สาวสุดช็อก! ร่ำไห้เล่าวินาที เครื่อง MRI ดูดร่างสามีเข้าเครื่องดับสลด
เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์สำนักข่าวต่างประเทศ "New York Post" รายงานเหตุสลด เมื่อ เอเดรียน โจนส์-แมคอัลลิสเตอร์ ภรรยาของ คีธ แมคอัลลิสเตอร์ วัย 61 ปี หนุ่มชาวลองไอแลนด์ ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันภายในห้อง MRI ได้ออกมาเปิดใจด้วยความโศกเศร้า ว่า ร่างกายของเขาอ่อนปวกเปียกอยู่ในอ้อมแขนของฉัน และเหตุการณ์นี้ยังฝักลึกอยู่ในหัว หลังสามีถูกเครื่อง MRI ดึงดูดเข้าไป
เหตุการณ์สุดสลดนี้เกิดขึ้นเมื่อบ่ายวันพุธที่ 16 ก.ค.ที่ผ่านมา ภายใน สถานบริการ MRI แห่งหนึ่งในเมืองเวสต์เบอรี รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ขณะที่เอเดรียน โจนส์-แมคอัลลิสเตอร์ กำลังรอรับการถ่ายภาพหัวเข่า สามีของเธอ ซึ่งปกติจะสวม โซ่ขนาดใหญ่หนัก 20 ปอนด์ ไว้ที่คอได้เดินเข้ามาในห้อง MRI เพื่อช่วยให้เธอลุกจากโต๊ะหลังเสร็จสิ้นการตรวจ แต่วินาทีที่ทั้งคู่กำลังหัวเราะกับเจ้าหน้าที่ MRI และเดินเข้ามาในห้อง จังหวะนั้น เครื่องก็พลิกตัวเขาและดึงร่างเขาเข้ามา เธอกับเจ้าหน้าที่ MRI พยายามดึงร่างสามี ออกจากเครื่องอย่างตื่นตระหนก แต่ก็ไม่สามารถช่วยได้
โจนส์-แมคอัลลิสเตอร์ ย้ำว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเป็นความประมาทของช่างเทคนิค MRI เพราะช่างทราบดีว่าสามีของเธอมักสวมโซ่อยู่ตลอดเวลา เพราะมาที่นี่หลายครั้งแล้ว และเคยพูดคุยเรื่องนี้กันมาก่อนแล้ว เนื่องจากสามีเธอสวมโซ่เส้นนี้เป็นส่วนหนึ่งของการฝึกยกน้ำหนัก ดังนั้น เธอจึงเชื่อว่าความประมาทของช่างเทคนิคคือสาเหตุที่ทำให้สามีเธอต้องเสียชีวิต
คีธ แมคอัลลิสเตอร์ เสียชีวิตหลังประสบเหตุดังกล่าวบาดเจ็บ และมีอาการหัวใจวายหลายครั้งเนื่องจากสนามแม่เหล็กแรงสูงที่สร้างขึ้นโดยเครื่อง MRI มีคุณสมบัติในการดึงดูดวัตถุโลหะด้วยแรงมหาศาล และยังสามารถทำให้วัตถุโลหะร้อนขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้ผู้ป่วยเกิดแผลไหม้ กระทั่งมาเสียชีวิตในวันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา
เหตุการณ์นี้ถือเป็นอุทาหรณ์สำคัญที่เน้นย้ำถึงความจำเป็นในการปฏิบัติตาม มาตรการความปลอดภัย อย่างเคร่งครัดในห้อง MRI เพื่อป้องกันโศกนาฏกรรมที่อาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต
ข้อมูล เว็บไซต์ "New York Post"