เจ้าอาวาสวัดดังเตือนสติสงฆ์ยุคใหม่ ไม่ควรสะสมทรัพย์ เก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์”
เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 16 ก.ค. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่วัดสว่างหนองชาด บ้านหนองชาด ม.6 ต.กู่ทอง อ.เชียงยืน จ.มหาสารคาม เพื่อสอบถามความเห็นจากพระอธิราชพงษ์ศิลป์ ฐิตสีโล เจ้าอาวาสวัดสว่างหนองชาด ต่อกระแสข่าวเกี่ยวกับการใช้จ่ายเงินและการสะสมทรัพย์ของพระสงฆ์ในช่วงที่ผ่านมา
พระอธิราชพงษ์ศิลป์เปิดเผยว่า ขณะนี้มีความกังวลต่อพฤติกรรมของพระภิกษุบางรูปที่สะสมทรัพย์สินเกินความจำเป็น ซึ่งขัดต่อหลักพระธรรมวินัย เพราะทรัพย์สิน เงินทอง หากมากเกินไป ย่อมนำไปสู่ "ความโลภ" ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการปล่อยวางตามแนวทางของพระพุทธศาสนา
สำหรับแนวคิดที่เสนอให้วัดมีเงินสดสำรอง 100,000 บาทเพื่อใช้จ่ายในกิจของวัด พระอธิราชพงษ์ศิลป์มองว่า วัดส่วนใหญ่มีบัญชีวัดไว้อยู่แล้ว เพียงแต่ต้องบริหารให้โปร่งใส โดยเฉพาะวัดในชนบทซึ่งค่าใช้จ่ายรายเดือนส่วนใหญ่จะอยู่ในหลักหมื่น เช่น ค่าน้ำ ค่าไฟ หรือกิจกรรมภายในวัด ส่วนวัดใหญ่ที่มีภาระมาก ก็จำเป็นต้องใช้จ่ายมากขึ้นตามสัดส่วน
ในระบบบัญชีวัดทั่วไป ผู้มีอำนาจร่วมเบิกจ่ายจะประกอบด้วยเจ้าอาวาสและตัวแทนญาติโยม ซึ่งช่วยกันตรวจสอบและอนุมัติค่าใช้จ่าย จึงไม่จำเป็นต้องเก็บเงินสดไว้มาก เพราะเสี่ยงต่อการเบี่ยงเบนไปใช้ในทางไม่เหมาะสม
พระอธิราชพงษ์ศิลป์ยังกล่าวถึงโอวาทของ “หลวงตามหาบัว ญาณสัมปันโน” ที่เคยกล่าวไว้ว่า “พระไม่ควรเก็บ เพราะเก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์ ควรนำไปสร้างสรรค์สิ่งดีงามเพื่อสังคม” ซึ่งถือเป็นหัวใจสำคัญของหลักการ "ปล่อยวาง" ตามพระธรรมวินัย
“พระแท้ต้องมีศีล มีภาวนา และรู้จักปล่อยวาง หากยังห่วงกองเงินกองทอง ก็ยากจะเป็นผู้พ้นทุกข์ได้อย่างแท้จริง” ท่านกล่าว
เจ้าอาวาสวัดสว่างหนองชาดยังได้เล่าถึงค่าใช้จ่ายของวัดทั่วไปว่า ส่วนใหญ่ขึ้นอยู่กับกิจกรรมและขนาดของวัด เช่น หากมีการก่อสร้างหรือบูรณะ ก็จะมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น บางครั้งจำเป็นต้องขอผ่อนผันกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกรณีรายรับไม่เพียงพอ เช่น การไฟฟ้าฯ เพื่อเลื่อนการชำระค่าไฟ
อย่างไรก็ตาม ท่านย้ำว่า หากมีการวางระบบบัญชีที่ดี วัดก็สามารถใช้เงินได้อย่างเหมาะสมโดยไม่ต้องพึ่งเงินสดสำรองจำนวนมาก และขณะนี้ก็เริ่มมีแนวทางจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ให้ทุกวัดจัดทำบัญชีรายรับ-รายจ่ายอย่างเป็นระบบ เริ่มตั้งแต่เดือนตุลาคมเป็นต้นไป
เจ้าอาวาสทิ้งท้ายว่า “ญาติโยมถวายปัจจัยด้วยศรัทธา หวังให้พระนำไปใช้ในทางสร้างบุญสร้างกุศล ไม่ใช่นำไปใช้ในทางส่วนตัว การรักษาความโปร่งใสและความสมถะของพระสงฆ์ คือการรักษาศรัทธาของพุทธศาสนิกชนไว้ให้มั่นคง”