หนุ่มวัย 24 สารภาพผลักลูกเลี้ยงหัวฟาดพื้นดับ คุมทำแผนฯ
สำนักข่าวไทย Online
อัพเดต 8 กรกฎาคม 2568 เวลา 4.53 น. • เผยแพร่ 3 ชั่วโมงที่ผ่านมา • สำนักข่าวไทย อสมทนนทบุรี 7 ก.ค. –ตำรวจคุมตัวพ่อเลี้ยงโหด ผลักลูกเลี้ยงวัย 2 ขวบ ล้มศีรษะฟาดพื้นเสียชีวิต ทำแผนฯ หลังเค้นสอบกว่า 6 ชั่วโมง จนยอมรับ อ้างโมโหเด็กส่งเสียงดังรบกวน
ตำรวจ สภ.บางบัวทอง คุมตัวนายธนวัฒน์ อายุ 24 ปี ทำแผนประกอบคำรับสารภาพทำร้ายร่างกาย “น้องขงเบ้ง” อายุ 2 ขวบ 5 เดือน ลูกเลี้ยง จนเสียชีวิตภายในบ้านพัก ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมให้การว่า เด็กส่งเสียงดังรบกวนจึงเกิดความโมโหผลักจนล้ม ทำให้บริเวณท้ายทอยกระแทกกับพื้น กระทั่งแน่นิ่งไป เหตุเกิดช่วงเวลาประมาณ 18.00-20.00 น. เมื่อวานนี้ (6 ก.ค.) ส่วนบาดแผลรอยจ้ำตามร่างกายและบาดแผลอื่นๆ นายธนวัฒน์ยังไม่รับสารภาพ ต้องรอผลการตรวจทางนิติวิทยาศาสตร์ประกอบอีกครั้ง
แม่ของเด็ก อายุ 25 ปี เล่าว่า ตนออกไปทำงานทุกวัน เวลา 4 โมงเย็น ที่ร้านเล็บในตลาดบัวทอง นายธนวัฒน์ แฟนใหม่ เพิ่งคบกันได้เพียง 3 เดือน เป็นคนดูแลลูกต่อ แต่ช่วงแรกที่คบกันตนจะพาลูกไปที่ร้านด้วย มาระยะ 1 เดือนหลังที่ให้แฟนใหม่ดูแลจริงจัง เพราะเห็นว่าลูกชายติดแฟนใหม่ ซื้อของเล่นให้ตลอด ปกติแฟนใหม่เป็นคนใจเย็น ตอน 2 ทุ่ม แฟนใหม่โทรมาหาบอกว่าลูกชายล้มไปโดนของเล่น แต่ตนคิดว่าไม่น่าใช่ จึงรีบกลับบ้านและรีบนำลูกส่งโรงพยาบาล
ที่ผ่านมาแฟนของตนไม่ได้ดื่มเหล้า แต่เป็นคนชอบกิน 4×100 อย่างหนัก กินหมดแล้วก็เติมใหม่ ทำให้แทบไม่หลับไม่นอน และแฟนว่างงานมา 2 เดือน เหตุการณ์นี้ไม่มีแม่คนไหนอยากให้ลูกตาย แต่หลังๆ เริ่มสงสัย เพราะลูกมีอาการไม่ค่อยพูด และมีรอยช้ำตามลำตัว ตอนลูกอยู่กับตน 2-3 วัน ไม่มีรอยอะไรเลย แต่พออยู่กับพ่อเลี้ยง กลับมีรอยช้ำเพิ่มขึ้น
พ่อของนายธนวัฒน์ อายุ 50 ปี เดินทางมาดูการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บอกกับสื่อว่าตนเสียใจและขอโทษต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าลูกชายเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย แต่ยอมรับว่าลูกมีอารมณ์ร้อน คาดว่าสิ่งที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นการพลาดพลั้ง ไม่ได้มีเจตนาฆ่าน้องขงเบ้ง ต้องโทษตนเองอบรมลูกไม่ดี ผิดต้องยอมรับตามกฎหมาย อยากกราบขอโทษครอบครัวเด็ก ขอให้อโหสิกรรมให้กับลูกของตนด้วยที่พลาดพลั้งไป จากนั้นพ่อของผู้ต้องหาไปไหว้ขอขมาแม่ของน้องขงเบ้ง ซึ่งอยู่ในอาการโศกเศร้าอย่างหนัก
ขณะที่ นายภูริทัช อายุ 34 ปี พ่อแท้ๆ ของน้องขงเบ้ง เดินทางมาที่ สภ.บางบัวทอง เพื่อติดตามผลคดี และยังมีอาการเศร้าโศกเสียใจร้องไห้เป็นระยะ โดยมีเพื่อนคอยปลอบใจ ยืนยันว่าจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดทั้งสองคน
สอบถามเพื่อนบ้าน เล่าว่า เคยได้ยินเสียงเด็กร้องไห้ และบางครั้งได้ยินเสียงผู้หญิงกับผู้ชายทะเลาะกันเสียงดัง แต่ไม่บ่อย ปกติกลางวันผู้ต้องหาจะนอนเงียบๆ แต่พอตกกลางคืนจะเปิด-ปิดประตูเสียงดัง บางครั้งเสียงดังถึงขนาดบ้านสะเทือน บางคืนเสียงดังรบกวนถึงตี 3 ตี 4 ส่วนกรณีที่มีข่าวว่าช่วงเวลาที่เด็กเสียชีวิตมีคนได้ยินเสียงเด็กร้องไห้นั้น ขณะเกิดเหตุตนเองนั่งอยู่ที่บ้านชั้นล่าง แต่ไม่ได้ยินเสียงเด็กร้อง ได้ยินเพียงเสียงสุนัขเห่าเท่านั้น.-สำนักข่าวไทย