โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

‘แพทองธาร’ สั่งทบทวนจัดสรรงบคืนวัตุโบราณให้ ‘กัมพูชา’

ข่าวช่องวัน 31

อัพเดต 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา • เผยแพร่ 4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานการประชุมหารือร่วมกับผู้บริหารกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.แพทองธาร กล่าวว่า วันนี้ถือเป็นการประชุมครั้งแรก มีข้อที่อยากจะฝากเอาไว้ และอยากจะให้ช่วยกันผลักดัน รวมถึงอยากจะอัปเดตข้อมูลให้ฟัง ซึ่งวันนี้ตนได้ทำการบ้านมาเล็กน้อย และรู้สึกดีใจที่ได้ฟังจากทุกคนว่า แต่ละหน่วยงานแต่ละฝ่ายทำอะไรกันอยู่บ้าง และในกระทรวงฯ มีอะไรที่อยากให้ดำเนินการเพิ่มเติมบ้าง

ประเด็นแรก อยากจะขอชี้แจงเรื่องข่าวปลอม เรื่องการส่งคืนวัตถุโบราณจำนวน 20 รายการ ให้กับประเทศกัมพูชา ตนขอยืนยันว่า ไม่เป็นความจริง เพราะการคืนวัตถุโบราณให้กับประเทศกัมพูชามีมาตั้งแต่สมัย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี ในปี พ.ศ.2558 ซึ่งประเทศไทยได้คืนไปแล้วจำนวน 23 รายการ หลังตรวจสอบว่าเป็นของประเทศกัมพูชา จึงดำเนินการส่งมอบคืน จากทั้งหมด 43 รายการ ที่นำเข้ามาจากประเทศสิงคโปร์ ในปี พ.ศ.2543 และเมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 มีมติที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลของ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี เห็นชอบให้ส่งมอบคืนวัตถุโบราณจำนวน 20 รายการ ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ หลังกรมศิลปากร และผู้เชี่ยวชาญ ยืนยันว่าวัตถุโบราณดังกล่าวมีต้นกำเนิดอยู่ในประเทศกัมพูชา และปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนการจัดสรรงบประมาณของกรมศิลปากร ซึ่งได้รับรายงานว่า งบประมาณในปีปัจจุบันไม่เพียงพอ และไม่ได้เป็นเรื่องเร่งด่วน จึงไม่สามารถของบกลางได้ และจะต้องมีการส่งเรื่อง เพื่อตั้งงบประมาณของกระทรวงฯ และรายงาน ครม. เพื่อทราบ เป็นขั้นตอนต่อไปในการหาหน่วยงานที่จะมาสนับสนุนงบประมาณในการส่งคืน

น.ส.แพทองธาร กล่าวอีกว่า ที่สำคัญสถานการณ์ระหว่างประเทศไทย และกัมพูชา ขณะนี้ ทางกระทรวงวัฒนธรรมจึงมีความเห็นให้ทบทวน เรื่องดังกล่าวตามความเหมาะสม ก่อนย้ำว่า ให้ทบทวนก่อน ส่วนเรื่องตั้งงบประมาณค่อยมาว่ากันอีกที ซึ่งที่เหลืออยู่ก็จะยังไม่ส่งมอบคืน

ขณะที่ประเด็นที่ 2 คือ เรื่องกลุ่มประสาทตาเมือน กระทรวงวัฒนธรรม ขอยืนยันว่า กลุ่มประสาทตาเมือน ยังเป็นโบราณสถานที่อยู่ในอำนาจอธิปไตยของไทย และมีการประกาศขึ้นทะเบียนโบราณสถานตามกฎหมายว่า ด้วยโบราณสถาน พ.ศ.2505

ส่วนพื้นที่ภาคอื่น ๆ ได้รับรายงานจากกระทรวงการต่างประเทศว่า จะรีบดำเนินการรักษาไว้ ซึ่งดินแดน และอำนาจอธิปไตยของไทยเช่นกัน และวันนี้เป็นโอกาสอันดีที่มีสื่อมวลชนอยู่ด้วย ในการปล่อยข่าวของการปลุกปั่นต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดผลเสีย และเกิดผลกระทบ ตนต้องดำเนินการแจ้งความกับผู้ที่ปล่อยข่าว ซึ่งอันที่จริงการแสดงความคิดเห็นเรื่องการว่ากล่าว ธรรมดา ตนเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นรัฐมนตรี เป็นบุคคลสาธารณะอยู่แล้ว ถือเป็นเรื่องปกติ ไม่มีปัญหาแน่นอน แต่การปล่อยข่าว เรื่องที่ตนส่งมอบวัตถุโบราณไปแล้ว ซึ่งกระทรวงวัฒนธรรมทราบอยู่แล้วว่า ไม่จริง เพราะฉะนั้นเรื่องนี้ต้องดำเนินคดีตามกฎหมาย

น.ส.แพทองธาร ยังกล่าวต่อว่า อีกสิ่งหนึ่งที่อยากทำนอกจากเรื่องซอฟต์พาวเวอร์แล้ว คือ มาตรการการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในประเทศไทยโดยให้เงินคืน หรือ Cash Rebate ซึ่งก่อนหน้านี้ได้จัดทำให้กับชาวต่างชาติที่มาถ่ายทำภาพยนตร์ในประเทศไทย โดยได้รับการสนับสนุนการคืนเงินสูงสุด 30% จึงอยากทำ ให้คนไทยที่ทำภาพยนตร์เอง ซึ่งก็อยากสนับสนุนให้ภาพยนตร์ไทยไปได้ไกลมากกว่านี้ และวันนี้ก็จะได้รับรู้รายละเอียด จากกระทรวงวัฒนธรรมว่าเป็นอย่างไรบ้าง ติดขั้นตอนไหนบ้าง และ มีเรื่องอะไรที่ควรจะสนับสนุนอย่างต่อเนื่องบ้าง ก็อยากจะส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ของประเทศไทย โดยเฉพาะภาพยนตร์ไทย ให้ไปไกลมากยิ่งขึ้น เพราะเรามีภาพยนตร์ไทยที่ดีแล้ว เราสามารถโฆษณาแฝง หรือ Tie-in สิ่งของต่าง ๆ สินค้าต่าง ๆ รวมไปถึงวัฒนธรรมเข้าไป ก็จะเป็นรูปแบบของซอฟต์พาวเวอร์ที่จะนำเรื่องดี ๆ ของไทยออกสู่สายตาชาวโลกได้ง่ายขึ้น จึงอยากสนับสนุน

อีกหนึ่งประเด็น คือ อุตสาหกรรมซอฟต์พาวเวอร์ที่ริเริ่มมานาน ซึ่งอยากจะทำในส่วนนี้อย่างเร่งด่วน หรือ Quick Win ใน 4 อุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ ภาพยนตร์, อาหาร, มวยไทย และ Wellness ซึ่งตนคิดว่า จะสามารถยกระดับซึ่งตนคิดว่าใน 4 อุตสาหกรรมนี้ จะสามารถยกระดับคุณภาพอุตสาหกรรม เพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว และส่งเสริมศักยภาพ สร้างงาน และไม่ว่า จะเป็นอุตสาหกรรมอื่นที่เกี่ยวข้อง ทั้งเรื่องการท่องเที่ยวร้านอาหาร หรือโรงแรม และอะไรที่สามารถเชื่อมโยงกับกระทรวงวัฒนธรรมได้ก็มีความยินดีที่จะสนับสนุน และส่งเสริมทั้งภาครัฐ และเอกชน และวันนี้จะมาลงเรื่องการทำงานให้เห็นผลงานเป็นรูปธรรมโดยเร็ว.

Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...
Loading...

ล่าสุดจาก ข่าวช่องวัน 31

DECODE 2025 เปิดเคส “แม่บุญล้ำ” แบรนด์น้ำปลาร้าต้มสุกปรุงรสอันดับ1 ของไทย กับกลยุทธ์ Media Fusion สู่ความสำเร็จ

30 นาทีที่แล้ว

แม่น้ำสายทรงตัว แม้เตือนถึงขั้นวิกฤต แต่ยังสามารถรับมือได้ไม่ท่วม

2 ชั่วโมงที่ผ่านมา

‘ศรีสุวรรณ’ ร้องสอบ ‘สุริยะ’ นำ ‘แพทองธาร’ ถวายสัตย์ฯ หลังถูกสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่

3 ชั่วโมงที่ผ่านมา

จับครูวิทยาศาสตร์ ลักชุดชั้นในพยาบาล ดมจนหมดกลิ่นแล้วไปเผาทิ้ง

4 ชั่วโมงที่ผ่านมา

วิดีโอแนะนำ

ข่าวและบทความทั่วไปอื่น ๆ

อย่าเชื่อ! แผ่นดินไหวขนาด 5.1 แนววงแหวนแห่งไฟทะเลอันดามัน

สยามรัฐ

สงครามการค้ายังกดดันตลาดหุ้นเอเชีย-ทองในประเทศร่วง 200

JS100

"กรมทรัพยากรธรณี" ยันแผ่นดินไหวหมู่เกาะนิโคบาร์ ไม่เกิดสึนามิในไทย

สยามรัฐ

เปิดสาเหตุ รถติด กรุงเทพฯเหนือ กับ คู่หูจราจร : 4 กรกฎาคม 2568

สวพ.FM91

ระทึก! รถพ่วงบรรทุกสารเคมีพลิกคว่ำกลางถนน ทำรถติดยาวเหยียด 7 กิโลเมตร

เดลินิวส์

ลุ้น! "ตู้น้ำฯ" มรดกยุค มท.หนู เป้าแสนจุด ลงอปท.ละ 2 แห่ง ไปต่อ? ชง "มท.อ้วน" เคาะ! พ่วง"งบกลาง" 2.7 พันล. จัดหาปีนี้หมื่นโครงการ

Manager Online

มท.1 ไฟเขียวชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนพนันกลางกรุง ห่างสถานีรถไฟฟ้า 300 เมตร พบเจ้ามือเป็นชาวกัมพูชา

THE STANDARD

ลุยค้นบ้าน สีกา ก. หาหลักฐานคลี่ปมสงสัย ทิดอาชว์ ทุจริตเงินวัด ยึดมือถือมาตรวจสอบ แบล็กเมลใครอีกหรือไม่

Khaosod

ข่าวและบทความยอดนิยม

Loading...