์ อัดคลิปวิดีโอผ่านแอปพลิเคชันไลน์ ส่งรูปภาพและข้อความข่มขู่เหยื่อเพื่อรีดไถเงิน ตอนนี้ถึงแม้จะยังไม่มีผู้เสียหายเข้ามาแจ้งความดำเนินคดี แต่ดูจากประทุษกรรมของนางสาว ก. เป็นการกรรโชกทรัพย์ สามารถดำเนินการเอาผิดได้อย่างแน่นอน
ส่วนกรณีที่กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (สอท.) หรือตำรวจไซเบอร์ เข้าไปหาหลักฐานเพิ่มเติมกับนางสาว ก. ที่บ้านพักย่านนนทบุรี เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เพื่อที่จะดำเนินการเอาผิดในเรื่องของเว็บพนันออนไลน์ ไม่เกี่ยวของกับทาง บก.ปปป.
พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังกล่าวถึงสำนักพุทธฯ ว่าปัจจุบันวงการพระเสื่อมเสียไปมาก ทางเจ้าหน้าที่ของสำนักพุทธฯ ต้องทำงานมากกว่านี้ เมื่อเห็นพระที่กระทำความผิดอย่าปล่อยปละละเลย ไม่เช่นนั้นคดีไม่จบ และมีคดีอื่นๆ เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ รวมไปถึงทำให้ประชาชนคนไทยหมดศรัทธากับพระสงฆ์ นอกจากนี้จะขอความร่วมมือกับสื่อมวลชนเรื่องลูกของนางสาว ก. ขออย่าดึงเข้ามายุ่งเกี่ยวกับคดีนี้ เพราะตัวเด็กไม่รู้เรื่อง และการที่สื่อฯ ไปขุดขุ้ยอาจทำให้เด็กเสียอนาคต โดยเฉพาะสภาพจิตของตัวเด็กเอง
ส่วนพระที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับนางสาว ก. ขอให้ตัวท่านเองดำเนินการลาสิกขาได้เลย เพราะเรื่องดังกล่าวผิดทางวินัยสงฆ์ ยังไงก็ต้องลาสิกขาจากความเป็นพระ ถือว่าเป็นการทำบุญไปอีกทางหนึ่ง.-414- สำนักข่าวไทย